บท
ตั้งค่า

ตอนที่ : 06 โอกาส ( 1 )

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นขณะที่จันทร์เจ้ากำลังจะพักผ่อนตามปกติของเธอ มีเพียงเสียงเคาะแต่ไม่มีการพูดอะไรออกมานั้นทำให้เธอลังเลที่จะเปิดประตู เพราะปกติถ้าเป็นแม่บ้านคนอื่นๆ เขาจะเรียกชื่อเธอแล้วแท้ๆ

“ใคร?”

“ผมเองครับ”

พอได้ยินเสียงตอบกลับเธอก็เปิดประตูให้ทันที

แกร๊ก~

“มีอะไรคะ?”

“คุณเจโรมสั่งให้มาบอกคุณว่าพรุ่งนี้เตรียมตัวไว้ด้วยครับ”

“เตรียมตัวอะไร?”

“ออกไปข้างนอกครับ?”

“ห๊ะ!?”

“พาคุณจูโน่ออกไปข้างนอกครับ คุณเจโรมสั่งให้คุณตามไปด้วย”

“ฉันเหรอ?”

“ครับ พรุ่งนี้เช้านะครับ”

“อืม...”

เธอปิดประตูและเดินกลับเข้าไปนั่งที่เตียงนอนของตัวเอง ก่อนที่สายตานั้นจะมองไปที่กระเป๋าเดินทาง ได้ออกไปข้างนอกแบบนี้แล้วนั่นก็แปลว่าโอกาสที่เธอจะหนีออกไปจากเขามันก็เป็นจริงแล้ว

แต่เธอจะหนีแบบไหนล่ะ ต้องออกไปแบบไหนที่จะไม่ทำให้เขาต้องสงสัยหรือเอะใจ

กระเป๋าเดินทางใบใหญ่นี้เธอจะเอาไปไม่ได้เลย ข้าวของทุกอย่างเธอจำเป็นต้องทิ้งไว้ที่นี่ทั้งหมด และเอาแค่เอกสารติดตัวไปก็เท่านั้น เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาไม่สงสัยในตัวของเธอได้

ผู้หญิงจะสะพายกระเป๋ามันก็ไม่แปลกอะไรหรอก

จันทร์เจ้านอนคิดทบทวนอยู่ครึ่งคืน ความคิดที่จะหนีออกไปจากบ้านหลังนี้มันก็มีเต็มไปหมดหัว อยากหนี อยากไปให้พ้นจากเขา ไปให้พ้นจากบ้านหลังนี้

โอกาสมันมาอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ แต่ทำไมเธอถงได้รู้สึกประหม่าแบบนี้ล่ะ

มันมีความกลัวว่าถ้าหากหนีไม่พ้น เธออาจจะถูกขังให้อยู่ที่นี่ตลอดไปเลยก็ได้ ถึงเวลานั้นเธอยังคิดไม่ออกเลยว่าจะอยู่ยังไง

พอตอนเช้าเธอก็ตื่นขึ้นมาและทำหน้าที่ของตัวเองตามปกติ ก่อนจะกลับมาแต่งตัวเตรียมที่จะออกไปข้างนอก หญิงสาวหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาสะพาย ด้านในนั้นก็มีแค่บัตรและเงินสดเท่านั้น เพราะโทรศัพท์มือถือก็ถูกยึดไปแล้ว

“เสร็จหรือยัง?”

“ค่ะ เสร็จแล้ว”

“ชักช้า!”

“…..” หญิงสาวก้มหน้าต่ำไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไป เธอชักช้าเพราะมัวแต่คิดเรื่องนั้นไม่ตก มันเป็นโอกาสดีแล้วแท้ๆ ที่เธอจะได้หนีไป แต่มันก็รู้สึกกลัวในเวลาเดียวกัน เธอได้แต่พยายามข่มใจข่มอารมณ์ไม่แสดงออกไปให้เขาสงสัย

“ไปขึ้นรถ”

“ค่ะ”

จันทร์เจ้าขึ้นไปนั่งบนรถตู้คันหรู ดูเหมือนว่าจะมากันแค่สามคนแต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย เพราะยังมีบอดี้การ์ดของเจโรมขับรถตามมาอีกนับสิบชีวิตได้

“อย่าคิดหนีล่ะ คนของฉันพร้อมจะเล่นงานเธอ ถ้าเธอคิดจะทำแบบนั้น”

“ให้คนตามมาเป็นขบวนแบบนั้น ฉันคงหนีได้อยู่หรอก” ​เธอตอบกลับเขา แม้จะมีคนตามมาเป็นขบวนแบบนั้นแต่ก็ใช่ว่าเธอนั้นจะล้มเลิกความคิด เพียงแต่เธอคงต้องหาวิธีใหม่ และหนีออกไปจากสายตาของบอดี้การ์ดของเขาให้ได้

“คอยดูแลจูโน่ นั่นเป็นหน้าที่ของเธอ”

“เพราะคำพูดของฉันวันนั้นเหรอ คุณถึงได้พาจูโน่ออกมาแบบนี้” เธอหันไปถามคนข้างๆ

“อย่าสำคัญตัวนักสิ คำพูดของเธอมันไม่ได้มีผลอะไรกับฉันขนาดนั้น ปกติฉันก็พาจูโน่ออกมาแบบนี้บ่อยๆ อยู่แล้ว”

“อ๋อ...”

เขาพาเธอไปหลายที่มากๆ โดยที่มีลูกน้องของเขาคอยตามประกบอยู่รอบตัว มันไม่มีโอกาสที่เธอจะหนีได้เลยจริงๆ ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกกดดันกับตัวเอง แต่เธอจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้มันหลุดมือไปง่ายๆ แน่

"ตอนกลางวันจะพาจูโน่ไปกินอะไร?"

"ฉันมีร้านประจำของฉันอยู่"

และการสนทนาก็ตัดจบลงเพียงเท่านี้ ทั้งสองไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก เพราะต่างคนต่างก็เดินและมองไปรอบๆ ตัวเอง

เพราะไม่ได้กลับมานานด้วยหรือเปล่านะ รอบตัวของเธอมันดูแปลกไปหมดเลย ทั้งที่บางสถานที่ที่เขาพาไปเธอก็เคยมาแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่รู้สึกคุ้นชินกับมันเลย

ผ่านไปไม่นาน...

หญิงสาวยืนมองต้นไม้ต้นใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ผ่านไปหลายปีแล้วแท้ๆ แต่ต้นไม้ต้นนี้ก็ยังอยู่ดีเหมือนเดิม

"ตอนแรกฉันนึกว่าจะมีคนมาตัดมันทิ้งแล้วซะอีก" ชายหนุ่มพูดขึ้น

เสียงของเขาทำเอาเธอตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่รู้ว่าเขาตามมาตอนไหน เธอแค่ขอตัวออกมาสูดอากาศรอบๆ แต่ก็อยู่ในสายตาของคนของเขาอยู่ตลอด

"ตกใจหมด!"

"ฉันยังจำต้นไม้ต้นนี้ได้"

"....."

เธอเงียบเพราะเธอเองก็จำต้นไม้ต้นนี้ได้เช่นกัน ตอนนั้นที่ทั้งสองคบกันครั้งแรก ก็มาตกลงคบกันอยู่ตรงนี้ ให้คำมั่นสัญญากับต้นไม้ใหญ่ตรงหน้า ว่าจะเป็นแฟนกันจนเรียนจบแล้วก็จะแต่งงานกัน

แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลายลง

ตอนนี้มันไม่เหลือแล้วแม้กระทั่งความสัมพันธ์ดีๆ แบบคนรู้จัก

"แถวนี้เปลี่ยนไปเยอะ ฉันจำไม่ได้หรอก"

"ก็ดี มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าจำเท่าไหร่หรอก"

"คุณตามฉันมาทำไม ไม่ไปอยู่กับน้องชายคุณล่ะ"

"หน้าที่ดูแลจูโน่ก็คือหน้าที่ของเธอ ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน"

"....."

"ไปกันเถอะ เราต้องไปที่อื่นกันต่อ"

"ไปไหนอีก?"

"ฉันมีเวลาทั้งวัน ฉันจะพาจูโน่ไปเที่ยวหลายๆ ที่ เพราะไม่ได้มีโอกาสพาออกมาแบบนี้บ่อย"

"อืม..."

เธอไปขึ้นรถพร้อมกับเขา ก่อนที่จะถูกพาไปที่ไหนอีกก็ไม่รู้ เขาพาเธอไปเที่ยวหลายที่มากๆ จะเรียกว่าพาเธอไปเที่ยวก็ไม่ได้ เพราะเธอแค่ต้องตามมาดูแลจูโน่มากกว่า ก็ถือว่าได้โอกาสเที่ยวไปในตัวนั่นแหละ

และตกเย็นก็ได้มาอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พอตกเย็นแล้วคนก็เริ่มพลุกพล่านมากจริงๆ แต่เธอก็ยังถูกบอดี้การ์ดของเจโรมจับตามองอยู่ตลอดเวลาเหมือนเดิม

ขณะที่กำลังเดินไปนั้น เธอก็มีความคิดบางอย่างขึ้นมา การที่คนกำลังพลุกพล่านแบบนี้ โอกาสที่จะหนีมันก็มีมากเลยทีเดียว แต่การที่คนพลุกพล่านแบบนี้มันก็ยากต่อการวิ่งหนีจริงๆ

มือเล็กกำสายกระเป๋าสะพายของตัวเองเอาไว้แน่น เวลาที่เธอรู้สึกกดดัน หรืออยู่ในช่วงการตัดสินใจ เธอมักจะมีการกระทำแบบนี้ ไม่จิกหลังมือของตัวเองเธอก็จะจิกมือลงที่สิ่งของบางอย่างที่อยู่ใกล้ตัวเช่นกระเป๋าสะพาย

"คุณจันทร์เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมถึงดูตัวสั่นๆ แบบนี้"

"....."

การสนทนาของคนด้านหลัง ทำให้เจโรมที่กำลังเดินไปพร้อมกับรถเข็นของน้องชาย ต้องหันกลับมามองทันที

"คนเยอะมั้ง ฉันรู้สึกอึดอัดไปหมดเลย" หญิงสาวพูดเสียงแผ่ว เธอกลัวว่าจะถูกจับได้ ว่าตอนนี้กำลังจะคิดหาวิธีทางหนีออกไปจากที่นี่ กลัวว่าจะถูกเจโรมสงสัย จากอาการที่เธอกำลังเป็นอยู่ตอนนี้

"มีอะไร?" เจโรมเอ่ยถามขึ้น

"ดูคุณจันทร์เขาไม่ค่อยสบายครับ"

"เธอไม่สบายเหรอ?"

"ฉันแค่รู้สึกอึดอัดน่ะ ไม่เป็นอะไรหรอกไปต่อเถอะ"

ขณะที่กำลังเดินไป จันทร์เจ้าก็เดินสวนกับใครหลายๆ คนมากมาย ขาที่อยากจะก้าวและเดินหนีออกไปจากจุดนี้มันก็แข็งไปหมดเลย แล้วสภาพแบบนี้เธอจะหนีออกไปพ้นจากเขาได้ยังไง

"ไปพักสักหน่อยมั้ยครับ?"

"ไม่เป็นอะไรหรอก ฉันขอเข้าห้องน้ำสักแป๊บก็แล้วกัน ในห้องน้ำคนน่าจะไม่เยอะ"

"ถ้าอย่างนั้นพวกผมรอข้างนอกนะครับ"

หญิงสาวรีบเดินเข้าไปที่ห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวของตัวเองอย่างไม่เร่งรีบ และเดินออกมาล้างมือล้างหน้า ยืนมองตัวเองที่หน้ากระจก ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเธอจะหนีไปยังไงดีไปทางไหนดี ในขณะที่มีผู้คนเดินเข้ามาและเดินออกไป แต่เธอยังคงยืนอยู่ที่เดิมราวกับถูกหยุดเวลาเอาไว้

แกร๊ก~

และขณะนั้นเองก็มีแม่บ้านเปิดประตูเข้ามา ทำให้จันทร์เจ้ารู้ว่ายังมีประตูที่สามารถออกไปข้างนอกได้อีก

"ป้าคะ ประตูนี้ออกไปข้างนอกได้มั้ยคะ"

"ได้สิ ว่าแต่ทำไมถึงออกประตูนี้ล่ะ?" ในฐานะแม่บ้านที่ทำงานอยู่ที่นี่ ก็ไม่เคยเห็นใครที่มาเที่ยวห้างออกประตูนี้เลยสักคน นอกจากพนักงานของห้างเท่านั้นแหละ

"พอดีว่าผัวเก่าของหนูมันมาตามตื๊อน่ะค่ะ หนูก็เลยจะหนีจากมัน มันรอหนูอยู่ที่ข้างนอก ป้าอย่าบอกใครนะคะว่ามีคนออกไปจากประตูนี้"

"จ้ะๆ"

จันทร์เจ้ารีบเดินไปทางประตูที่ป้าแม่บ้านเปิดและเดินเข้ามา ก่อนที่เธอจะเปิดประตูและเดินหายออกไปในนั้น ไม่มีใครสังเกต ไม่มีใครรู้

ในขณะที่ลูกน้องของเจโรมยังคงยืนรออยู่ข้างนอกอย่างใจจดใจจ่อ แต่รอแล้วรอเล่า หญิงสาวก็ไม่ยอมออกมาเลย เธอหายไปเงียบกริบ หายไปแบบรู้สึกว่าผิดสังเกต

"ขอโทษนะครับ ผู้หญิงที่ผมยาวๆ ใส่เสื้อสีขาวสะพายกระเป๋าสีดำ อยู่ข้างในหรือเปล่าครับ เธอเข้าไปสักพักแล้วแต่ยังไม่ยอมออกมาเลย" ลูกน้องคนสนิทของเจโรมรีบถามคนที่เดินออกมา เพราะมันเริ่มผิดแปลกแล้ว และลางสังหรณ์มันก็เริ่มบอกบางอย่าง

"ไม่เห็นค่ะ"

"เวรล่ะ!"

ลูกน้องคนสนิทได้แต่ยืนกุมขมับ เพราะหากเจ้านายรู้เรื่องนี้มีหวังได้โมโหจนลมออกหูแน่ๆ ตอนนี้ก็ได้แต่ยืนรอ เพราะข้างหน้ามันเป็นทางเข้าห้องน้ำของผู้หญิง

"ให้ผมเข้าไปดูให้มั้ยครับ" ลูกน้องอีกคนพูดขึ้น และเสนอตัวที่จะเป็นคนเดินเข้าไปดูเอง

"เข้าห้องน้ำผู้หญิง เดี๋ยวก็ได้โดนรปภ.ลากออกไปพอดี"

"แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ แค่ไปตามหาคนเฉยๆ"

"คุณจันทร์ คุณอย่าเล่นแบบนี้นะครับ คุณหายไปพวกผมซวยตายห่าแน่"

"เกิดอะไรขึ้น?" เจโรมเดินมาข้างหลังลูกน้อง เพราะเห็นว่ามันนานผิดปกติ เขาก็เลยเดินมาดู แต่กลับพบเพียงลูกน้องของเขา แต่ไม่พบหญิงสาวเลย

"....."

"ฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วนี่จันทร์เจ้าไปไหน?"

"เธอไปเข้าห้องน้ำครับ"

"แล้ว?"

"เธอเข้าไปสักพักแล้ว จนป่านนี้ก็ยังไม่ออกมาเลย"

"ว่าไงนะ!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel