3
หลังจากพิธีกรกล่าวบนเวทีเสร็จก็ถึงเวลาเจ้าบ่าวเจ้าสาวพูดความในใจ ซึ่งทั้งสองพูดไม่กี่ประโยค กล่าวสั้นๆ ราวกับว่า อยากให้มันจบๆ ไป
“ดื่มครับ ดื่มสำหรับวันเส็งเคร็งของผม ดื่มให้เมียที่ผมไม่ต้องการ เอ้า ดื่ม”
คำพูดพายัพเรียกความตกใจให้ทุกคนในห้องจัดเลี้ยง จะมีเพียงอังศุมาลีคนเดียว ที่เข้าใจความรู้สึกพายัพ รู้ถึงเหตุผลการต่อต้านของเขา หล่อนได้แต่ยืนมองสามีกระดกดื่มบรั่นดีไปหลายอึก ก่อนเดินลงจากเวที ไม่สนใจใครทั้งสิ้น
เมื่องานแต่งจบ...พายัพไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่
สองชั่วโมงต่อมา
ประตูห้องนอนพายัพ ที่ตั้งใจไว้ว่า เป็นห้องหอเปิดออก สัมผัสแรกยามอังศุมาลีย่างเท้าเข้ามาในห้องคือ กลิ่นสุรา คละคลุ้งราวกับว่า ห้องนี้ฉีดน้ำหอมกลิ่นเหล้า หลังจากไฟในห้องเปิด อังศุมาลีถึงกับถอนหายใจกับสภาพพายัพ
เขานอนคว่ำหน้าบนเตียง แขนข้างขวาห้อยลงมาข้างเตียง บนพื้นตรงกับที่มือตก มีขวดบรั่นดีเหลือก้นขวดตกอยู่ พายัพคงดื่มเหล้าจนเมาหลับไป
ความเจ็บปวด เสียใจของพายัพ อังศุมาลีรู้ซึ้งดี เพราะหล่อนผ่านช่วงเวลานั้นมาเช่นกัน หล่อนดีกว่าตรงที่ว่า ความเข้มแข็งในตัวที่มีมาก ส่งผลให้อังศุมาลีก้าวผ่านประตูความรู้สึกนั้นได้ ทว่าผ่านมาหลายปี หญิงสาวก็ไม่ลืมความเสียใจนั้นเลย อาจพูดได้ว่า เป็นความเสียใจมากที่สุดในชีวิต
หล่อนเดินมาหยิบขวดเหล้าตั้งวางลงบนตู้ข้างเตียง อังศุมาลีมองกรอบรูปภาพวางอยู่บนตู้ ตอนเข้ามาในห้องนี้ครั้งแรก อังศุมาลีไม่ทันสังเกตเห็นภาพนี้ ตอนนี้เห็นเต็มสองตา คนในภาพคืออังศุมาลิน คนรักเก่าของพายัพ ที่จากเขาไปก่อนวัยอันควร ก่อนหันมองสามีเมาหลับบนเตียง พรางถอนหายใจอีกรอบ จากนั้นเดินไปหยิบชุดนอนออกจากตู้เสื้อผ้า ที่นอมจัดเสื้อผ้าตนไว้ในตู้ให้เรียบร้อย ก่อนเดินเข้าห้องน้ำ ไม่สนใจสามีเมาหัวลาน้ำ
ที่นอนของอังศุมาลีคือ โซฟาปลายเตียง หล่อนเล็งไว้ตั้งแต่เข้ามาห้องนี้ครั้งแรก หล่อนเดินไปหยิบหมอนมาวางบนโซฟา พร้อมกับผ้าห่มของตนที่นำมาด้วย วันนี้หล่อนเหนื่อยทั้งกายและใจ หัวถึงหมอนก็หลับทันที
วันนี้มีประชุมใหญ่ประจำปีของบริษัท ในฐานะที่พายัพนั่งตำแหน่งรองประธาน และกุมบังเหียนบริหารงานแทนบิดา ที่เข้าบริษัทสองถึงสามเดือนต่อครั้ง แม้เมาหนักมากแค่ไหน เมื่อมีหน้าที่รับผิดชอบ นาฬิกาปลุกสามเรือนคือตัวช่วยชั้นดี ส่งเสียงปลุกคนเมาให้ตื่นด้วยระดับอันแผดก้อง หากไม่ตื่นก็คงนึกว่า ไหลตาย
หลังจากอาบน้ำเสร็จ พายัพเดินมาหยุดยืนหน้าตู้เสื้อผ้า เขามองชุดทำงานที่แขวนไว้ตรงที่จับประตู นึกสงสัยว่า ใครกันที่นำมันออกมาเตรียมไว้ให้เขา ช่วงจังหวะนั้นพายัพหันมองดูโต๊ะเครื่องแป้ง เดิมทีมันมีแค่เครื่องโกนหนวด โฟมใช้ก่อนโกนหนวด และบาล์มทางบำรุงหลังโกนหนวดเสร็จ ครีมทาหน้า ทาตัวยามออกรอบกลับกลุ่มเพื่อนและลูกค้า ที่ระยะหลังนี้แทบไม่ได้ใช้ โต๊ะนี้ยังไว้สำหรับวางนาฬิการาคาแพงลิบลิ่ว ไม่ต่ำกว่าสามล้านต่อเรือน ที่มีกว่าห้าเรือน
ทว่าวันนี้ต่างไป กลับมีของใช้สำหรับผู้หญิงวางอยู่ด้วย พวกครีมบำรุงผิว แป้งเด็ก เครื่องสำอางอีกสามสี่อย่าง ตอนนี้พายัพเพิ่งนึกออกว่า ต่อจากนี้ไป เขาไม่ได้ใช้ห้องนี้คนเดียว มีสตรีอีกคนเข้ามาพักอาศัยด้วย พอนึกได้ความหงุดหงิดเข้ามาในจิตใจทันที พายัพไม่สนใจเสื้อผ้าถูกเตรียมไว้ให้ เขาเลือกชุดใหม่ในตู้ ผลัดเปลี่ยนให้เรียบร้อย จากนั้นเดินออกจากห้องนอน ไปยังห้องทานอาหาร
มื้อเช้าทุกวันคงเป็นมื้อเดียวที่คนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า แต่ไม่คิดว่าอยู่กับครบองค์ประชุมคือ คุณตากับคุณยายนั่งทานมือเช้าด้วย พายัพไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าเมื่อคืนนี้ท่านทั้งสองอาจนอนค้างที่นี่
“มื้อนี้พิเศษมากเลยนะ เราอยู่กันพร้อมหน้าเลย” พัชรีเอ่ยขึ้น มองหลานชายนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับตน โดยเว้นเก้าอี้ไว้อีกตัว ถัดไปคือตายายของพายัพ “แล้วก็พิเศษมากๆ ที่มีแม่ครัวคนใหม่ ทำกับข้าวให้เรากิน”
พายัพมองหน้าคนพูด ยังไม่ทันถามว่า ใครคือแม่ครัวคนนี้ ป้ายุแม่บ้านใหญ่ของบ้านไปไหน แม่ครัวคนนั้นเดินเข้ามาในห้อง ในมือถือถาดอาหารมาด้วย โดยมีสองสาวใช้ช่วยกันถือสำรับของคนร่วมโต๊ะเดินตามมา
“ข้าวต้มกระดูกหมูทรงเครื่องค่ะ” อังศุมาลีบอกชื่อเมนู วางชามข้าวต้มให้มานะชัย ตามมาด้วยชามของพายัพ “รับรองว่าคุณโรมต้องชอบค่ะ มาลีเคี่ยวกระดูกหมูจนเปื่อยเลยนะคะ น้ำซุปก็เข้มข้นค่ะ ความหวานหอมอร่อยค่ะ”
พายัพมองหน้าภรรยาที่ไม่ต้องการ ก่อนหันมองชามข้าวต้ม ที่ดูแปลกตากว่าทุกครั้ง ยามเห็นเมนูนี้ น้ำข้าวต้มแทนที่จะค่อนข้างใส หรือไม่ก็ข้นจากน้ำเคี่ยวกระดูกหมู น้ำในชามนี้ออกสีเหลืองอำพัน เขาถึงกับมองนิ่งค้าง แถมกลิ่นยังแปลกอีกด้วย เหมือนกลิ่นเหล้าไม่มีผิด
เอ...หรือกินเหล้ามากเกินไป ได้กลิ่นอะไรเป็นเหล้าหมด
“ฝีมือเธองั้นเหรอ” พายัพยังไม่หยิบช้อน เขาเอ่ยถามคู่ชีวิต
“ใช่ค่ะ ตื่นแต่เช้ามาทำให้คุณกินเลยนะคะ เอาใจแบบสุดๆ” อังศุมาลีตอบกลับ
“งั้นฉันไม่กิน อีกอย่างมันคงไม่อร่อยด้วย เห็นหน้าตาอาหารก็รู้แล้ว” หน้าคนทำยังไม่อยากมอง พายัพคงไม่กินอาหารฝีมืออังศุมาลีแน่
“ไม่กล้าล่ะสิ” พายัพสนใจคำพูดเมียไม่ปรารถนาทันที หันมองคนพูด