ใจที่เปลี่ยนไป
ตอนที่ 5
ใจที่เปลี่ยนไป
“เก็บของ ผมจะพาคุณไปอยู่คอนโด ไม่ต้องปฏิเสธอะไรทั้งนั้นเพราะผมได้ลงไปบอกเจ้าของหอพักของคุณแล้วส่วนเรื่องเงินมัดจำที่คุณไม่ได้บอกเขาล่วงหน้าผมเป็นคนจ่ายให้เอง”
ก้านแก้วเลือกที่จะทำตาม เธอไม่อยากต่อล้อต่อเถียงอะไรกับเขาอีกแล้วสุดท้ายเขาก็จะพูดว่าทำทุกอย่างเพียงเพราะสงสารเด็กในท้องเพราะบางทีเด็กอาจจะเป็นลูกของเขา หญิงสาวไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้ไม่รู้สึกเสียใจเวลาที่เขาพูดแบบนี้ทั้งที่มันคือการไม่ให้เกียรติเธอ อาจจะเป็นเพราะเธอรู้ตัวดีว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของใคร
ศรุตรับก้านแก้วไปอยู่ที่คอนโดของเขาโดยที่ตัวเขาไม่ได้อยู่ด้วย ชายหนุ่มคงกลับไปพักที่บ้านตามเดิม เขาจะมาหาเธอบ้างเป็นครั้งคราวแต่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรเกินเลยส่วนมากเขาจะเพื่อพาเธอไปซื้อของใช้แล้วก็พาไปฝากท้องที่โรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกกรุงเทพฯที่เขาได้ตัดสินใจเลือกว่าจะให้เป็นที่คลอดลูกสำหรับเธอด้วย
หลายเดือนต่อมา
“ผมจะให้คุณลาออกจากงาน” ศรุตพูดขึ้นมาด้วยท่าทางจริงจังดูไม่สบายใจ
“ทำไมล่ะคะแล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนใช้ไหนจะต้องส่งไปให้พ่อกับแม่อีกแล้วลูกที่กำลังจะเกิดมาฉันก็ต้องใช้เงินดูแลเขา”
ก้านแก้วจะไม่มีทางยอมทำตามเขาในเรื่องนี้เด็ดขาดเพราะงานคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอถ้าต้องกลายเป็นคนตกงานชีวิตของเธอคงไม่มีทางออก
“ผมจะให้เงินเดือนคุณ 2 เท่า”
“เพื่ออะไรคะ” คนท้องไม่เข้าใจเหตุผล
“ผมกำลังจะหมั้นอีกไม่นานก็จะแต่งงานถ้าคุณยังใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกแบบนี้มีหวังอีกไม่นานความลับของผมคงแตก ผมจะไม่มีทางให้คุณกับเด็กในท้องมาทำลายความรักของผม”
หญิงสาวที่ไม่เคยมีคำพูดไหนของชายหนุ่มตรงหน้าทำ
ร้ายหัวใจเธอได้วันนี้เธอกลับรู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่เขากำลังบอกทั้งที่ตัวเองก็รู้ดีว่าที่อยู่กับเขาทุกวันนี้ก็เพียงเพื่อรอตรวจ DNA แล้วไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรสุดท้ายแล้วเธอกับเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่หัวใจมันก็กลับทรยศความผูกพันและความดีที่เขาทำให้ทำให้ก้านแก้วเผลอปล่อยความรู้สึกคิดว่าตอนนี้เธอกำลังเป็นภรรยาของเขาจริงๆ
“แล้วคุณจะให้เงินเดือนฉันไปได้ทั้งชีวิตหรอคะ คุณไม่คิดบ้างหรือบางทีเด็กคนนี้อาจจะไม่ใช่ลูกของคุณ ตอนนั้นผลตรวจออกมาฉันจะใช้ชีวิตต่อไปยังไงถ้าไม่ได้ทำงานแล้ว”
ก้านแก้วพูดออกไปทั้งที่เธอก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ การตรวจ DNA ก็เพียงเพื่อต้องการให้อีกฝ่ายสบายใจส่วนตัวเองรู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“ถ้าผลออกมาเป็นแบบนั้นผมจะให้เงินคุณสักก้อนมากกว่าคุณทำงานเป็น 10 ปีแล้วคุณก็ค่อยไปหาอาชีพส่วนตัวทำที่บ้านนอกของคุณก็ได้ เอาเป็นว่าผมไม่ได้มาถามความคิดเห็นแต่คุณมีหน้าที่ต้องทำตาม อย่าลืมในสิ่งที่ผมเคยช่วยคุณไว้และอย่าลืมสัญญาระหว่างเรา”
ศรุตเมื่อพูดในสิ่งที่เขาต้องการเสร็จเขาก็วางถุงข้าวต้มร้านโปรดของก้านแก้วไว้ที่โต๊ะอาหาร ส่วนตัวเขาเดินออกจากห้องและขับรถไปยังบ้านของตัวเองเพราะเขาเองก็กำลังสับสนในสิ่งที่ตัวเองพูด ใจหนึ่งเขาก็รู้สึกผูกพันกับก้านแก้วแต่อีกใจเขาก็มั่นใจว่าผู้หญิงที่เขารักคือฤดีผู้หญิงที่มีทุกอย่างคู่ควรกับเขา
“หรือแก้วตาจะรู้เรื่องแล้วจริงๆ”
ชายหนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเองไปตลอดทางเพราะวันนี้อยู่ดีๆน้องสาวของเขาก็โทรศัพท์มาถามถึงเรื่องราวคืนนั้นเมื่อหลายเดือนก่อนที่เขาอาสาไปส่งก้านแก้วที่ห้อง
“กลับบ้านดึกทุกวันเลยนะคะ”
แก้วตานั่งรอพี่ชายอยู่ที่ห้องรับแขกวันนี้เธอมีเรื่องร้อนใจหลายเรื่องที่อยากจะคุยกับพี่ชาย
“มีอะไรหรือเปล่าถึงได้นั่งรอพี่แบบนี้”
ศรุตพยายามทำสีหน้าให้ปกติทั้งที่ตอนนี้เขาเหมือนวัวสันหลังหวะกำลังรู้สึกระแวงว่าน้องสาวจะรู้ความลับที่เขาปกปิดไว้
“ก็เรื่องก้านแก้วนั่นแหละค่ะน้องเพิ่งมาสังเกตว่าเริ่มติดต่อก้านแก้วไม่ได้ก็หลังจากวันที่ให้พี่ไปส่งเธอที่ห้อง ก็เลยอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก้านแก้วได้พูดอะไรกับพี่ไหมเพราะวันนั้นน้องก็ทำตัวไม่น่ารักกลับก่อนทั้งที่เป็นคนนัดเพื่อนๆให้มาสังสรรค์ วันนี้น้องลองถามเพื่อนๆหลายๆคน ทุกคนก็ติดต่อก้านแก้วได้ทั้งนั้นเพียงแต่ไม่ได้เจอตัวแต่พอเป็นเบอร์น้องกับโทรไม่ติด Facebook ก็บล็อกไป อดสงสัยไม่ได้ว่าก้านแก้วกำลังโกรธอะไรน้องหรือเปล่า”
ศรุตเมื่อได้ยินทุกอย่างก็แอบถอนหายใจด้วย ความโล่งอกเพราะตอนแรกเขาคิดว่าแก้วตาอาจจะไปเจอเขากลับก้านแก้วที่ไหนหรือไม่ก็มีคนไปเจอแล้วมาเล่าให้น้องสาวฟังแต่เมื่อได้ยินว่าเรื่องราวแบบนี้เขาก็คิดว่าไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเขา
“คิดมาก มีเพื่อนพี่หลายคนเลยนะที่อยู่ดีๆก็ลบเพื่อนพี่จาก Facebook โทรไปไม่รับหรือทำท่าไม่อยากจะคุยกับพี่บางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องหาคำตอบในเมื่อเขาไม่อยากคบเราเราก็ไม่ต้องไปคบกับเขา ชีวิตของน้องกับก้านแก้วไม่ได้มีอะไรเหมือนกันเลยบางทีเพื่อนก็อาจจะรู้ตัวว่าไม่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนกับคนรวยอย่างเราก็เลยเลือกที่จะปลีกตัวออกไปดีกว่า”
แก้วตาหันมองสบตาพี่ชายด้วยความสงสัยเพราะตั้งแต่เธอโตมาไม่เคยได้ยินพี่ชายพูดถึงความจนหรือความรวยความแตกต่างทั้งฐานะระหว่างเพื่อนแถมยังเป็นคนที่คอยสอนเธอตลอดว่าทุกคนมีสิทธิ์ในการเป็นคนเท่าเทียมกันอย่าดูถูกใครเพียงเพราะเขาจนกว่าเราแต่ทำไมวันนี้พี่ชายของเธอกลับพูดแบบนี้
“น้องลืมบอกไปเรื่องนึงค่ะ พี่ฤดีโทรมาเห็นว่าติดต่อพี่ศรุตไม่ได้เลย ช่วยโทรกลับไปหาเธอด้วยนะคะ”
ศรุตถอนหายใจอีกครั้งเพราะเขาจะรับสายคนรักได้อย่างไรกันในเมื่อเวลานั้นเขากำลังอยู่กับก้านแก้วและกำลังคุยธุระสำคัญอยู่