ตอนที่ 14 ข้าเสียหาย
รุ่งอรุณวันใหม่มาเยือนอีกครั้ง ท่านหญิงเมื่อคืนดื่มยาจนหลับไม่รู้สึกตัว พลันนางพลิกตัวรู้สึกเหมือนมีบางอย่างดิ้นขลุกขลักอยู่บนเตียง เมื่อขยับปีกขนตาหนางอนงามขึ้น ก็พบว่าเป็นเจ้าเด็กน้อยตัวแสบนี่เอง กำลังนั่งปั้นหน้าฉีกยิ้มกว้างมาให้ พร้อมกับขนมในมืออีกต่างหาก
ใบหน้าของนางยังไม่ได้ล้าง เส้นผมที่ยาวสลวยนั้นกำลังพันกันดูยุ่งเหยิงไม่น้อย เมื่อเห็นเจ้าตัวแสบพลางนึกได้ว่าจะต้องพบกับใครบางคน รีบกวาดดวงตาคู่งามดูรอบ ๆ ห้อง พลันโล่งใจขึ้นมา เมื่อท่านอ๋องไม่อยู่ในห้องนอนของนาง
“รุ่ยเอ๋อร์เดินมาคนเดียวหรือจ๊ะ” เมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กน้อยล้มตัวนอนบนหมอน ตบเบา ๆ บนเตียงนอน
“ขอรับท่านแม่ ข้าอยากนอนกอดท่านแม่” แม้จะมีอายุเพียงแค่ห้าหนาว ความอบอุ่นอ้อมกอดของมารดาไม่เคยได้รับ “ข้าไม่เคยได้กอดท่านแม่สักครั้ง” กล่าวจบแล้ว ดวงตาของเขาฉายแววเศร้าสลด น้ำเสียงแผ่วเบา ทำให้ท่านหญิงเกิดสงสาร ความรู้สึกนี้เหตุใดนางจะไม่รู้กันเล่า
เมื่อเห็นพี่สาวถูกฮูหยินโอบกอด พลันนางรู้สึกปวดร้าวขึ้นมา ภาพในอดีตกำลังหวนคืนมายามเมื่อต้องการความรักและความอบอุ่นนั้น เนี่ยเจินดวงตารื้นแดงเล็กน้อย โอบกอดเจ้าผักกาดแสนซน พลางตีก้นเบา ๆ คล้ายว่าจะกล่อมเขาให้หลับอีกครั้ง
น้ำเสียงหวานกำลังร้องเพลงกล่อมเด็กน้อย นั่นเพราะท่านน้าอาชุนมักจะร้องเพลงกล่อมเด็กให้นางฟังเสมอ อ้อมกอดแห่งความรักของคนอื่นจะสู้อ้อมกอดของมารดาได้อย่างไรกัน พลันหัวใจดวงน้อย ๆ ของท่านอ๋องเจ็บแปลบขึ้นมาทันใด
เขาเบะปากร้องไห้ขยับเข้าไปสวมกอดมารดาที่พร่ำเรียกตั้งแต่วันแรกที่พบเจอ
“ท่านแม่ อย่าทอดทิ้งรุ่ยเอ๋อร์นะขอรับ รุ่ยเอ๋อร์อยากมีท่านแม่กอดร้องเพลงเช่นนี้ให้ฟัง” น้ำตาของเขาหลั่งลงมาเป็นสาย จนหน้าอกของนางเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาของเจ้าเด็กน้อยที่น่าสงสาร หากนางรับปากแน่นอนว่าย่อมทำตามไม่ได้แน่ ๆ
“ท่านแม่ข้าขอร้องท่านล่ะ ข้ารักท่านจริง ๆ นะ มาเป็นท่านแม่ของข้าได้หรือไม่” แม้ว่าตัวเล็ก ๆ เป็นเด็กไร้เดียงสาเช่นนี้ แต่เขารู้สึกอบอุ่นทุกครั้งเมื่อได้อยู่ใกล้ ๆ กับมารดา รู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่มีนาง อยากนอนหนุนตัก อยากนอนหลับโดยมีท่านแม่กอดเช่นนี้
เนี่ยเจินยังไม่กล่าวตอบ นางทำได้เพียงแค่ระบายยิ้มซ่อนความเสียใจเอาไว้ นางกระชับร่างของเจ้าหัวผักกาดเข้ามาสวมกอด พลางห่มผ้าผืนเดียวกัน
“แม่จะกอดเจ้าดีหรือไม่ นอนหลับอีกครั้ง ตื่นสาย ๆ เสียหน่อยสักวันคงไม่เป็นไร” ว่าแล้วสองคนกอดกันกลม
ภายในตำหนักเรือนรับรองปีกซ้าย ยามนี้ดูวุ่นวาย เมื่อท่านอ๋องน้อยนั้นได้หายตัวไป พบเพียงแค่ที่นอนยับย่น ทำให้ท่านอ๋องเกรี้ยวกราดตะคอกเสียงใส่เหล่าองครักษ์
“พวกเจ้าปล่อยให้หายตัวไปได้อย่างไรกัน” ด้วยเพราะร้อนใจ จึงได้ก้าวเดินออกมาตามหาด้วยองค์เอง
ไม่ได้คาดคิดว่าลูกชายจะมานอนกับมารดายังเรือนปีกขวา ตัวเขาก็หาทุกซอกทุกมุมก็ไม่พบ สีหน้านั้นดูโกรธจัด ส่งเสียงคำรามเสียจนทำให้ใครต่อใครหวาดกลัว
แท้ที่จริงเมื่อในอดีต ชินอ๋องผู้นี้คือแม่ทัพใหญ่ นำทัพออกศึกปราบปรามเหล่ากองโจรภูเขา แบ่งเบาภาระของหวงตี้ มีความดีความชอบมากมาย จนได้ยกแดนเหนือให้ชินอ๋องครอบครองดูแลจนถึงปัจจุบัน
“ท่านอ๋องยังมีตำหนักปีกขวาพ่ะย่ะค่ะ” คนสนิทได้กล่าวขึ้นมาอย่างนอบน้อม ทำให้ชินอ๋องลังเลอยู่ ไม่กล้าเดินไปยังเรือนปีกขวา “เช่นนั้นกระหม่อมจะให้นางกำนัลไปดู” เขากำลังจะหมุนตัวออกไป
“ไม่ต้องข้าไปดูเอง” ในเมื่อหาจนทั่วเรือนปีกซ้ายไม่พบก็คงจะอยู่กับนางแน่ ๆ เช้าขนาดนี้เจ้าตัวดีหนีออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้ใครเห็น เขาจึงร้อนใจยิ่งนัก ลูกชายเพียงแค่คนเดียวและยังเป็นตัวแทนความรักของเขาที่มีต่ออดีตพระชายา
สองเท้าหนาแกร่งก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว หน้าห้องนอนไร้นางกำนัลดูแล เขาจึงได้ถือวิสาสะเข้าไปโดยไม่ได้รับเชิญจากนาง แต่ทว่าเมื่อก้าวเข้าไปยังห้องนอนก็พบว่า ทั้งมารดาและลูกน้อยกอดกันกลมหลับอยู่บนเตียงกว้าง ช่างเป็นภาพทำให้เขาประทับใจนัก
เขาเหม่อมองดูใบหน้าไร้เดียงสาของหญิงสาว ไม่ได้แต่งแต้มอันใดกลับดูผ่องใสงดงามนัก ใบหน้ารูปเรียวไข่ คิ้วโก่งราวกับคันศร จมูกเชิดรั้นรับกับดวงตาดูกลมโตสดใส ช่างเป็นสตรีที่งดงามยิ่งนัก ใครต่อใครอยากจะครอบครองเพราะความงดงามโดดเด่น อีกทั้งยังเก่งกาจฉลาดเฉลียวไม่น้อย
เขาเดินไปอย่างเบา ๆ เมื่อเห็นว่าผ้าห่มนั้นไม่ได้ปิดร่างบอบบาง เกรงว่านางจะป่วยขึ้นมาอีก เขากำลังดึงผ้าห่มคลุมให้คนตัวเล็ก แต่ทว่านางกลับลืมตาโพลงขึ้นมาทำให้เขาตกใจ นางเอกก็ตกใจอ้าปากจะร้องลั่นโวยวาย เขาจึงได้ยกมือปิดปากนางเอาไว้อย่างรวดเร็ว
ชู่ว์ เขายกมือขึ้นแตะริมฝีปากของนางอีกครั้ง พลางชี้ไปยังเจ้าตัวแสบที่นอนหลับสนิทไม่รู้สึกอันใด หลัวเนี่ยเจินตีมือของเขาไป นางส่งสายตาขึงขังถลึงตาใส่เขาอีกต่างหาก “ท่านจะทำอะไร” เนี่ยเจินส่งเสียงเบา ๆ ขึ้นมาพลางดึงผ้าห่มคลุมถึงลำคอของตน
“แค่ตามหารุ่ยเอ๋อร์ ไม่คิดว่าเขามานอนอยู่ที่นี่” ชินอ๋องยังคงยืนอยู่ข้างเตียงนอน ไม่เดินออกไป เขายังคงติดใจสัมผัสนุ่มนิ่มริมฝีปากของนาง ทำให้เขารู้สึกวูบวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เนี่ยเจินยิ่งมองเขาทีไร ทำให้หัวใจของนางหวั่นไหวเต้นรุนแรงเสียทุกครั้ง เมื่อนึกถึงภาพเมื่อคืนขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาบนใบหน้าทันที
“ท่านออกไปได้แล้ว” นางกล่าวน้ำเสียงออกจะดุ ๆ เขาสักเล็กน้อย เพราะเขาไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เอาแต่ยืนจ้องหน้านางอยู่นั่น ทำให้นางเขินอายจนร้อนผ่าวไปหมด “เร็ว ๆ สิ” นางดุเขาอีกครั้ง
เสียงดุนั้นทำให้เขาตื่นจากภวังค์ ถอยหลังออกไป แต่ก็ไม่ออกไปข้างนอกห้องนอนเสียทีเดียว จะเป็นอะไรหรือไม่ หากคนอายุมากเช่นเขาจะกินเต้าหู้นางอีกครั้ง เพราะอดใจไม่ไหวจริง ๆ ยิ่งเห็นริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มนี้ ก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะครอบครองดูดดื่มยิ่งนัก
ว่าแล้วเขาหันตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว เนี่ยเจินลุกขึ้นมายืนแล้ว กำลังจะก้าวเท้า แต่ทว่าเขาหันกลับมาทำให้นางตกใจสะดุ้ง พลางถอยหลังไปเกือบจะหงายท้อง ฝ่ามือหนาของท่านอ๋องรีบสวมเข้าประคอง ทำให้ใบหน้าของนางกระแทกเข้ากับแผงอกของอีกฝ่าย
คนตัวเล็กกว่าเงยหน้ามองเห็นปลายคางของเขา “ปล่อยข้าได้แล้วเจ้าค่ะ” นางยังคงสวมชุดนอนและยังปล่อยผมสยายให้ชายอื่นที่ไม่ใช่สามีได้เห็น ภาพงดงามนี้ชวนให้ท่านอ๋องลุ่มหลงเคลิบเคลิ้มนัก ปกติมิเคยเหลียวแลสตรีนางใดมาก่อน
แต่ทว่ากับหลัวเนี่ยเจินแล้ว นางช่างมีเสน่ห์ดึงดูดเขาจนไม่อาจปล่อยมือไปจากนางได้
ว่าแล้วคนตัวโตดันร่างบอบบางของนางให้แนบชิดติดกับผนัง โน้มใบหน้าลงมากระซิบเบา ๆ ที่ข้างใบหูพร้อมกับลมหายใจรดรินต้นคอระหง ทำให้ความรู้สึกหวั่นไหวนั้นรุนแรงขึ้นมา เนี่ยเจินใจเต้นแรงขึ้น แรงขึ้นแทบจะทะลุออกมาข้างนอกเสียอย่างนั้น
ท่านอ๋องกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาดูหวานเยิ้ม เขาไม่รีรออันใด นางช่างมีเสน่ห์รัดรึงเขายิ่งนัก ทำให้ความรู้สึกบางอย่างพวยพุ่งขึ้นมา
ริมฝีปากหนาประกบเข้ากับริมฝีปากนุ่มนิ่ม คนตัวเล็กกำลังจะประท้วง แต่ทว่าเหมือนทำให้อีกฝ่ายรุกรานสอดแทรกเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
ลิ้นสากอันอุ่นร้อนกระหวัดรัดรึงดูดดื่มริมฝีปากอย่างกระหายหิว คนตัวเล็กทุบตีแผ่นหลังและลำแขนของเขาแต่ไม่เป็นผล เขารวบแขนทั้งสองข้างของนางเอาไว้อย่างง่ายดาย ชักชวนให้นางตอบโต้เขาอย่างเงอะงะ
พลันเนี่ยเจินรู้สึกตัวก็ตอนที่ลิ้นของนางแตะเข้ากับลิ้นของเขา กลับกลายเป็นนางหลงในอารมณ์วาบหวามนี้ ด้วยเพราะอ่อนประสบการณ์ ทำให้ท่านอ๋องชักชวนนางจนทำให้เคลิบเคลิ้มและคล้อยตามในที่สุด ช่างน่าแปลกนัก เขาดูอบอุ่นและอ่อนหวาน สลับกับร้อนแรงและอ่อนโยน
“อื้อ อื้อ” คนตัวเล็กเผลอร้องครางออกมา ชายหนุ่มอายุมากกว่าผละออกจากปากนุ่มอย่างแสนเสียดาย เมื่อครู่นางหายใจแทบไม่ทัน ถูกเขาช่วงชิงลมหายใจจนทำให้นางเหนื่อยหอบเช่นนี้ ร่างกายของนางช่างอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรงจะยืนเสียด้วยซ้ำไป
“ข้าจูบเจ้าแล้ว หวังว่าเจ้าจะรับผิดชอบข้านะ” เขากล่าวหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นว่านางหน้าซีดสลับกับแก้มแดง ๆ ทั้งสองข้าง
“ข้าเป็นฝ่ายเสียหายจะต้องรับผิดชอบท่านอีกหรือเจ้าคะ” นางหย่อนก้นนั่งลงเตียงนอน หัวใจของนางเต้นแรงไม่หยุดหย่อน เพียงแค่เขาจูบนางเท่านั้นนะหรือ
เขาจับปลายคางของนางขึ้นมา สบตาของเขาเข้ากับนาง เห็นภาพสะท้อนในดวงตาคู่งามนี้ “รับผิดชอบโดยการแต่งงานกับข้าอย่างไรเล่า” เขายังไม่พอใจโน้มใบหน้ากระซิบเบา ๆ อีกฝ่าย “เจ้าจูบข้า ข้าก็เสียหายเช่นเดียวกัน”