เธอทำให้อุ่นใจ
ตอนที่ 6
เธอทำให้อุ่นใจ
“คุณเจ็บแผลตรงไหนหรือเปล่า”
ศรุตประคองสาวน้อยที่เพิ่งคลอดลูกให้ลุกมานั่งหลังพิงหมอนที่เขาจัดเตรียมไว้หลังจากที่เธอเพิ่งฟื้นออกจากห้องผ่าตัด
“ลูกล่ะคะ คุณได้เห็นหน้าลูกหรือยัง”
ก้านแก้วยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าลูกสาวของเธอเพราะคุณหมอตัดสินใจผ่าคลอดแบบวางยาสลบเมื่อฟื้นขึ้นมาเธอจึงถามหาทันที
“นั่นไงลูกสาวเรามาแล้ว”
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ศรุตต้องรีบเดินไปเปิดประตูเพราะได้เวลาที่นางพยาบาลจะพาลูกสาวมาส่งให้กับพ่อและแม่เพื่อให้สาวน้อยได้ดูดนมจากอกของมารดา
“ลูกของเราน่ารักที่สุด ตัวจ้ำม่ำมาก คุณหมอถึงได้ไม่ให้คลอดเอง”
ชายหนุ่มที่ไม่เคยมีโอกาสอุ้มเด็กทารกตัวน้อยแบบนี้มาก่อนค่อยๆพยายามช้อนตัวลูกสาวออกจากเปลรถเข็นของโรงพยาบาลตามแบบที่นางพยาบาลสอนเขาไว้
“ลูกหน้าไม่เหมือนฉันเลย ลูกพ่อชัดๆ”
ก้านแก้วรับลูกสาวจากมือของศรุตน้ำตาของเธอไหลออกมาแบบอัตโนมัติด้วยความรู้สึกที่ดีใจและมีความสุขที่สุด
“ ผมขอเป็นคนตั้งชื่อลูกได้ไหม” คนพูดหันมาทำท่าทางน่าสงสาร
ก้านแก้วได้แต่พยักหน้าเพราะสำหรับเธอแล้วเรื่องชื่อไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยแต่ชีวิตของลูกสาวนับจากนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
“ผมจะตั้งชื่อลูกว่าช่อเอื้องชื่อดูเป็นไทยดี”
คนเห่อลูกสาวโน้มตัวลงไปหอมแก้มสาวน้อยที่ตอนนี้กำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมอกของคนเป็นแม่
ก้านแก้วอยากจะถามเขาถึงเรื่องการตรวจ DNA แต่ก็กลัวจะทำให้เสียบรรยากาศเธอจึงเลือกที่จะยังไม่พูดเรื่องนี้ตอนนี้ก็พยายามขยับตัวให้ถนัดเพื่อที่จะให้สาวน้อยช่อเอื้องดูดนมของเธอได้อย่างเต็มที่
นางพยาบาลบอกไว้แล้วว่าการดูดนมในช่วงนี้เป็นเพียงแค่การช่วยกระตุ้นเพราะน้ำนมยังคงไม่ไหล
พ่อและแม่ช่วยกันเลี้ยงลูกสาวจนตอนนี้สาวน้อยที่ร้องงอแงเงียบหลับไปและอีกไม่นานนางพยาบาลก็ทำหน้าที่มารับไปเลี้ยงก่อนเมื่อถึงเวลาออกจากโรงพยาบาลทางเจ้าหน้าที่ถึงจะมาส่งลูกสาวให้เพื่อให้คุณแม่ได้มีโอกาสได้พักผ่อนเต็มที่
โรงพยาบาลเอกชนสุดหรูราคาแสนแพงถูกเลือกเป็นที่คลอดลูกสำหรับก้านแก้วในวันนี้โดยที่ศรุตเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนหนึ่งก็มาจากเขาต้องการความเป็นส่วนตัวไม่อยากให้ใครเห็นจึงเลือกโรงพยาบาลที่อยู่ออกมานอกชานเมือง
“ก่อนจะกลับไปที่คอนโดเราแวะซื้อของใช้สำหรับลูกที่จำเป็นก่อนนะ”
ศรุตพูดขึ้นขณะที่เขากำลังขับรถจากโรงพยาบาลมุ่งหน้ากลับไปยังคอนโดเพราะคิดว่าข้าวของเครื่องใช้ที่เตรียมไว้น่าจะไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงสาวน้อยตัวจ้ำม่ำ
“เราลงไปซื้อด้วยกัน 3 คนได้หรือคะคุณไม่กลัวใคร
เห็นหรือไง”
ก้านแก้วถามขึ้นมาเพราะตั้งแต่เธออยู่กับเขาที่คอนโด
ก็แทบจะไม่มีโอกาสไปไหนมาไหนด้วยกันแต่นี่วันนี้มี สาวน้อยช่อเอื้องด้วยเธอจึงคิดว่าบางทีเขาอาจจะลืมในข้อนี้ไป
“ใครบอกว่าผมจะลงไปกับคุณ เอาลูกไว้กับผมส่วนคุณก็ลงไปซื้อของใช้ที่จำเป็นเดี๋ยวผมจะโอนเงินเข้าบัญชีให้”
หญิงสาวได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกน้อยใจเอาไว้ในส่วนลึกเพราะเธอก็รู้ตัวดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันเป็นแค่เพียงเรื่องชั่วคราวแค่วันนี้เขายอมรับผิดชอบดูแลเธอกับลูกก็ดีแค่ไหนแล้ว
ก้านแก้วเดินเลือกของใช้สำหรับเด็กอยู่เกือบชั่วโมงและเมื่อเธอได้เข็นรถไปที่แผนกคิดเงินถึงได้รู้ว่าจำนวนเงินที่ศรุตโอนให้ไม่ใช่แค่เพียงไว้สำหรับซื้อของเพราะมันเป็นจำนวนถึง 100,000 บาท
“ขอโทษนะคะที่ไปนานเกิดมาก็เพิ่งเคยมีลูกก็เลยไม่รู้ว่าจะมีอะไรจำเป็นมั่งจึงพยายามเดินให้ทั่ว ๆ ก่อน”
หญิงสาวกลับมาพร้อมกับของเต็มรถเข็นเมื่อมองเห็นสาวน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นพ่อ ก้านแก้วถึงรู้ว่าเธอคงจะไปนานจนสาวน้อยหลับ
“นานๆจะออกมาทีก็ดูให้ละเอียดแบบนี้แหละดีแล้วผมเองก็คงไม่ค่อยมีเวลาที่จะพาคุณออกมาบ่อยๆต่อไปคุณต้องเลี้ยงลูกคนเดียวก็คงจะเหนื่อยแย่ถ้าขาดเหลืออะไรก็ให้บอกผมไปจะได้แวะซื้อเข้าไปให้”
ก้านแก้วหันมองสบตาคนพูดก่อนหน้านี้เธอไม่เคยต้องการคำว่าครอบครัว เธอขอแค่เพียงให้เขายอมทำตามในแผนการที่เธอวางไว้ก็คงเพียงพอแล้วแต่ทำไมตอนนี้เพียงแค่เธอได้เห็นหน้าลูกเธอกลับอยากให้เขามีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์มีทั้งพ่อและแม่ทั้งที่ตัวเธอเองก็รู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้
“ขอบคุณนะคะที่โอนเงินให้มากมายแบบนั้น ขอบคุณที่ออกค่าคลอดลูกให้ ขอบคุณที่ดูแลเป็นอย่างดี”
“มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” คนขับตอบแบบไม่ใส่ใจ
“แล้วคุณจะพาช่อเอื้องไปตรวจ DNA เมื่อไหร่คะ”
หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆใจหนึ่งก็อยากจะรู้ว่าเมื่อไหร่ เรื่องราวจะจบสิ้นสักทีแต่อีกใจก็กลัวจะทำให้บรรยากาศเสีย
“ว่างเมื่อไหร่เดี๋ยวผมเป็นคนตัดสินใจเองเรื่องนี้”
นับตั้งแต่วันนั้นมาก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องการตรวจดีเอ็นเออีกเลยจากที่ศรุตจะมาที่คอนโดแห่งนี้ในช่วงกลางวันตั้งแต่ช่อเอื้องกลับมาอยู่ที่นี่เขาก็มานอนในทุกคืนทำหน้าที่คอยช่วยคุณแม่ดูแลในยามกลางคืนที่สาวน้อยชอบร้องไห้งอแงขึ้นมากลางดึก
“คุณไปนอนเถอะค่ะทำงานเหนื่อยมาทั้งวันยังจะต้องมาเหนื่อยช่วยเลี้ยงลูกอีก”
ก้านแก้วรู้สึกเกรงใจที่ศรุตตื่นทุกครั้งที่ลูกสาวร้องอ้อนทั้งที่เขาเองก็ไม่ได้พักผ่อนแต่พูดเท่าไรชายหนุ่มก็ไม่ยอมฟังก็คงเพราะความเป็นห่วงจนทำให้เขาอยากตื่นขึ้นมาดูแล ลูกสาว
การดูแลเอาใจใส่ของศรุตที่มีต่อก้านแก้วและช่อเอื้องทำให้หญิงสาวรู้สึกผูกพันโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่พยายามบอกกับตัวเองมาตลอดว่าสิ่งที่เขาทำคงเพียงแค่ความรับผิดชอบไม่ได้เกิดจากหัวใจที่รู้สึกอยากเป็นครอบครัวกับเธอจริงๆเพราะถึงแม้เขาจะแสดงความเป็นห่วงแต่เธอก็ไม่เคยสัมผัสได้ถึงความรักอยู่ในแววตาคู่นั้น