บท
ตั้งค่า

บทที่ 1-2

เธอถอนหายใจเมื่อคิดถึงคุณยายผู้เข้มงวดของเธอ ท่านเปรียบราวกับผู้บัญชาการทุกอย่างในบ้าน ตัวเธอแม้จะไม่ค่อยจะกลัวเกรงผู้เป็นยายนัก หากแต่กันตพงศ์บิดาของเธอต่างหากเล่า ที่เธอกลัวสุดๆ เปรียบแล้วท่านก็เหมือนกับแม่ทัพ ที่ฟังคำสั่งผู้บัญชาการมาอีกที

เฮ้อ...ถ้างานนี้กันตพงศ์ต้องมาออกปากเองกับเธอแล้วล่ะก็ กานต์ธีราคงจะจนมุมแน่ๆ ดูแต่ก่อกานต์น้องชายตัวแสบ จอมกระล่อนของเธอนั่นกระไร ยังกลัวบิดาจนหงอ เธอไม่กลัวก็คงจะแปลกแล้ว เพราะท่านดุนัก แถมเอาจริงเสียด้วย ไม่มีมาขู่กันเล่นๆ เด็ดขาด

“เอ๋? นี่อย่าบอกนะ ว่ายายทับทิมของกานต์น่ะ จะจับกานต์คลุมถุงชน” เทียนแก้วทำตาวาวๆ แล้วยิ้มอย่างล้อเลียน

“นั่นแน่ กับหนุ่มที่ไหนหนอ ทำไมไม่ตกลงไปล่ะกานต์ ยายเธอหาให้แบบนี้ ท่าทางจะเข้าท่านะ ระดับเข้าตาคุณยายทับทิมได้น่ะ”

หญิงสาวเองรู้จักยายของเพื่อนสนิทดี ว่าคุณยายทับทิมน่ะ ‘ร้ายกาจ’ ขนาดไหน ซึ่งถ้าท่านหาให้เองเตรียมไว้แบบนี้ล่ะก็ คงจะผ่านมาตรฐาน ยมอ. (ยายมองเอง) แน่นอนร้อยเปอร์เซ็น เธอและกานต์ธีราสนิทสนมกัน เพราะเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันมาสี่ปีเต็ม เธอชอบใจในความตรงไปตรงมาของกานต์ธีรา และคบหากันมายาวนาน จนเพื่อนรักไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นนี่ก็ยังไม่ได้หายจางลง ตามระยะทางที่ห่างกัน

“ไม่ไหวนะ ถ้าเป็นคนนั้นเข้าจริงๆ บรื๋อ” กานต์ธีราทำท่าขนลุกแล้วสั่นหน้าจนผมกระจาย

“ไม่เอาหรอกยายเทียน เธอเอาไหมล่ะ เพื่อนสมัยเด็ก ที่เราเลยไล่เตะก้น เคยแกล้ง อะ อะ อย่ามาพูดว่าอาจจะกลายร่างเป็นเจ้าชายสุดหล่อนะ คนอย่างพี่ไตรน่ะ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ทั้งนิสัย ทั้งรูปร่างหน้าตา เทียนคิดหรือว่าเรา จะทนคนที่ทำตัวเป็นร้านสะดวกซื้อ ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไหวน่ะ”

“ยังไงของเธอกัน ร้านสะดวกซื้อ พี่เค้าเปิดเซเว่นหรือไง”

เทียนแก้วทำหน้ายุ่ง กานต์ธีราเลยเฉลยเสียงเพลียๆ เมื่อนึกถึงหน้าของไตรลักษณ์ ที่ยิ้มแป้น ใจดีอยู่ตลอดเวลา

“ก็ยินดีต้อนรับ ได้ครับ พร้อมตลอด บริการได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไง อยู่กับคนแบบนี้ เราเบื่อตายพอดี”

“งั้นจะเอาแบบไหนล่ะยะยายกานต์”

อีกฝ่ายหัวเราะคิก เมื่อฟังสรรพคุณของชายหนุ่มที่ยายทับทิมมองหาไว้ให้หลานสาว แก่นเซี้ยว ดื้อ ปากจัด เอาแต่ใจแบบกานต์ธีรา ถ้าเกิดได้หนุ่มแบบเรียบร้อย ดีพร้อมขนาดนี้ล่ะก็ คงจะน่าสงสารฝ่ายชายน่าดู

“ยังไม่เอา ยังไม่อยากได้ เฮ้อ...อย่าไปพูดถึงเลย คิดถึงเมืองไทย อยากกินอาหารไทยจะแย่แล้ว จำได้ว่าแม่ครัวที่บ้านของเทียน ทำกับข้าวอร่อยมาก ตำส้มตำแซบอีหลี”

“โอเคเลย เดี๋ยวเราให้ป้ายุ้ยจัดการให้เลย เอาปลาร้าด้วยไหมล่ะ เราแอบไปกินกับแกบ่อยๆ กินต่อหน้าแม่ไม่ได้ แม่บ่นหูชาเลย กลัวเราท้องเสีย”

เทียนแก้วเสนอ กานต์ธีรารีบพยักหน้ารับ เพียงนึกถึงอาหารไทยรสจัดฝีมือจัดจ้าน ของแม่ครัวประจำบ้านเทียนแก้ว เธอก็แอบน้ำลายสอเสียแล้ว

ส่วนไอ้เรื่องราวที่จะต้องเล่นซ่อนหากับผู้เป็นยาย ไว้ยังไงค่อยคิดอีกที ว่าจะรั้งเวลาให้โอ้เอ้ไว้ได้นานขนาดไหน เธอต้องหาแหล่งข่าวใกล้ชิดผู้เป็นยายที่ไว้ใจได้เสียก่อน ว่าจะไม่ปากโป้งเรื่องที่เธอกลับเมืองไทยแล้ว ไว้ค่อยดูเหตุการณ์ทางบ้านเธอว่าเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง เมื่อไหร่ยายทับทิมของเธอรามือเมื่อนั้นแหละ กานต์ธีราค่อยโผล่หน้ากลับบ้านเกิด

งานนี้เธอมองไม่เห็นใครเลยจริงๆ นอกเสียจากน้องชายตัวแสบ ก่อกานต์!

.....................................................................................................................

“ใครโทรมาตอนนี้วะ” เสียงห้าวบ่นพึมพำ ก่อนจะป่ายมือไปข้างๆ ตัวหากแต่กระทบกับร่างนุ่มนิ่มที่นอนข้างเขาเสียก่อน มือใหญ่จึงควานหาไปอีกทางหนึ่ง แล้วกดรับ เขาซุกหน้าลงกับความนุ่มนิ่มของสตรีที่อยู่ข้างตัวไปด้วย ขณะที่รับสายที่ไม่ได้มองด้วยซ้ำ ว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของใคร

“ครับ”

“พี่เอง”

“พี่ไหนครับ”

ก่อกานต์นิ่วหน้า สมองในตอนเช้า ไม่สิ น่าจะสายแล้วเพราะแดดส่องขนาดนี้ ยังมึนเบลอตื่นไม่เต็มที่ เนื่องจากกิจกรรมตอนกลางคืน

ทั้งเหล้า ทั้ง...สายตางัวเงียมองไปข้างๆ ตัวแล้วยิ้มกริ่ม ทำให้เขาเสียพลังงานมากพอดู แล้วนี่สาวที่ไหนอีกหนอ เสียงหวานๆ คุ้นๆ อย่างบอกไม่ถูก

“พี่กานต์” เสียงนั้นเริ่มห้วนเข้า เมื่อน้องชายทำท่าจะจำเธอไม่ได้

“กานต์ไหนเอ่ย เอ...ได้เบอร์ผมมายังไงเนี่ย”

“ไอ้บ้ากาย พี่เองโว้ย พี่สาวแกไง กานต์ธีรา แม้แต่พี่แกก็ยังไม่เว้นหรือไงกันไอ้น้องขี้หลี”

ปลายเสียงตวาดแหว เล่นเอาก่อกานต์ตื่นเต็มตาขึ้นมาเลยทีเดียว เขาผุดลุกพรวดขึ้นนั่ง ไม่สนใจสาวสวยข้างๆ ที่ส่งเสียงงึมงำที่มีคนกวนตอนนอน น้ำเสียงเขาตื่นเต้นยินดีนักหนา เมื่อได้ยินเสียงพี่สาวอย่างไม่คาดฝันแบบนี้

“เฮ้ย! พี่กานต์ ไปอยู่ไหนเนี่ย รู้ไหมว่าตอนนี้ยายไปตามหาถึงแอลเอโน่น เค้าติดต่อพี่กานต์กันไม่ได้เลย ร้อนใจกันไปหมด ยายน่ะลงทุนนุ่งผ้าถุงขึ้นเครื่องไปเลยนะเนี่ย”

“ตายโหง!”

กานต์ธีราเผลออุทาน ถ้าบิดาหรือมารดามาได้ยินเธอพูดจาโผงผางแบบนี้ล่ะก็ ต้องโดนหยิกหูหลุดแน่ๆ

“ตายสิพี่ ยายโกรธมากเลย หาว่าพี่กานต์น่ะดื้อ คงจะตื้อเรียนด็อกแน่ๆ ผมเลยบอกไปว่าพี่จะเรียนแคท อิอิ แล้วตกลงนี่ยังไงเนี่ย หนีเรียนต่อเอกจริงๆ หรือน่ะ”

“ต่อเอกอะไรกันเล่า” กานต์ธีราค้อนน้องชายราวกับว่าเจ้าตัวอยู่ตรงหน้าเธอ

“ยายน่ะแหละจะทำอะไรกับพี่ล่ะ มีแผนอะไรกันล่ะ แผนการร้ายที่จะทำลายชีวิตพี่ พี่ก็ต้องหนีไว้ก่อนล่ะ”

“เอ๋?”

ก่อนกานต์ทำหน้างงๆ เขานิ่งไปนิดก่อนจะอมยิ้ม รู้แล้วว่าอะไรเป็นสาเหตุให้พี่สาวแจ้นหนีเอาแบบนี้ แถมรอบนี้หนีเอาจริงเอาจังเสียด้วย

“อ๋อ...เรื่องพี่ไตรน่ะเหรอ ใจร่มๆ ใจเย็นๆ น่าตีตนไปก่อนไข้หรือเปล่า ผมไม่เห็นว่าจะมีอะไรเลย”

“ไม่มีอะไรที่ไหนกัน แม่รายงานมาหมดแล้ว ยายน่ะเรียกแม่ไปคุยด้วยนะ อี๋ พี่ไม่เอาด้วยหรอก”

ฟังเสียงกานต์ธีราแล้ว ชายหนุ่มก็หัวเราะก๊ากอย่างถูกใจ เขาเองก็ไม่เห็นด้วยนักหรอก เรื่องจับคู่ดูตัวอะไรกันนี่ เพราะตนเองก็เป็นหนุ่มสำราญ และยังหวงชีวิตโสด น่าสงสารจะตายถ้าต้องเสียอิสรภาพกับใครก็ไม่รู้ที่ตัวเองไม่ได้รัก แถมต้องติดแหง็กไปด้วยตลอดชีวิตเสียอีก

“แล้วนี่พี่จะทำยังไงกัน ป่านนี้ยายเราไปตามหาทั่วแอลเอแล้ว ผมยังแอบคิดว่ายายจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือเปล่าเนี่ย เฮ้อ...เล่นเอาส้มโอกับกล้วยหอมไปฝากพี่กานต์ด้วยนะ แกเอาซุกในกระเป๋าเดินทางของพ่อไปน่ะ ผมห้ามก็ไม่เชื่อ จะเอาไปให้ได้ แกบอกว่ากล้วยหอมที่โน่นแพง ลูกล่ะเป็นร้อย ของโปรดของพี่ด้วย”

“กรรม”

แม้จะเครียดแต่เธอก็อดหัวเราะกิ๊กไม่ได้ เมื่อนึกถึงภาพยายทับทิมของเธอ หญิงชราที่ไม่ยอมแต่งตัวแบบอื่น นอกจากเสื้อคอกระเช้ากับผ้าถุงลายดอกสีแสบตา สงสัยคนจะมองว่าเป็นแฟชั่นใหม่หรือเปล่านะ ป่านนี้คงจะแตกตื่นกันไปทั่วแอลเอแล้วกระมัง

“แล้วนี่พี่กานต์ไปอยู่ที่ไหน เบอร์นี้ไม่คุ้นเลย” ก่อกานต์ถามอย่างนึกเป็นห่วงพี่สาวขึ้นมาทันที สงสัยแบบนี้กานต์ธีราคงจะลี้หนีภัยผู้เป็นยายนานแน่ๆ

“อยู่เมืองไทยนี่แหละ อย่าปากโป้งไปล่ะ เจ้ากาย เหยียบให้มิดๆ นะ พี่จะให้แกช่วยดูเป็นหูเป็นตาให้หน่อยแล้วรายงานมาที ว่าอะไรเป็นอะไรได้ไหมจ๊ะ น้องชายสุดที่รัก” น้ำเสียงตอนท้ายหวานขึ้นมาทันที จนก่อกานต์ต้องอมยิ้ม

“แหม เพื่อพี่สาวสุดที่รัก ได้เลยครับ อาทิตย์ล่ะสองหมื่น ค่าส่งข่าว อิๆ”

“ไอ้งก”

เสียงหวานเปลี่ยนเป็นตวาดแหว ก่อกานต์หัวเราะก๊าก แล้วทำเสียงขรึมๆ

“งกอะไรกัน น่านะ พี่กานต์ออกจะรายได้ดี พี่เล่นหุ้นกับเพื่อนที่เป็นโบรกเกอร์นี่นา นิดหน่อยให้น้องค่าเหนื่อย ค่าสืบ ค่าข่าว ค่าปิดปาก ค่า...”

“เออๆ สองหมื่นก็สองหมื่น แต่ถ้าเรื่องพี่อยู่ที่นี่แพร่ออกไปล่ะก็ งานนี้มีตายแน่ๆ”

เธอรีบขัดขึ้นทันที แล้วเอ่ยเสียงแหว อีกฝ่ายรีบรับคำอย่างมั่นเหมาะ

“ไม่มีหลุดปากแน่ครับผม ก่อกานต์ ทุ่งทอง รับปากด้วยเกียรติเลยครับว่าจะไม่มีข่าวคราวใดๆ หลุดออกไปแน่นอน แถมด้วยบริการพิเศษ ถ้าพี่สาวคนสวยต้องการความช่วยเหลือ นอกเหนือจากสอดแนม ยินดีครับผม ถือว่าเป็นทิปแถมให้”

“ไม่ขอใช้บริการอีกแล้วหรอกย่ะ กลัวได้จ่ายหนักกว่าเดิม”

กานต์ธีราส่ายหน้าน้อยๆ นึกถึงใบหน้าหล่อเหลา นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ของน้องชายแล้วอดยิ้มไม่ได้ ชักจะอยากให้ยายของเธอลองหาคู่ให้เจ้าตัวแสบนี่บ้าง คอยดูเถอะ ถ้ามาให้เธอช่วยบ้างล่ะก็จะเรียกเอาคืนให้แสบ ตอนนี้ปล่อยไว้ก่อน ทีใครก็ทีมัน เธอซักถามเรื่องเกี่ยวกับคนในครอบครัวอีกสักพัก แล้วก็วางสาย ก่อนวางไม่วายกำชับเรื่องความลับของเธออีกรอบ

เกมเล่นซ่อนหารอบนี้ ต้องไม่ให้ยายทับทิมหาเจอเด็ดขาด จนกว่าเธอจะต่อรองสำเร็จ และตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาต่อรองเสียด้วย

“ยายกานต์ ส้มตำเสร็จแล้ว ลงมากินได้แล้ว เร็วๆ เข้า ก่อนที่แม่เราจะมา เดี๋ยวอดกินปลาร้านะ”

เสียงใสเรียกเธอดังลั่นบ้าน ทำให้กานต์ธีราขยับตัวลุกขึ้นจากโซฟาตัวนุ่มที่นั่งอยู่ ตอนนี้ขอเธอไปเติมพลังก่อนก็แล้วกัน ค่อยมาคิดแผนจัดการกับคุณยายจอมดื้อของเธอใหม่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel