บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 เหยื่อสาวพราวเสน่ห์

ร่างสูงในชุดสูทสีดำเดินโอบเอวร่างบางสูงเพรียวในชุดเดรสสั้นสีน้ำเงินเข้มสายเดี่ยวเข้ามาในร้านอาหารพลอยทรีมา ก่อนจะมองกวาดสายตาสำรวจบรรยากาศภายในร้านอย่างรวดเร็ว โจเซฟกระตุกยิ้มที่มุมปากและยอมรับว่าร้านอาหารแห่งนี้จัดตกแต่งบรรยากาศภายในร้านได้อย่างหรูหราแต่เรียบง่าย ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายและอบอุ่น

“เชิญด้านในค่ะ” พนักงานสาวเดินเข้ามาต้อนรับพร้อมกับยกมือไหว้ ก่อนจะเดินนำทั้งคู่เข้าไปนั่งที่โต๊ะซึ่งจัดเอาไว้สำหรับ 2 ที่นั่ง เพื่อเอาไว้บริการลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และหลังจากที่ทั้งคู่นั่งลงเรียบร้อยแล้วพนักงานสาวก็ยื่นเมนูอาหารให้ทั้งสองดูพร้อมกับยิ้มให้พร้อมกับเอ่ยถามอย่างสุภาพ

“จะรับอะไรดีค่ะ”

โจเซฟวางเมนูลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวสวยที่เขาควงมาด้วยวันนี้ก่อนจะเอ่ยแบบยิ้มๆให้ “คุณพิมอยากทานอะไรสั่งตามสบายเลยนะครับ”

“ค่ะ แล้วคุณอาสล่ะคะจะทานอะไรดี?” พิมผกามองสบสายตาคมพร้อมกับยิ้มให้อย่างมีจริต

“ผมทานได้ทุกอย่าง คุณสั่งมาเถอะ” เขาบอกเสียงเรียบ

“ค่ะ” เธอยิ้มหวานให้เขา และหันมาทางพนักงานสาวที่ยืนรอรับรายการอยู่ก่อนจะสั่งรายการอาหาร “เอาบีฟ เป๊ปเปอร์ สเต๊ก 2 ที่ แล้วก็ฟรุตพั้นซ์ 2 แก้วด้วยจ้ะ”

“ค่ะ รอสักครู่นะคะ” พนักงานสาวกล่าวพร้อมกับยิ้มให้ก่อนจะเดินกลับไปยังเคาเตอร์ พิมผกาจึงหันกลับมาทางชายหนุ่มอีกครั้งก่อนจะส่งยิ้มหวานเยิ้มให้ “รู้ไหมคะว่าพิมดีใจมากแค่ไหนที่คุณชวนพิมออกมาทานอาหารด้วย”

“ไม่รู้สิครับ” โจเซฟตอบแล้วคลี่ยิ้ม

“แหม...คุณอาสเนี่ย พูดตรงจังเลยนะคะ”

“ครับ ผมชอบทำอะไร พูดอะไรอย่างตรงไปตรงมาครับไม่ชอบการเสแสร้ง” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาแต่ใบหน้านั้นก็ยังคงคลี่ยิ้มอยู่

“ค่ะ พิมจะรับรู้ไว้ จะได้ทำให้ถูกใจคุณ” พิมผกายิ้มกว้างและมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างหลงใหล ใช่ว่าในชีวิตนางแบบโนเนมของเธอจะไม่เคยพบเจอผู้ชายหล่อๆรวยๆ แต่สำหรับผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า เธอรู้สึกว่าเขาไม่เหมือนกับผู้ชายพวกนั้น เขาดูสงบเงียบ สุขุม เยือกเย็น แต่เร้าร้อนและสง่างามราวกับพญาราชสีห์ ผู้ชายแบบนี่แหละที่ผู้หญิงทั้งหลายต้องการรวมทั้งตัวเธอเองด้วย...พิมผกายิ้มอย่างกระหยิ่มใจ ก่อนจะหันมาทางพนักงานสาวเสิร์ฟที่กำลังวางจานอาหารลงบนโต๊ะ แต่ด้วยความประหม่าของพนักงานสาวเพราะเพิ่งทำเป็นวันแรกจึงทำให้แก้วฟรุตพั้นซ์หกใส่นางแบบสาว

“อุ๊ย!” พนักงานสาวอุทานด้วยความตกใจพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเผือด

“ว๊าย! ต๊ายแล้วนังบ้า!” พิมผกาลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วมองน้ำฟรุตพั้นซ์สีแดงที่เปรอะเปื้อนตรงหน้าอกอวบอิ่มและเสื้อผ้าตัวสวยด้วยความโกรธแค้น ใบหน้าสวยที่บึ้งตึงจึงเงยขึ้นมามองพนักงานสาวอย่างเดือดดาลก่อนจะฟาดฝ่ามือบางลงไปบนใบหน้าที่ซีดเผือดนั้นเต็มแรง

“เพี้ยะ!”

ร่างบางเซล้มลงไปนั่งฟุบกับพื้น และทุกคนที่อยู่ภายในร้านทั้งลูกค้าและพนักงานต่างก็มองอย่างตกตะลึงในเหตุการณ์ โจเซฟเองก็ไม่คิดว่าพิมผกาจะใจร้อนถึงขั้นตบตีพนักงานสาวคนนั้นและเมื่อเห็นหญิงสาวจะตามเข้าไปทำร้ายซ้ำร่างสูงจึงรีบลุกขึ้นแล้วรั้งแขนเธอเอาไว้พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

“พอแล้วพิม เขาไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่ได้ตั้งใจยังไงคะ ชุดพิมพ์เปื้อนหมดเลย” พิมผกามองหน้าชายหนุ่มแล้วก้มลงมองชุดตัวเองอีกครั้ง แล้วความโมโหก็พุ่งขึ้นมาอีก

“นังบ้า ซุ่มซ่ามที่สุด ร้านนี้รับแกมาได้ยังไง” นางแบบสาวชี้หน้าด่าอย่างโมโหสุดขีด

“ขอ...ขอโทษค่ะ...หนูไม่..ไม่ได้ตั้งใจค่ะ” พนักงานสาวบอกเสียงอึกอักด้วยความกลัวและตกใจ ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เพื่อนพนักงานด้วยกันจึงรีบเข้ามาช่วยพยุงร่างบางให้ลุกขึ้น

แพรพริมาซึ่งเป็นผู้จัดการร้านหันมามองใบหน้าที่แดงเป็นเปื้อนของลูกน้องก่อนจะหันไปทางลูกค้าสาวพร้อมกับเอ่ยถาม “ทำไมต้องรุนแรงแบบนี้ละคะ พูดกันดีๆก็ได้”

“แค่นี้มันยังน้อยไป แล้วเธอเป็นเจ้าของร้านนี้ใช่ไหม?” อีกฝ่ายเค่นเสียงพร้อมกับถลึงตาใส่

“ไม่ใช่หรอกค่ะ ดิฉันเป็นผู้จัดการร้านนี้ค่ะ มีอะไรดิฉันจะรับผิดชอบเอง” แพรพริมาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

“ได้รับผิดชอบแน่ ทำงานกันประสาอะไรทำไมถึงรับคนแบบนี้มาทำงาน ท่าทางก็บ้านนอกอยู่แล้วยังจะซุ่มซามอีก” พิมผกาพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปทางพนักงานสาวยังร้องไห้ไม่หยุด แต่ก่อนที่แพรพริมาจะทันได้พูดอะไรเสียงหวานใสก็ดังขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น?” ร่างบางในชุดแซกสีชมพูอ่อนของพลอยนรินทร์เดินเข้ามาหยุดยืนที่ด้านหน้าของพนักงานสาวของตนและหันไปมองผู้จัดการร้าน

“คือว่าคนของเราทำน้ำหกใส่เขาน่ะค่ะก็เลยโวยวายและทำร้ายคนของเราค่ะ” แพรพริมารายงาน ซึ่งหญิงสาวเจ้าของร้านก็พยักหน้ารับรู้ เธอกำลังนั่งคิดเมนูอาหารอยู่ในห้องด้านหลังร้านและได้ยินเสียงดังโวยวายจึงได้ออกมาดู

พลอยนรินทร์มองไปยังร่างบางของลูกค้าสาวตรงหน้าก่อนจะเลยมายังสายตาคมที่ดูดุดันและเย็นชาของชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มออกไปทางลูกครึ่งที่ยืนอยู่ทางด้านหลังแล้วจู่ๆหัวใจของเธอก็กระตุกวูบเหมือนกับมีไฟพุ่งเข้ามาโดน

โจเซฟจ้องเขม็งไปยังร่างบางตรงหน้าราวกับจะมองให้ทะลุร่างนั้นไป เขาตั้งใจที่จะมาเยี่ยมเยือนเหยื่อสาวของเขาอยู่แล้วและโชคดีที่ได้เจอ ใบหน้าสวยหวานกับดวงตากลมโตที่มองมายังเขานั้นมันเหมือนกับเป็นการท้าทายในสายตาของชายหนุ่มและมันก็ทำให้เลือดแห่งความแค้นในกายเดือดพล่าน แต่โจเซฟก็ต้องยอมรับว่าตัวจริงของพลอยนรินทร์สวยกว่าในรูป แล้วเขาก็ชอบเสียด้วยที่จะทำให้ของสวยๆงามๆมีตำหนิ ดวงตาคมจึงหรี่ลงเล็กน้อยอย่างหมิ่นๆ พลอยนรินทร์ถึงกับร้อนวูบไปทั่วทั้งร่างเหมือนกับสายตาคมกริบคู่นั้นมีกระแสไฟบางอย่างส่งผ่านมายังร่างของเธอ และหญิงสาวก็รู้สึกเหมือนกับว่าเห็นเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ในแววตาสีน้ำตาลเข็มคู่นั้น มันช่างน่ากลัวแต่ก็ละสายตาออกมาไม่ได้เลย

“เธอคงเป็นเจ้าของที่นี่ล่ะสิ” เสียงตะคอกถามที่ดังขึ้นของพิมผกาทำให้พลอยรินทร์ดึงสติและสายตากลับมายังร่างเพรียวบางตรงหน้าอีกครั้งพร้อมกับยิ้มให้

“ใช่ค่ะ เอ่อ...ต้องขอโทษแทนพนักงานของเราด้วยนะคะ เธอไม่ได้ตั้งใจน่ะค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะเอาชุดของคุณไปปั่นแห้งให้นะคะ” พลอยนรินทร์เอ่ยอย่างสุภาพและมองไปยังชุดรัดรูปที่เปื้อนเปรอะบนร่างบาง เธอต้องรีบไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ให้จบลงโดยเร็วที่สุดเพื่อทางร้านจะได้ไม่เสียหายและเสียชื่อเสียง เพราะตอนนี้ลูกค้าที่อยู่ภายในร้านต่างก็มองมาอย่างสนใจ

“เธอรับพนักงานที่ไม่ได้รับการอบรมแบบนี้มาได้ยังไง ซุ่มซ่าม ไร้สกุลรุ่นชาติที่สุด สงสัยพ่อแม่จะไม่เคยอบรมสั่งสอน” พิมผกาสบถถ้อยคำหยาบคายออกมาด้วยความโกรธแค้น เพราะชุดที่เธอใส่นั้นราคาเหยียบ 1 หมื่นบาทเลยทีเดียวและเป็นชุดที่เธอรักมาก ส่วนพลอยนรินทร์ก็หน้าตึงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำสบประมาทของลูกค้าสาว แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ต่อว่าตนเองก็ตาม แต่ถ้อยคำที่ลูกค้าสาวใช้นั้นมันรุนแรงเกินไป

“ดิฉันว่าคุณพูดแรงเกินไปแล้วนะคะ แล้วชุดของคุณก็แค่เปื้อน ซักแล้วมันก็ออก ไม่ควรพูดจาดูถูกกันแบบนี้” น้ำเสียงที่สุภาพอ่อนหวานในครั้งแรกเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างอย่างไม่พอใจ

“เธอคิดว่าชุดของฉันมันถูกๆหรือไง ฮึ ฮึ เงินของพวกนั้นไม่รู้กี่เดือนถึงจะพอซื้อ ด่าแค่เนี่ยมันยังน้อยไป” พิมผกาเหยียดมุมปากออกอย่างดูแคลน

“ราคาค่าชุดของคุณมันคงเทียบไม่ได้กับค่าของความเป็นคนหรอกค่ะ แล้วพนักงานของดิฉันทุกคนก็ได้รับการอบรมสั่งสอนกันมาอย่างดี แต่คุณต่างหากควรจะถามตัวเองมากกว่าว่าได้รับการอบรมมาหรือเปล่าถึงได้พูดจาหยาบคายดูถูกคนอื่นแบบนี้” พลอยนรินทร์บอกเสียงเรียบพร้อมกับจ้องอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย และคำพูดต่อว่าที่เจ็บๆแบบผู้ดีของหญิงสาวก็ทำให้แพรพริมาและพนักงานในร้านต่างก็อมยิ้มอย่างชอบใจ “กรี๊ดดดดดดดดดดดด” พิมผกาแผดเสียงดังลั่น ตัวเนื้อสั่นด้วยความโกรธ และชี้หน้าพลอยนรินทร์อย่างเคียดแค้น “เธอด่าฉันงั้นเหรอ แก... ต่ำทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง”

“ฉันว่าคุณเก็บคำด่าของคุณเอาไว้ดีกว่านะคะ เพราะยิ่งคุณพูดออกมามากเท่าไร มันก็จะแสดงออกมาถึงกำพืดของตัวคุณมากเท่านั้น แล้วก็เชิญคุณออกไปจากร้านของดิฉันได้แล้ว เพราะลูกค้าอย่างคุณร้านของเราไม่ยินดีต้อนรับ” หญิงสาวบอกแล้วเบนสายตาไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังของลูกค้าสาวเป็นเชิงตำหนิที่เขาปล่อยให้คนรักของเขาอาละวาดด่าทอคนอื่นโดยไม่ห้ามปราม

“แก...แกกล้าไล่ฉันงั้นเหรอ แกรู้ไหมว่าพวกเราเป็นใคร ร้านของแกอาจจะถูกปิดวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้” นางแบบสาวถลึงตาใส่พร้อมกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโมโห

“ฉันไม่สนใจหรอกค่ะว่าพวกคุณจะสูงส่งมาจากที่ไหน ฉันทำงานอย่างสุจริตใครก็มาสั่งปิดร้านฉันไม่ได้ เชิญค่ะ” พลอยนรินทร์เชิดหน้าขึ้นแล้วผายมือไปยังประตู

โจเซฟมองท่าทางดุจนางพญาของพลอยนรินทร์อย่างขำๆก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปากแล้วขยับเข้ามาโอบเอวพิมผกาเอาไว้แล้วก้มลงพูดที่ข้างใบหูเนียนขาวนั้น

“พอได้แล้วจ้ะที่รัก เดี๋ยวผมจะซื้อชุดใหม่ให้ อย่าโมโหมากสิเดี๋ยวไม่สวยนะ” คำพูดที่หวานหูของเขาทำให้ใบหน้าบึ้งตึงคลี่ยิ้มกว้างทันทีและหันมาคล้องแขนกำยำของเขาเอาไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel