บทที่ 2-1
“คุณชายคะ หม่อมท่านให้มาเรียนให้ไปเข้าพบที่ห้องสมุดเจ้าค่ะ”
เสียงรายงานอย่างนอบน้อมของหญิงรับใช้ ประจำวังฉัตรแก้ว ที่อยู่ในเครื่องแต่งกายเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตสีขาวตีเกล็ดรีดเรียบ คาดทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงิน มีตรารูปสัญลักษณ์ลายเส้นของสัตว์คล้ายราชสีห์ ปักอยู่ตรงบริเวณอก กระโปรงจีบรอบสีดำสนิท สวมถุงเท้าขาว รองเท้าคัชชูส้นเตี้ยสีดำ เรียกได้ว่าเนี้ยบเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้าเอามากๆ ราวกับจะสะท้อนอะไรบางอย่างของวังฉัตรแก้ว
บ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ ที่มีบริเวณเนื้อที่กว้างขวาง ตกแต่งอย่างงดงามด้วยสวยสวน ล้อมรั้วสูง ลวดลายของรั้วก็ยังมีลายของสัตว์ตัวนี้ปรากฏอยู่ เพราะมันเหมือนเป็นตัวแทนประกาศศักดิ์ ของตระกูลผู้ดีเก่า อย่างตระกูล อิศราทร ที่มีเชื้อสายเลือดสีน้ำเงิน ว่าอยู่มายาวนานนับย้อนหลังไปเป็นร้อยปี
ประมุขของวังฉัตรแก้ว คือหม่อมเจ้าสร้อยสุคนธ์ เป็นหญิงวัยกลางคนที่เน้นระเบียบ และทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบของนาง แบบห้ามล้ำกรอบแม้แต่มิลลิเมตรเดียว ทุกคนในวังฉัตรแก้ว ถูกฝึกกฎระเบียบแบบเคร่งเครียด ชนิดว่าบางทีอาจจะเคร่งเสียยิ่งกว่าการฝึกทหารเอาเสียอีก
“เดี๋ยวฉันตามไป”
เสียงห้าวตอบเนือยๆ หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เมื่อรู้เค้าลางมาเลาๆ ว่ามารดากำลังจะเรียกไปคุยเรื่องอะไร มันก็ไม่แคล้วเรื่องเก่าเรื่องเดิม ที่ท่านเคี่ยวเข็ญเขามาตั้งแต่รุ่นหนุ่ม ไม่รู้ว่าจะกลัววงศ์สกุลนี้ ไม่มีผู้สืบทอดหรืออย่างไรกันนะ
คุณชายประจำวังฉัตรแก้ว ม.ร.ว.จิรสิน ถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย ตั้งแต่บิดาของเขาเสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อน มารดาก็ลดเลิกการหาเจ้าสาวให้เขาช่วยคราว เพราะท่านเสียใจเรื่องของหม่อมเจ้าจักริน แต่นี่คงจะหายเศร้าเรื่องท่านพ่อของเขาแล้วกระมัง ถึงได้มาเริ่มยุ่งกับเขาอีกแล้ว
ใบหน้าหล่อเหลา คมเข้ม หากแต่ดูสวยเกินชายไปสักนิด ตรงนัยน์ตาหวานระยับเปล่งประกายอบอุ่นอารมณ์ดี ตามด้วยริมฝีปากได้รูปสวย สีชมพูเรื่อ ชนิดผู้หญิงบางคนยังอาย ผิวของม.ร.ว.หนุ่มขาวนวลลออตา แบบคนไม่ค่อยได้ไปถูกแดดถูกลมนัก ทั้งที่เขาพยายามแล้วกับการพาตัวไปอาบรังสีอัลตราไวโอเล็ตของพระอาทิตย์เมืองไทย ที่ขนาดผิวฝรั่งยังกลายเป็นสีแทน แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยได้ผลนัก รูปร่างที่สูงโปร่งเพรียว ไม่ได้หนาแบบคนที่ออกกำลังกายหนักๆ ก็ยิ่งทำให้ม.ร.ว.จิรสิน อิศราทร ดูบอบบางและกลายเป็นผู้ชายที่สวยที่สุดในวงสังคมชั้นสูงไปเสียแล้ว จนมีการนินทากันอย่างสนุกปาก ว่าคุณชายหน้าหวานแห่งวังอิศราทร ท่าจะไม่ชอบผู้หญิงแล้วกระมัง ก็เล่นสวยเกินหญิง แถมไม่เคยควงใครมาเปิดตัวในวงสังคมสักที
นี่คงจะเป็นสาเหตุหลัก ที่หม่อมเจ้าสร้อยสุคนธ์นั่งไม่ค่อยจะติดนัก จึงเพียรหาสาวๆ เลือกคัดแล้วว่ามีศักดิ์ศรีตระกูล ฐานะ สมกับบุตรชายท่าน มาให้ท่านชายแห่งวังฉัตรแก้วเลือกสรร คนแล้วคนเล่า จากสิบ ก็เริ่มจะเป็นหลายสิบ เกือบจะค่อนร้อยเข้าไปแล้ว หากแต่ลูกชายของท่านก็ยังเพียงแค่ยิ้มๆ ทำหน้ามีเลศนัยเวลาที่นางแนะนำหรือกระตุ้น แล้วม.ร.ว.หนุ่มก็จะทำเป็นยุ่งกับงาน จนนางลืมไปเองว่ากำลังลุ้นสาวคนไหนให้กับบุตรชายอยู่ เพราะบางทีก็ไปต้องตาหมายใจไว้หลายคนเหลือเกิน
ม.ร.ว.หนุ่มค่อยๆ ลุก ค่อยๆ เดินลากขาเพื่อไปยังเป้าหมาย ที่มีมารดารออยู่ เขาเบื่อเหลือเกินแล้วที่จะฟัง ว่าหญิงสาวรายล่าสุดที่ท่านไปติดใจนั้นดีวิเศษเพียงใด ท่านจะรู้ไหมนะ ว่าเขาชอบผู้หญิงเหมือนผู้ชายธรรมดาๆ ทั่วไป เพียงแค่เขาเบื่อนัก พวกเจ้าหล่อนเหล่านั้น เข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมกับเขาเพราะอยากจะแค่ยกฐานะ หลงใหลในเงินทอง รูปร่างหน้าตาที่ดึงดูด แถมพ่วงด้วยชื่อเสียงของเขา ที่ว่าไม่เคยมีสาวไหนมาแพ้วพานมาก่อน พวกสาวๆ ในวงสังคมชั้นสูงจึงท้าทายแข่งขันกันสนุก ว่าใครจะได้เขาเป็นของรางวัล ทำราวกับเขาเป็นเป้าหมาย ในเกมแข่งขันที่แสนสนุกของพวกหล่อน มันทำให้ม.ร.ว.จิรสินไม่ยอมยุ่งเกี่ยวกับใครสักที แถมสาบานกับตนเองไว้ว่า จะไม่มีวันไปยุ่งเกี่ยวกับพวกสาวๆ หัวสูง แสนจะไฮโซ ที่สวมหน้ากากเข้าหากันเป็นว่าเล่น ในวงสังคมชั้นสูงเด็ดขาด!
“ทำอะไรอยู่น่ะ แม่รอเราตั้งนานแล้ว หรือเด็กมันพึ่งไปตามเรา”
เสียงทรงอำนาจดังขึ้นทันที ที่ม.ร.ว.จิรสินก้าวเท้าเข้าไปในห้องสมุด มารดานั่งอยู่บนตั่งไม้ ที่เป็นของเก่าแก่ ท่านชอบมาเอนหลังอ่านหนังสือที่นี่นัก และมักจะใช้มันเป็นที่พูดคุยปรึกษางานเรื่องต่างๆ ไปด้วย เพราะห้องสมุดของวังฉัตรแก้ว โล่งโปร่ง มีอากาศถ่ายเทดี และปลูกไม้หอมให้กลิ่นจรุงเข้ามาถึงด้านใน ทำให้สดชื่นผ่อนคลายนัก
“ผมติดทำงานอยู่สองสามอย่างน่ะครับท่านแม่ เลยเดินมาช้า ท่านแม่มีอะไรจะเรียกใช้ผมหรือครับ”
ม.ร.ว.หนุ่มรีบพูด เขารู้นิสัยท่านดีว่าขืนไม่แก้ต่างแทนสาวใช้ล่ะก็ งานนี้มีหวังต้องถูกอบรมกันยาวอีกแน่ๆ ทั้งที่อีกฝ่ายทำตามหน้าที่ตรงเผง หากแต่คนโอ้เอ้ก็คือตัวเขาเอง
“ไม่มีอะไรหรอก แม่แค่อยากจะคุยกับชายหน่อย เออ...นี่แนะ ชายรู้จักกับหญิงวิวไหม?”
นั่นไง ว่าแล้ว...
ม.ร.ว.จิรสินคิดในใจ ก่อนจะยิ้มตอบมารดา แล้วพยักหน้า
“ใช่ที่เป็นดาราหรือเปล่าครับท่านแม่ คนโปรดของพวกแม่บ้านในครัวเลยนี่ครับ ผมได้ยินพวกนั้นพูดถึงกันบ่อยๆ”
เพียงได้ยินบุตรชายพูดดังนั้น หม่อมเจ้าสร้อยสุคนธ์ก็ยิ้มอย่างถูกใจ นางเอาหนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่ง ที่ลงพาดหัวข่าว เกี่ยวกับคนที่นางพูดถึง ให้กับบุตรชายดู ด้วยสีหน้าปลื้มเปรมยิ่งนัก
“ดาราคนอื่นมีแต่ข่าวเสียๆ หายๆ แต่หญิงวิวมีแต่ข่าวดีๆ ข่าวชมเชยทั้งนั้นเลย ดูสิ นี่ก็ได้รับโหวตให้เป็นนางฟ้าแห่งวงการบันเทิง ทั้งสวย ทั้งมาจากชาติตระกูลดี เหมาะสมแล้วกับตำแหน่งนี้ เราว่าไหม?”
สายตาของเขามองดูหนังสือพิมพ์ที่มารดายื่นให้ หญิงสาวหน้าหวานแอร่ม นัยน์ตากลมหวานบาดใจ ยิ้มเยือนให้กล้อง ท่วงท่าอ่อนน้อมงดงามในชุดไทยประยุกต์สีขาว ดูแล้วก็สมกับตำแหน่งที่ใครต่อใครตั้งให้อยู่หรอก เพราะเจ้าหล่อนงดงามบาดตานัก
หญิงวิวที่มารดากำลังชื่นชอบ หรือ ม.ร.ว. วริศรา ชยาภัทรกุล หญิงสาวสวยที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง เป็นที่ชื่นชมของคนอีกหลายคน บทบาทนางเอกที่เธอได้รับในละครแต่ละเรื่องได้รับความนิยมนัก ไม่ว่าเรื่องไหนเรื่องนั้นเรตติ้งพุ่ง โฆษณาล้น และยังเป็นพรีเซนเตอร์ของสินค้ายี่ห้อดังอีกหลายตัว ที่สำคัญคือโสด...
ข้อสุดท้ายนี่แหละ ที่เขาชักจะไม่ค่อยอยากจะชื่นชมคนในภาพเท่าไหร่ นัยน์ตาขวาของม.ร.ว.หนุ่มเริ่มกระตุก บอกคร่าวๆ ว่า ท่าทางเขาจะต้องมีเรื่องได้ปวดหัวแน่ๆ
“แม่นัดไปทานข้าวที่วังชยา ของหม่อมเจ้าวรรธ์ ไปกับแม่ด้วยนะวันนี้”
เมื่อเห็นบุตรชายนิ่งไป มัวแต่เหม่อมองคนในรูป นางก็เหมาเอาว่า ม.ร.ว.หนุ่มคงจะกำลังชื่นชมความงามของหญิงสาวในภาพเป็นแน่
“เอ่อ...เย็นนี้ผมไม่ว่างน่ะครับท่านแม่ มีนัดกับพวกไอ้เซนไว้ เรื่องหุ้นส่วนที่คลับ คงจะไปกับท่านแม่ไม่ได้จริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
ม.ร.ว.จิรสินตอบ คำตอบนั้นทำให้มารดาขัดใจนัก ท่านชักสีหน้าบึ้งทันที ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
“ทำไม ไปกับแม่ก่อนแล้วค่อยไปธุระของเราไม่ได้หรือไงกัน อ๋อ...ฉันมันแก่แล้วก็แบบนี้แหละ ลูกหลานเริ่มทิ้ง ไม่เห็นค่า เห็นแม่สำคัญน้อยกว่าเพื่อนกว่างาน”
คำตัดพ้อนั่น เล่นเอาม.ร.ว.หนุ่มอึ้ง เขากลืนน้ำลาย แล้วเอ่ยเสียงอ่อน
“ถ้าอย่างนั้นไปกับท่านแม่ก่อนก็ได้ครับ แต่ผมอยู่ไม่นานนะครับ เพราะมีธุระจริงๆ วันนี้ประชุมเรื่องสำคัญด้วย”
“ไปแต่งตัวหล่อๆ เถอะชาย เดี๋ยวแม่จะรอ สักสี่โมงเย็นกำลังเหมาะ จะได้อยู่คุยกับหม่อมวรรธ์นานๆ หน่อยชายจะได้ไปธุระของชายต่อด้วย”
ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มรวดเร็ว ราวกับพลิกฝ่ามือ ม.ร.ว.หนุ่มยิ้มแหยตอบท่าน แล้วเดินออกจากห้องสมุด รู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูกอีกแล้ว กับความวุ่นวายของมารดา เมื่อไหร่กันหนอ ท่านจะเลิกเล่นเกมจับคู่ให้เขาเสียที
“เฮ้อ...เอาเถอะ ตามใจไปสักหน่อย เดี๋ยวท่านแม่เบื่อก็คงเลิกเอง”
คุณชายแห่งวังฉัตรแก้วบ่นพึมพำอย่างเหนื่อยหน่าย เรื่องของเนื้อคู่ไม่จำเป็นต้องเสาะหา ถึงเวลาพระพรหมท่านก็คงจะส่งมาให้เอง ตอนนี้เขายังไม่อยากมีภาระเพิ่มนอกจากงานที่กำลังสุมหัวอยู่ตอนนี้มากนัก ขืนต้องไปวุ่นวายเอาใจใครอีกคงจะเหนื่อยน่าดู