ตอนที่ 2 มาลีขี้เมา
ยมทูตสองตนยืนจับวิญญาณของผู้หญิงคนนั้นไว้ เธอยังอยู่ในอาการมึนเมา แต่เมื่อเห็นหน้ายมทูติและร่างของตัวเองนอนนิ่งอยู่ที่พื้น ที่มีผู้คนยืนห้อมล้อมอยู่ก็ต้องตกใจและสร่างเมาภายในพริบตา เธอรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
“ปล่อยฉัน ฉันจะกลับไปหาลูกหาผัว พวกเขารอฉันอยู่” เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่ได้ลาลูกกับสามีเลย เธอจะจากไปตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“เจ้าไม่ต้องห่วง ลูกทั้งสองกับสามีของเจ้าจะมีคนดูแลแทนเจ้าแล้ว” พูดจบยมทุติก็หันหน้ามาหามะปรางที่ยืนสังเกตการณ์อยู่อย่างเงียบ ๆ เธอส่ายหน้าพรืดเมื่อเห็นสายตาคมกล้ามองมาทางนี้ ทั้งที่ตอนนี้เธอก็เป็นแค่อากาศแต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ชอบกล
“ไม่นะ ข้าไม่เอาร่างนี้เด็ดขาด” ร่างนี้ทั้งขี้เมาทั้งหัวแตก ถึงจะสวยมากก็เถอะ แต่ดูแล้วเธอคงร้ายไม่เบาถึงได้กล้าดื่มเหล้าจนเมามายแล้วมาเต้นมั่วด้านหน้าเวทีหมอลำกับผู้ชายเช่นนี้
เจ้าของร่างก็พูดขึ้นอีก “ไม่ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ปล่อยฉันนะ” เมื่อรู้ว่าตัวเองตายเธอถึงได้คิดถึงลูกกับสามีที่นอนรออยู่ที่บ้าน รู้สึกผิดที่ออกมาเที่ยวกับชายอื่นอีกครั้งจนตัวต้องมาตายจากเช่นนี้
“อายุขัยของเจ้าหมดแล้ว เจ้าต้องไปกับข้า” ยมทูติเอ่ยขึ้นเสียงดุ
ได้ฟังดังนั้นวิญญาณของเจ้าของร่างก็ร้องห่มร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ แล้วมองหน้ามะปรางอย่างมีความหวัง “ฉันฝากเธอดูแลลูกกับสามีด้วยนะ ฮือ ๆ”
“ไม่ ไม่นะ” มะปรางกล่าวปฏิเสธพลางก้าวขาถอยหลัง หาร่างให้เธออยู่ทั้งทีก็แถมทั้งลูกทั้งผัวมาให้เลยหรืออย่างไร เธอยังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัว แต่แล้วมือของท่านยมทูติก็ผลักวิญญาณของมะปรางเข้าไปที่ร่างที่นอนอยู่ตรงนั้นแทน
“อ๊ายยยย!” มะปรางกรีดร้องด้วยความตกใจ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะร่างนั้นได้ดูดวิญญาณเธอเข้าไปแล้ว
จากนั้นยมทูติก็นำวิญญาณของเจ้าของร่างเดิมไปวินิจฉัยกรรมดีกรรมชั่วที่นรกต่อไป
“ฮือ ๆ แม่ แม่อย่าเพิ่งตายนะ ฮือ ฮึก พ่อคะแม่ยังไม่ตายใช่ไหมคะ” อุ่นเด็กหญิงวัยหกขวบร้องไห้สะอึกสะอื้นปานจะขาดใจหันไปมองหน้าพ่อที่นั่งอยู่ข้างแม่
“แม่ยังไม่ตายหรอกลูก แม่แค่นอนหลับเท่านั้น” เคนบอกลูกน้ำเสียงอ่อนโยน ทั้งที่ในใจกำลังกรุ่นโกรธขีดสุด เมื่อรู้ว่าภรรยาแอบไปดูหมอลำอีกครั้ง หลังจากที่กลับมาพร้อมกันแล้วตอนสี่ทุ่ม สำคัญกว่านั้นคือเธอออกไปกับญาติผู้น้องของเขาที่เคยเป็นแฟนเก่าของเธอจนเกิดเรื่องราวหัวร้างข้างแตก และต้องแบกกันมาส่งถึงบ้านจนสว่างคาตาเช่นนี้
“แล้วทำไมแม่ถึงนอนนานจังเลยครับ” เอื้อลูกชายคนโตวัยเจ็ดขวบเอ่ยถาม เมื่อเห็นแม่นอนหลับสนิทมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว
“พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน คงอีกสักพักล่ะมั้งแม่ถึงจะตื่น”
“ไหน มันอยู่ไหน ออกไปร่านกับผู้ชายแล้วยังมีหน้าให้ผู้ชายอุ้มมาส่งถึงบ้านอีกหรือ ทำงามหน้านัก” ตัวยังเดินมาไม่ถึงแต่แม่สามีก็ส่งเสียงมาก่อน เธอก้าวเท้ายาวขึ้นไปบนเรือนของลูกชายอย่างรีบร้อน เมื่อรู้ว่าลูกสะใภ้ใหญ่ของบ้านแอบไปดูหมอลำกับลูกชายน้องสาวสามี แถมยังไปเต้นมั่วหน้าเวทีจนโดนลูกหลงหัวแตกจนสลบกลับมาแบบนี้
สามพ่อลูกหันไปดูที่ต้นเสียง
“ย่า” หลานทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกันด้วยแววตาหวาดกลัว
“แม่พวกแกยังไม่ตื่นอีกเหรอ จะนอนไปถึงไหน ยังไม่มีใครเอาข้าวออกไปส่งไอ้เริงกับไอ้สามันเลยนะ” เคนเป็นลูกคนโต สำเริงกับอรสาเป็นลูกคนที่สองและคนสุดท้องของฟั่นกับกำพล
“แล้วอาคูณไม่อยู่เหรอครับ” ดอกคูณคือเมียของสำเริงที่อยู่บนเรือนหลังใหญ่กับพ่อปู่แม่ย่า ส่วนเขากับมาลีแยกเรือนออกมาอยู่ข้างยุ้งข้าวแล้ว เพราะมาลีทำอาหารเลี้ยงพวกน้อง ๆ ไม่ได้ ปู่จึงไล่มาอยู่ที่นี่ แต่เมื่อถึงฤดูทำนาก็ต้องไปช่วยกันทำ
“พาลูกออกไปนาแล้ว”
แล้วทำไมไม่เอาข้าวออกไปด้วย รู้ทั้งรู้ว่ามาลีบาดเจ็บ แต่เคนก็ได้แค่คิด “วันนี้ม่วยคงออกไปนาไม่ได้หรอกแม่ เดี๋ยวผมไปแทนก็ได้ครับ” พอเข้าสู่หน้าแล้งผู้คนไม่มีอะไรทำส่วนมากก็เลี้ยงควายรอทำนาอย่างเดียว
“ป่วยจะตายอยู่แล้วยังจะห่วงเมียอีก เมื่อไรแกจะตาสว่างสักทีฮะเคน ไม่รู้ล่ะยังไงครั้งนี้แกกับนังม่วยก็ต้องหย่ากัน ถ้าแกไม่ยอมหย่าก็ขนข้าวของออกไปจากบ้านฉันให้เร็วที่สุด” อยู่ไปมาลีก็มีแต่ทำให้ตระกูลของเธอเสื่อมเสียชื่อเสียง งานการก็ช่วยครอบครัวไม่ได้มาก เอาแต่กินเหล้าเมากับเพื่อนไปวัน ๆ
“แม่!” เคนมีสีหน้าลำบากใจ ลูกทั้งสองคนก็พลอยนั่งหน้าเศร้าไปด้วยเมื่อได้ยินคำที่ย่าบอก
“ทำไม? แกรักมันมากจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้นเลยหรือไง ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วว่าม่วยมันเป็นผู้หญิงอัปมงคล แกถึงได้เจ็บออด ๆ แอด ๆ อยู่แบบนี้ไม่หายสักที ถ้ามันยังอยู่กับแกต่อ มีแต่แกนั่นแหละจะตายก่อนมัน” นับวันอาการลูกชายก็ยิ่งแย่ลงทุกวัน ผอมแห้งแรงน้อยเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดอยู่ได้เกินหน้าแล้งปีนี้หรือไม่ ฟั่นเดินเข้าไปใกล้ร่างมาลีแล้วพูดขึ้นอีก “นี่มันกินหรือมันอาบกันแน่ฮึ กลิ่นเหล้าถึงได้เหม็นหึ่งขนาดนี้เนี่ย” เธอย่นจมูกเพราะเหม็นกลิ่นเหล้าขาว รู้สึกเอือมระอากับลูกสะใภ้คนนี้เหลือเกิน ผัวป่วยจะเป็นจะตายกลับมีหน้าออกไปเที่ยวกับผู้ชายได้อย่างหน้าไม่อาย แถมผู้ชายคนนั้นยังเป็นญาติสามีอีก
“ผมขอคุยกับม่วยอีกทีนะครับ ถ้าเขายอมเลิกผมก็จะเลิก” ทุกครั้งที่เขาท้าเลิกสุดท้ายแล้วมาลีก็ไม่ยอมเลิกกับเขาอยู่ดี พอเธอพูดดีด้วยหน่อยเขาก็ใจอ่อนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันหนักหนาเขาคิดว่าต้องคุยกับเธออย่างเด็ดขาดเสียแล้ว
“ไม่นะคะพ่อ พ่ออย่าเลิกกับแม่นะคะ ฮือ ๆ ๆ” อุ่นร้องไห้เสียงดังขึ้นอีกครั้งมือเล็กเอื้อมไปจับแขนพ่อแน่น เอื้อก็ปล่อยให้น้ำตาไหลเอื่อย ๆ ลงมาอาบแก้มเช่นกัน แม่กินเหล้าเมาทีไรต้องทะเลาะกับพ่อและขอเลิกกันทุกที