บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 11 หอมแก้มหน่อย

อาชุนรู้สึกคุ้นหน้าชายคนหนึ่ง นางจึงไม่ได้บอกกล่าวคุณหนูหรือท่านหญิง แอบเดินตามแผ่นหลังของชายคนนั้นอย่างเงียบ ๆ คิดว่าเขาน่าจะใช่คนสนิทของฮูหยินเอก ด้วยเพราะเคยพบเจอมานานแล้ว ก่อนที่ฮูหยินรองจะเสียชีวิตอย่างกะทันหัน

หลังจากนั้นในจวนมีบ่าวจำนวนหนึ่งถูกขับออกจากจวนตระกูลไป๋ไปหลายสิบคน เปลี่ยนคนงานเข้ามาใหม่อีกไม่น้อย แล้วในจวนจึงมีแต่บ่าวชุดใหม่ทำให้สืบหาการตายของฮูหยินรองไม่พบและหลักฐานก็ไม่มี จะทำอันใดนางก็เพียงแค่ต้องคิดการให้รอบคอบ หากแหวกหญ้าให้งูตื่นประเดี๋ยวจะเสียแผน

เวลาล่วงเลยมาสิบแปดปี ยังไร้ซึ่งหลักฐาน แต่วันนี้ช่างบังเอิญนัก พบชายคนหนึ่งมีตำหนิที่บริเวณริมฝีปากไฝเม็ดโต ๆ นางจดจำได้แม่นยำ อาชุนเดินตามมาจนถึงบ้านพักหลังหนึ่ง หากจากตลาดไกลหลายลี้ นางแอบมองดูไกล ๆ ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ เห็นชายคนนั้นเข้าไปในบ้านหลังเล็ก ๆ จัดการหุงหาอาหาร และค่อนข้างจะมั่นใจว่า นี่คงจะใช่บ้านของชายคนหนึ่งในคนที่นางสงสัยเป็นที่สุด

อาชุนรีบวิ่งกลับมาคิดจะรายงานท่านหญิง แต่เกรงว่าจะช้าไป นางจึงได้เข้าไปกราบทูลขอคนไปช่วยนางจากไทเฮาอีกแรง เป็นยอดฝีมือข้างกายของไทเฮาวรยุทธ์ล้ำเลิศนัก พาอาชุนมายังบ้านด้านหลังตลาดในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูปเสียด้วยซ้ำไป

อาชุน ดีอกดีใจนัก คิดจะสอบถามความด้วยตนเอง หากแต่ว่ายอดฝีมือบอกกล่าวเพียงจะสอบสวนเอง จึงทำให้อาชุนคันปากนักแต่ก็ปล่อยเลยตามเลย ถึงอย่างไรไทเฮาก็ไว้วางพระทัยชายคนนี้ อาชุนอายุล่วงเลยกว่าจะออกเรือน อายุของนางเกือบจะสี่สิบแล้ว ดูแลคุณหนูประดุจเครือญาติ ด้วยเพราะรับปากฮูหยินของตนเอาไว้

เมื่อกลับยามยามนี้ก็เลยเวลารับอาหารมื้อค่ำเสียแล้ว แต่ทว่าในพระตำหนักปีกขวาเป็นที่พำนักของท่านหญิงหลัวเนี่ยเจิน ตอนนี้กำลังแยกเขี้ยวแปลกร่างจากท่านแม่ที่แสนดี กลายเป็นนางมารร้ายเข้าให้ แม้แต่ไทเฮายังรับมือไม่ไหว ขอไปพักผ่อนดื่มยาหอมให้หายวิงเวียนศีรษะ

พระนางเพิ่งจะพานพบหลานชายกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ หยกแจกันทุ่มพื้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ ต่อหน้า เพียงแค่เพราะอยากจะนอนกอดมารดา แต่มารดาของเขานั้น นางเป็นหลานสาวเพิ่งจะหย่าร้างได้หยก ๆ กลับมีเจ้าผักกาดหัวนี้ครอบครองเป็นมารดา

“นอนไม่ได้ อย่างไรก็นอนไม่ได้” นางดุเข้าให้ แม้จะเห็นว่าเขามีน้ำตาเบะปากร้องไห้ก็ตาม ท่านอ๋องกอดประโลมปลอบใจลูกชายสุดแสนจะรักและหวง เขาเข้าข้างเนี่ยเจิน อย่างไรก็นอนที่นี่ไม่ได้อยู่ดี นางกำลังกรุ่นโกรธจนหน้าแดงก่ำ ดูเหมือนนางอยากจะบีบคอเขาแทนลูกชายกระมัง ฝ่ามือสองข้างเท้าเอวเอาไว้คล้ายดั่งแจกันมีหู

“ท่านแม่ใจร้าย” เจ้าหัวผักกาดเอาแต่ใน ร้องไห้ไปกล่าวต่อว่าไปด้วย ไม่มีใครเห็นใจเด็กน้อยเช่นเขา ขาดความอบอุ่นไร้มารดากอดยามนอนหลับบ้างเลย “ข้าก็แค่อยากมีท่านแม่นอนกอดเหมือนสหายคนอื่น ๆ บ้าง” ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ หมายมาดเอาไว้ว่า อย่างไรท่านแม่จิตใจดีย่อมให้เขานอนด้วยแน่ ๆ แต่นึกไม่ถึงว่าฝันนั้นสลายลงไปในพริบตา

“ท่านย่าไม่อนุญาต อย่างไรก็ไม่ได้ เป็นเด็กดีก็ต้องเชื่อฟังท่านแม่รู้หรือไม่” ท่านอ๋องไม่รู้จะปลอบอย่างไร ยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้ชำระความกับอนุซาน ยามนี้นางถูกคุมขังเอาไว้แล้ว แต่ทว่าเจ้าดีดีดดิ้นจนทำให้เขาแทบจะลงมือฟาดเข้าให้ที่ก้น

ไม่ทันได้ลงมือตี พลันท่านหญิงหลัวเนี่ยเจินเดินไปหุ่นตัวหนึ่งพร้อมกับห่อผ้าออกมา “ท่านแม่นี่คืออะไรขอรับของเล่นใช่หรือไม่” เจ้าตัวสร้างปัญหาก่อเรื่องจนวุ่นวายไปหมด เพราะน้ำเสียงยามที่แผดเสียงจ้านั้นทำให้ใครต่อใครแสบแก้วหู รวมถึงนางเองก็เช่นเดียวกัน

อาชุนเดินเข้ามา “ท่านหญิงเอาหุ่นออกมาทำไมเจ้าคะ” คาดว่าน่าจะเอามาใช้เล่นงานเจ้าเด็กน้อยคนนี้แน่ ๆ ท่านอ๋องน้อยเป็นเด็กเอาแต่ใจนัก ใช้กำลังและเสียงข่มเขาไม่ได้ ดังนั้นเนี่ยเจินจึงคิดแผนกลั่นแกล้งเจ้าตัวแสบให้หวาดกลัว

“เจ้าหุ่นตัวนี้ร้องไห้เสียงดัง ข้าจึงอยากจะฝังเข็มมันให้หยุดร้องและหยุดดื้อดึง มิเช่นนั้นจะไม่รัก” ว่าแล้วก็อมยิ้ม เมื่อเห็นว่าท่านอ๋องน้อยให้ความสนใจกับหุ่นตัวนี้นัก ชินอ๋องเฉิงจื่อหยางเองก็เพิ่งทราบว่านางเก่งกาจเรื่องการแพทย์ ดังนั้นเห็นว่าสตรีนางนี้มีความรู้เกินสตรีทั่วไป

จื่อรุ่ยว่ามารดากล่าวกระทบกระเทียบตนเอง จึงได้ดิ้นลงจากตักของบิดาที่รวบรัดตัวเขาเอาไว้ พลางยื่นมือสองข้างออกมา พร้อมประสานกันก้มศีรษะลงมาเล็กน้อย “เฉิงจื่อรุ่ยขออภัยท่านแม่ จื่อรุ่ยจะเป็นเด็กดีเชื่อฟัง ได้โปรดอย่าฝังเข็มลูกเลยขอรับ” เขาเป็นเด็กดีขึ้นมาทันที

“เช่นนั้นแม่ไม่ดุเจ้าแล้ว แต่เมื่อครู่ทำอันใดเอาไว้กัน แจกันหยกของท่านย่าแตกเป็นเสี่ยง ๆ จื่อรุ่ยเด็กดีควรจะทำเช่นไร” ในที่สุดเนี่ยเจินเข้าใจแล้วว่านางต้องแทนตนว่าแม่ ยามพูดคุยกับเขา หาไม่แล้วจะดื้อดึงเอาแต่ใจ และอาละวาด ทำให้เขาไม่พอใจจึงได้แสร้งเรียกร้องออกมาเช่นนั้น

“ไปขอโทษท่านย่าขอรับ” เพราะหวาดกลัวเข็มเงินในห่อผ้า จึงได้รีบวิ่งไปไม่คิดจะหันกลับมา เฉิงจื่อหยางชินอ๋องแดนเหนือพอใจมากกับการที่นางใช้เหตุผลสั่งสอนพระโอรสเอาแต่ใจได้ดีขนาดนี้

“ท่านหญิงข้าขอโทษด้วยจริง ๆ นะ บางครั้งจื่อรุ่ยก็ไร้เหตุผล บางครั้งก็เป็นเด็กดีน่ารัก ตัวข้าเองไม่ค่อยได้ดูแลเขาเต็มที่ ส่วนมาจะเป็นซานอี๋เหนียงดูแลเขาตลอด” เขาเดินไปเคียงคู่กับนาง เป็นทางเดินสะพานเชื่อมต่อพระตำหนักของไทเฮาในส่วนด้านหน้า

นางกำนัลเห็นภาพนี้ช่างดูเหมือนคู่รักกันและดูอบอุ่นละมุนละไมอย่างลึกซึ้ง ท่านอ๋องไม่เคยใส่พระทัยกับสตรีนางใดขนาดนี้มาก่อน ปิดตายพระทัยอันด้านชาและเหน็บหนาวมาหลายปี ยามนี้กำลังพูดคุยและแอบอมยิ้มอีกด้วย คาดว่าไทเฮาไม่น่าจะทรงทราบ เช่นนั้นนางจะรายงานเรื่องที่น่ายินดีนี้เอง

ระหว่างนั้นนางกำนัลจะไปกราบทูลรายงาน พลันไท่จื่อเสด็จมาอีกคน ทำให้นางต้อนรับไม่ทัน กำลังจะอ้าปากขึ้นมา กลับถูกไท่จื่อโบกมือไล่ให้ไปให้พ้นทางเสียอีก คิดว่าน่าจะเกิดศึกชิงนางขึ้นเป็นแน่ ไทจื่อเฉิงเหวินเทียนได้ยินเรื่องไม่พอพระทัย เร่งสะสางงานรีบมาหานางในดวงใจทันที

แต่ทว่าเห็นภาพอันบาดตาทำให้เจ็บแปลบขึ้นมาทันใด “ท่านอา รักษาระยะห่างด้วย ท่านหญิงยังมิได้ออกเรือนจะอยู่ใกล้ชิดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน” เขามันคนขี้หวง ใครจะเข้าใกล้ยอดดวงใจเขาได้เสียที่ไหนกัน

“เจ้ายังเห็นว่าข้าเป็นท่านอา อยู่อีกหรือ” เห็น ๆ อยู่ว่าเจ้าหลานตัวดี แอบหวงนางอย่างออกหน้าออกตาเช่นนี้ เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าตำหนักพักรับรองก็ได้ยินข่าวลือของไท่จื่อ หลานชายคนโต กับองค์ชายรองมากมาย แท้ที่จริงแล้ว สองพี่น้องชอบท่านหญิง เขาเองก็เช่นเดียวกัน นั่นเพราะเขาจะช่วงชิงนางเพื่อลูกชายของตน

“หลานขออภัยขอรับท่านอา” ในที่แห่งนี้ การพูดจาล้วนใช้คำพื้น ๆ สามัญเฉกเช่นคนธรรมดา หาได้เจ้ายศเจ้าอย่าง หลงระเริงในอำนาจที่มีอยู่ในมือ ดังนั้นแล้วท่านหญิงจึงไม่ต้องกล่าวพูดคำอย่างเป็นทางการ หากต่อหน้าผู้อื่นนางจึงต้องพูดเพื่อรักษาเกียรติของเชื้อพระวงศ์

คล้อยหลังแล้ว ไท่จื่อและองค์ชายรองมักกลั่นแกล้งนางเป็นที่สุด ถึงนางจะทำตัวเย็นชาและไม่ใส่ใจเมินเฉยต่อสองคนพี่น้อง ก็มักจะต้องมาหานางแทบจะทุกวัน ก่อกวนสมาธิของนางอีกต่างหาก เนี่ยเจินไม่สนใจไท่จื่อ นางเดินไปหาเจ้าหักผักกาด

“ท่านแม่ขอรับ ท่านย่ามอบขนมให้ลูกมาด้วย”

ไท่จื่อตกตะลึง พลางทวนคำพูด “ท่านแม่!” ใครก็ได้ช่วยเขาที นางเป็นมารดาของเจ้าตัวแสบตั้งแต่เมื่อไหร่กัน “เจ้าเป็นแม่ของเจ้าตัวแสบตั้งแต่เมื่อไหร่ เรียกแบบนี้เสียหายนะ ไม่ได้ ไม่ได้ต้องเรียกว่าท่านหญิง” แม้ในใจอยากจะให้เจ้าตัวดีเรียกพี่สะใภ้ก็ตามเถอะ

จื่อรุยเงยหน้ามอง พลางชักสีหน้าไม่พอใจอีกด้วย “ก็เป็นท่านแม่ของข้า เหตุใดท่านพี่ไทจื่อจะต้องมาดุข้าด้วย” เขาหงุดหงิดทันใด พลางกอดแขนมารดาเยาะเย้ยอีกฝ่ายด้วย “ท่านแม่ขอรับ ลูกเป็นเด็กดีแล้ว เช่นนั้นหอมแก้มลูกหน่อยได้หรือไม่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel