บท
ตั้งค่า

มีความเฉยชา(1)

ตอนที่ 3

มีแต่ความเฉยชา

ตั้งแต่เรียนจบกอหญ้าก็ยังไม่ได้ทำงานที่ไหนเพราะครอบครัวมุ่งมั่นที่จะให้เธอรีบแต่งงานกับภีมเดชให้ไวที่สุดด้วยปัญหาทางธุรกิจของครอบครัวที่เธอเองก็ไม่ค่อยรับรู้เท่าไหร่ ด้วยบุคลิกท่าทางอะไรหลาย ๆ อย่างทุกคนรอบตัวต่างมองว่าเธอเป็นเพียงแค่เด็กน้อยที่ไม่ควรจะรับรู้เรื่องราวอะไรแต่สุดท้ายเธอเองก็ตกมาเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาด้วยการแต่งงานกับผู้ชายที่เธอรู้จักเขาได้ไม่นาน

“ฉันจะไปทำงานกับธนานะคะ”

กอหญ้าตั้งใจที่จะพูดเรื่องนี้มาได้สักพักแต่ก็ยังไม่มีโอกาสวันนี้เธอตัดสินใจแล้วที่จะบอกให้สามีได้รู้

“ไม่”

คำพูดสั้นๆที่ไม่ว่าจะฟังมากี่เดือนแล้วกอหญ้าก็ยังไม่เคยรู้สึกชิน เธอพยายามจะบอกกับตัวเองว่าเขาไม่ได้เป็นแบบนี้หลังจากแต่งงานแต่เขาก็ยังเป็นคนเดิมเสมอโดยไม่คิดจะเปลี่ยน

“ฉันไม่ได้ขออนุญาตแต่แค่บอกค่ะ”

หญิงสาวตัดสินใจว่าถ้าเธอยังยอมฟังและทำตามในสิ่งที่ภีมเดชต้องการ ชีวิตก็คงไม่มีวันได้รับการยอมรับว่าตอนนี้เธอโตเป็นผู้ใหญ่คิดและตัดสินใจด้วยตัวเองได้ในเมื่อเขาก็ยังถือว่าตัวเองอายุมากกว่าใช้เหตุผลของตัวเองตัดสินทุกอย่างเสมอ วันนี้กอหญ้าจึงตัดสินใจที่จะดื้อดึงทำในสิ่งที่เธอเห็นว่าดี

“มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปทำงานกับผู้ชายคนอื่น”

ท่านประธานที่ยังคงวางท่าเป็นหัวหน้าในทุกๆที่ไม่ใช่แค่ที่บริษัทแม้เวลากลับมาอยู่บ้านภีมเดชก็ยังทำเหมือนภรรยาเป็นลูกน้องที่บริษัทที่ต้องเชื่อฟังเขาเสมอ

“ฉันเรียนมาเพราะหวังเอาความรู้ไปใช้ในการทำงานไม่ได้เรียนมาเพื่อจะอยู่บ้านเฉยๆอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ค่ะ อยากมีชีวิตของตัวเองอยากออกไปข้างนอกบ้าง อยากมีรอยยิ้มกับคนอื่นเหมือนอย่างที่คุณภีมมียังไงล่ะคะ”

หญิงสาวมั่นใจว่าคำพูดของเธอคงจะทำให้อีกฝ่ายโกรธโมโหและอาจจะประชดด้วยการยอมให้เธอไปทำงานกับธนาแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเป็นเลขาผม เริ่มงานพรุ่งนี้เลย”

ภีมเดชไม่ตอบด้วยใบหน้านิ่งเฉยเหมือนปกติแต่เขากลับยิ้มให้เธอถึงแม้มันจะเป็นแค่ช่วงวินาทีสั้นๆที่ถ้าไม่ทันได้สังเกตคงไม่มีโอกาสได้เห็นแต่มันก็ทำให้หัวใจของหญิงสาวรู้สึกแปลก ๆ จากตอนแรกคิดว่าถ้าทำให้เขายิ้มได้คงมีความสุขแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเธอเริ่มรู้สึกกลัว

การไปทำงานที่บริษัทของท่านประธานที่มีอีกตำแหน่งคือสามีทำให้กอหญ้ารู้สึกวางตัวไม่ค่อยถูก พนักงานทุกคนต่างให้ความเคารพเสมอเหมือนว่าเธอเป็นเจ้าของบริษัท

“ถ้ามีอะไรที่สงสัยถามพี่ได้เลยนะคะ”

ยุพินหัวหน้าฝ่ายบัญชีทำงานที่นี่มาเกือบ 10 ปีแล้วทำให้มีความรอบรู้ในทุกเรื่องถึงแม้จะทำในตำแหน่งหัวหน้าบัญชีและการเงินแต่ในเรื่องของฝ่ายบุคคลทุกคนก็ล้วนแต่ต้องขอคำแนะนำจากพนักงานรุ่นพี่คนนี้

“ฉันคงต้องรบกวนให้พี่ยุพินช่วยสอนทุกเรื่องเลยล่ะค่ะ”

กอหญ้ารู้สึกมีความสุขและตื่นเต้นกับการที่เธอจะได้ทำงานเพราะถ้าใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านคนเดียวเธอก็วนเวียนแต่ความรู้สึกน้อยใจและเสียใจ ตลอดทั้งวันเธอก็เฝ้ารอรอแค่เพียงการกลับมาของสามีถึงแม้เขาจะเฉยชาแค่ไหนเมื่อได้ทำงานแบบนี้แต่ละวันของเธอดูมีค่าและช่วยให้วันเวลาหมดไปได้ไว

ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ดูเหมือนจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเพราะเวลาที่อยู่บริษัทภีมเดชจะดูเป็นคนพูดเก่งมากขึ้นกว่าเดิมถึงแม้ว่าเขาจะมีความสุขุมและแววตาที่เฉยชาเหมือนเดิมอยู่บ้างก็ตามแต่มันก็ทำให้กอหญ้ามีโอกาสได้เห็นสามีอีกในแง่มุมซึ่งเป็นแง่มุมที่เธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อน

“วันนี้ผมมีธุระข้างนอกคงไม่ได้กลับเข้าบริษัทอีก คุณกลับบ้านเองนะแล้วไม่ต้องทำกับข้าวรอด้วยคงไม่ได้กลับไปกิน”

กอหญ้าเข้ามาทำงานในตำแหน่งเลขาก็จริงแต่เธอยังไม่ได้ทำงานเต็มตัวทุกคิวงานยุพินยังเป็นคนคอยจัดการเพราะเธอควบเกือบทุกตำแหน่งถึงแม้กอหญ้าจะพยายามศึกษางานให้เข้าใจโดยเร็วแต่ก็ยังไม่รับความไว้ใจจากภีมเดชจึงทำให้เธอไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้สามีไม่ได้กลับบ้านพร้อมเธอวันนี้เกิดจากเขาต้องไปทำธุระอะไร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel