บทที่ 1 วันนี้คุณเป็นของผมนะ 2
“ฉันได้ใบปริญญามาด้วยความสามารถ ไม่เคยซื้อด้วยเงิน แต่ฉันซื้อมาด้วยความรู้” พนิตาตอบด้วยท่าทางหงุดหงิด กัดฟันกรอดๆ หากตอนนี้ไม่ได้อยู่ต่อหน้าผู้คน หล่อนคงไม่รีรอที่จะลุกไปตบปิยะดาสักสองสามฉาดให้หายแค้นใจ
“เหรอ..แล้วสถานศึกษาที่เธอเรียน เขาไม่ได้สอนมารยาทความเป็นผู้ดีให้เธอหรือไงจ๊ะ”
คราวนี้พนิตายิ้ม ก่อนสวนกลับเมื่อเห็นช่องโหว่พอที่หล่อนจะเอาคืนได้ “อุ๊ยตาย พูดเหมือนตัวเองเป็นคนดีเด่น คงนึกว่าตัวเองสวยและแสนดีสินะ กระจกก็สะท้อนให้เห็นแค่หน้าตาภายนอก ส่วน‘สันดาน’คน ต้องใช้สายตาคนอื่นช่วยมอง ไม่งั้นจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนยังไง”
“ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นยังไง ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาช่วยมอง เพราะ‘คนบางคน’ก็ยัดเยียดความเลวทรามให้ฉัน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเรื่องจริงเท็จเป็นยังไง สายตาคน…บางทีก็ไม่เที่ยงตรง ชอบมองข้อด้อยคนอื่นมากกว่าจะมองข้อดี”
ยังไม่ทันที่พนิตาจะโต้ตอบ พิธีกรหนุ่มหน้าคล้ายๆม้าที่ชื่ออาชาก็ได้ประกาศก้องหลังจากปล่อยให้หนุ่มๆในงานมองสาวๆทุกคนจนหนำใจแล้ว
“เริ่มจากสาวสวยที่นั่งอยู่ริมซ้ายสุดเลยนะครับ เธอชื่อแพท อายุ25ปี ใครอยากออกเดต หม่ำข้าวกับสาวคนนี้บ้าง เริ่มต้นจาก500บาทครับ”
“ผมให้600เลยครับ” หนุ่มคนหนึ่งยกมือขึ้นพูดเสียงใส ซึ่งอาชาก็กวาดตาไปทั่วห้องประชุมขนาดใหญ่ ก่อนถามว่า
“มีใครให้สูงกว่านี้มั้ยครับ”
เงียบ…
เมื่อไม่มีใครให้ราคามากกว่า 600 เป็นอันว่าผู้ประมูลคนแรกได้สาวแพทไปเที่ยวด้วย1วัน จากนั้นก็เริ่มผู้หญิงคนที่2ด้วยราคาเริ่มต้นอยู่ที่500บาททุกคน และต่างก็ถูกประมูลไปด้วยราคาไม่เกิน800บาท จนกระทั่งถึงคิวพนิตา
“สาวงามคนนี้ชื่อหนูนิครับ อายุ24ปี สัดส่วน 34 24 35 สูง165 ใครอยากหม่ำข้าวกับเธอ เริ่มต้นประมูลที่ราคา600ครับ”
พนิตาปรายตามองปิยะดาด้วยสีหน้ากระหยิ่ม ส่งสายตาราวจะบอกเป็นนัยๆว่า ‘เห็นหรือยัง ฉันยังมีราคาเริ่มต้นที่600บาทเชียวนะ สูงกว่าคนอื่นๆ’
“ผมให้700เลยครับ” หนุ่มหัวล้านชูมือขึ้นสูง ขณะที่อาชาพูดว่า
“ราคาอยู่ที่700แล้วนะครับ มีใครให้สูงกว่านี้หรือเปล่า”
“ผมให้900ครับ” หนุ่มผมดกยาวถึงเอวเหมือนศิลปินยกมือขึ้นบ้าง
“ผมให้909บาท” ชายหัวล้านยังพยายามสู้
“ผมให้910บาท” ชายผมดกไม่ยอมแพ้
“ผมให้911”
“ผมให้912”
“งั้นผมยอมแพ้” คนหัวเหน่งส่ายศีรษะไปมา “แค่ประมูลผู้หญิงไปออกเดทด้วยแค่วันเดียว ผมไม่บ้าพอที่จะจ่ายเงินเป็นพันหรอก”
“งั้นสรุปเลยนะครับ” อาชากระแอมเล็กน้อยก่อนยิ้มกว้าง “หนูนิมีราคาประมูลสูงกว่าใคร ผู้ที่จะได้ควงเธอไปเที่ยวคือคุณเข้มที่จ่ายเงินสูงถึง912บาทครับผม”
พนิตาเหลือบตามองคนข้างกายอีกครั้ง ก่อนพูดเสียงเบาราวกระซิบ “คราวนี้เธอก็คงรู้แล้วสินะว่า…ผู้หญิงดีๆน่ะ ผู้ชายคนไหนก็มองเห็นคุณค่า ส่วนผู้หญิงเละเทะอย่างเธอ จะมีคนยอมเสียเงินเชียวหรือ น่าอายแทนจริงๆเชียว หากไม่มีใครหน้าไหนยอมเสียเงินเพื่อเธอเลยแม้แต่คนเดียว”
ปิยะดาเม้มปากแน่น ก่อนเชิดหน้า ไม่ยอมโต้กลับอีกฝ่าย ในใจเจ็บจนชาชินเสียแล้ว หล่อนถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงไร้ยางอาย ถูกตัดสินว่าผิดโดยที่ไม่มีสิทธิ์แก้ตัว ชีวิตหล่อนที่เหลือคือการทนอยู่บนบาปที่ไม่ได้ก่อ
อาชาเหล่ตามองหญิงสาวที่เหลือเป็นคนสุดท้าย ท่าทางไม่ค่อยเต็มใจนักเมื่อเอ่ยประกาศ
“คนต่อไป ‘น้องลูกเป็ด’ หนุ่มคนไหนอยากทำความรู้จักกับเธอผ่านเดท1วัน สามารถประมูลได้เลยนะครับ ราคาเริ่มต้นที่100บาท”
ทั่วทั้งห้องเงียบเชียบ สายตาทุกคู่จับจ้องมองหญิงสาวที่นั่งหน้าเผือดสี ปิยะดากำมือแน่น จิกเล็บเข้าที่อุ้งมือตัวเอง ความน้อยใจแล่นปราดไปทั้งร่าง นี่คุณค่าของหล่อนมีน้อยกว่าผู้หญิงคนอื่นมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ
พนิตาทำตาโต ห่อปากเข้าหากัน ก่อนหัวเราะคิก ท่าทางจะถูกใจไม่น้อยที่พิธีกรกดราคาปิยะดาต่ำถึงเพียงนั้น
“มีใครจะร่วมประมูลมั้ยครับ” ถามพลางกวาดตามองไปทั่ว ซึ่งบรรดาชายหนุ่มก็นิ่งเงียบกันหมด ขณะที่ปิยะดาก้มหน้ามองพื้น เหมือนถูกประจานทางอ้อมยังไงชอบกล…คงไม่มีใครยอมควักเงินเพื่อหล่อนอย่างที่พนิตาว่าไว้แน่ๆ !
“101บาทครับ” ชายวัย50กว่าๆยกมือขึ้น และนั่นก็ทำเอาพนิตาถึงกับหลุดขำออกมา คนสวยแต่ทำตัวไร้ค่า ก็คงมีค่าแค่เพียงเศษเงินเท่านั้นแหละกระมัง
“101บาทนะครับ มีใครให้ราคาสูงกว่านี้มั้ยครับ” อาชาถาม ก่อนถอนหายใจ “หากไม่มีแล้ว งั้นผมขอปิด…” ยังพูดไม่ทันจบ เสียงห้าวก็ดังขึ้นเสียก่อน
“50,000บาทครับ !”
“ห๋า !!!” อาชาอ้าปากค้าง เหล่าชายหนุ่มพากันหันไปมองเจ้าของเสียงทรงอำนาจที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องอย่างไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่ปิยะดาเงยหน้าขึ้นมองผู้ประมูลคนที่สอง ก่อนจะอุ่นวาบไปทั้งสรรพางค์ เมื่อสบนัยน์ตาสีม่วงอ่อนของฝ่ายนั้นที่กำลังมองหล่อนอยู่ก่อนแล้ว
ใบหน้าหล่อเหลาเรียบสนิทไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ ทว่าแววตาที่เขาใช้มองปิยะดานี่สิ ทำให้หล่อนรู้สึกร้อนๆหนาวๆชอบกล