มีความเฉยชา(2)
“คุณกอหญ้าทำไมมารอรถแบบนี้ล่ะคะ”
ยุพินเดินมาที่หน้าบริษัทเจอภรรยาเจ้านายกำลังรอรถอยู่จึงถามด้วยความแปลกใจเพราะปกติแล้วกอหญ้าก็จะกลับพร้อมกับท่านประธาน
“คุณภีมออกไปทำงานข้างนอกค่ะไม่ได้กลับมาที่บริษัท”
ภรรยาเด็กบอกตามที่สามีบอกไว้แต่เธอก็คิดว่ายุพินคงรู้อยู่แล้ว
“งานข้างนอกอะไรคะพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย วันนี้คุณภีมมีแค่ประชุมที่บริษัทในช่วงเช้าแล้วก็ว่างทั้งวันหรือพี่ทำอะไรขาดตกบกพร่องไปเนี่ย”
ยุพินจากเป็นคนขี้เล่นเธอเปลี่ยนสีหน้าเป็นวิตกกังวลทันทีเพราะเท่าที่เธอจดตารางงานไว้วันนี้ท่านประธานไม่ได้มีงานที่ต้องไปเจรจาหรือประชุมข้างนอก
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณภีมบอกแค่นี้”
ภรรยาสาวของบอสใหญ่แห่งบริษัทแกล้งทำหน้าเป็นเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรแต่ความเป็นจริงแล้วเธอกำลังสงสัยในเมื่อยุพินเป็นเลขาคอยจัดตารางงานทุกอย่างทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องที่ท่านประธานออกไปทำงานข้างนอก
บ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้มีกอหญ้าอยู่แค่เพียงคนเดียวกับอาหารบนโต๊ะที่ถูกทำแบบง่ายๆเพราะไม่มีคนร่วมโต๊ะอาหารทำให้หญิงสาวรู้สึกคิดถึงถึงบ้านเพราะตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ หัวใจของเธอมันต้องเข้มแข็งและเหมือนกำลังต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งตอนนี้ด้วยเธอทั้งสงสัยและน้อยใจที่ทำไมภีมเดชปล่อยให้เธอกลับคนเดียวและยังต้องมานั่งเหงาไร้เงาของเขานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนแบบนี้
“เป็นสามีภรรยากันก็จริงมันก็ต้องมีช่องว่างให้อิสระกับเขาบ้าง”
ธนาเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้กับเพื่อนได้เสมอและครั้งนี้เขาก็แนะนำในแบบที่เขาคิดและหวังว่าจะทำให้กอหญ้ารู้สึกดีมากขึ้น
“ที่ผ่านมาฉันไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตเขาเลยนะแต่ถ้าครั้งนี้เขากำลังโกหก ฉันก็คงจะเสียใจ”
ตลอดเวลาหลายเดือนที่อยู่ด้วยกันมากอหญ้าไม่เคยถามว่าสามีของเธอจะไปไหนแล้วกลับเมื่อไหร่มีแต่เพียงที่เขาบอกและเธอก็ไม่เคยกล้าแม้แต่จะซักไซ้ถามอะไรต่อถึงไม่เข้าใจว่าถ้าการกลับบ้านช้าครั้งนี้สามีของเธอโกหกและเพราะอะไรเขาถึงจะต้องปั้นน้ำเป็นตัวในเมื่อต่อให้เขาบอกความจริงเธอก็คงไม่กล้าห้ามหรือขอไปด้วยอยู่แล้ว
“คุณภีมอาจจะไปดื่มเหล้ากับเพื่อนและกลัวเธอไม่สบายใจก็ได้ เอาเป็นว่าตอนนี้ทุกอย่างก็ดูดีขึ้นกว่าเดิม เธอได้ไปทำงานที่บริษัทของเขาแทบจะมีชีวิตอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงอีกหน่อยฉันเชื่อว่าคุณภีมจะต้องใจอ่อนและอย่าลืมเรื่องที่ฉันเคยแนะนำว่าต้องรีบมีลูกนะ”
คำพูดย้ำสุดท้ายของธนาทำให้กอหญ้ารู้สึกเอะใจเพราะประจำเดือนเธอหายไปเกือบ 2 สัปดาห์แล้วจากเวลาที่มันควรจะมาตามปกติ เธอไม่เคยคิดระแวงสงสัยเพราะตั้งแต่แต่งงานเธอกับภีมเดชนอนด้วยกันไม่ถึง 10 ครั้งจึงไม่น่าจะเป็นไปได้เรื่องที่เธอจะท้องแต่ก็ตัดสินใจว่าเธอจะไปหาหมอตรวจดูให้แน่ใจเพราะกลัวว่าถ้าเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงๆเธอจะดูแลลูกได้ไม่ดีพอ
หญิงสาวเหนื่อยจากงานมาทั้งวันและยังต้องขึ้นรถโดยสารประจำทางกลับบ้านเองอีกเมื่อล้มตัวลงนอนก็หลับไปอย่างไม่รู้ตัวแต่ก็มาสะดุ้งอีกทีเมื่อได้ยินเสียงสามีเปิดประตูห้อง
“กลับมาแล้วหรือคะ กินอะไรไหมเดี๋ยวฉันไปอุ่นให้”
“คุณนอนเถอะจะเช้าแล้ว”
คำตอบของสามีทำเอากอหญ้าต้องหันไปดูนาฬิกาและเข็มชี้ไปยังตัวเลขก็ทำให้เธอรู้ว่าเหลืออีกแค่เพียงไม่ถึง 3 ชั่วโมงก็ได้เวลาที่เธอต้องตื่นไปทำงาน ตกลงท่านประธานสุดหล่อผู้เป็นสามีของเธอไม่ได้กลับบ้านดึกแต่เขากลับมาถึงเช้าต่างหาก
“ไปไหนมาคะถึงกลับมาเช้าแบบนี้”
กอหญ้าไม่เชื่อตัวเองเหมือนกันว่าเธอจะพลั้งปากถามเขาออกไปเพราะปกติแล้วเธอแสนจะกลัวกับการที่ต้องถามเรื่องส่วนตัวที่เขาไม่ต้องการบอก
ไม่มีคำตอบใดหลุดออกจากปากคนถูกถามมีเพียงแค่ หางตาที่มองอย่างไม่พอใจก่อนที่เขาจะเปิดประตูห้องน้ำและหายเข้าไปในนั้น
น้ำตาไหลอีกแล้วกอหญ้าไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมช่วงนี้เธอถึงอ่อนไหวได้ตลอดทั้งที่การกระทำแบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ทุกครั้งที่เธอถามในสิ่งที่เขาไม่อยากตอบก็จะได้ความเฉยชากับมาแบบนี้ทุกครั้งแต่ทำไมแทนที่เธอจะชินกับยิ่งรู้สึกเสียใจมากไปกว่าเดิม
บรรยากาศในรถเงียบสงบ กอหญ้าไม่คิดที่จะถามหรือพูดอะไรในเมื่อเขาไม่อยากตอบ เธอก็จะไม่ถามส่วนเธอจะคิดหาคำตอบยังไงก็สุดแล้วแต่ตัวเองสำหรับเวลานี้กอหญ้าคิดเรื่องดีไม่ได้เลย เธอคิดว่าตัวเองกำลังเป็นคนโง่ที่ถูกอีกฝ่ายมองว่าเป็นของตายเท่านั้น