ละคร
ตอนที่ 4
ละคร
“พ่อกับแม่คะนี่คุณศรุตเป็นแฟนของลูก วันนี้เราสองคนตั้งใจจะมาทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือเราอยากจะอยู่ด้วยกันร่วมสร้างครอบครัวกันแล้วค่ะ”
สุเทพและยุพินต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจเพราะทั้งคู่ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าลูกสาวมีคนรักวันนี้อยู่ดีๆก้านแก้วก็มาบอกว่าต้องการจะผูกข้อไม้ข้อมือกับผู้ชายที่เธอพามาแนะนำ
“มันจะเร็วไปไหมลูก” ยุพินถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“ผมอยากจะสร้างเนื้อสร้างตัวไวๆอยู่กรุงเทพฯ
แยกกันอยู่ก็เสียค่าห้องพักแยกกันแต่ถ้าเราย้ายมาอยู่ด้วยกันค่าห้องก็ประหยัดค่ากินก็ได้กินด้วยกัน ผมเลยอยากมาทำให้ถูกต้องไม่อยากจะอยู่กับก้านแก้วแบบที่ผู้ใหญ่ไม่รับรู้ ตัวผมเองก็เป็นเพียงแค่ลูกกำพร้าวันนี้จึงมาขอลูกสาวของ คุณพ่อคุณแม่ด้วยตัวเองไม่ได้มีผู้ใหญ่มาด้วย”
ก้านแก้วหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ เธอกับเขาแทบจะไม่ได้เตรียมบทนี้มาแต่ชายหนุ่มกลับพูดได้คล่องปากเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องจริง
“ก็จริงอย่างที่พูดสังคมเมืองหลวงแยกกันอยู่แยกกันใช้ก็มีแต่จะสิ้นเปลือง พ่อกับแม่ก็ขอบคุณนะที่ไม่ได้ไปอยู่กินกันก่อนอย่างน้อยวันนี้ก็มาให้ผู้ใหญ่รับรู้ส่วนเรื่องการผูกข้อไม้ข้อมือพรุ่งนี้พ่อกับแม่และญาติๆจะช่วยกันจัดการทุกอย่างให้เอาเป็นว่าจัดการเล็กๆเฉพาะในหมู่ญาติเท่านั้นก็พอ”
เช้าวันใหม่วันเริ่มต้นสำหรับแผนการทั้งหมดที่ทั้งคู่ได้ตกลงกันไว้ทุกอย่างเป็นไปตามอย่างที่ก้านแก้ววางแผนมีเพียงอย่างเดียวที่ทำให้หญิงสาวถึงกับตกใจก็คือเงินสินสอดผูกข้อไม้ข้อมือที่ศรุตได้เตรียมมา
“เยอะไปไหมเก็บเอาไปสร้างตัวกันที่กรุงเทพฯเถอะไว้ให้มั่นคงก่อนแล้วจะมาให้พ่อกับแม่ทีหลังก็ได้”
สุเทพเมื่อเห็นเงินจำนวนเกือบแสนที่วางอยู่ตรงหน้าเขาก็ถึงกับมองสบตาชายหนุ่มที่กำลังจะเป็นลูกเขยในเมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัวว่าเป็นเพียงแค่พนักงานบริษัทจน ๆ แล้วทำไมถึงมีเงินจำนวนมากแบบนี้
“คุณพ่อคุณแม่รับไว้เถอะครับ เงินก้อนนี้เป็นเงินเก็บของผมที่ได้จากเมื่อครั้งที่ขายที่ดินผืนสุดท้ายของพ่อและแม่ที่ต่างจังหวัดก่อนที่ท่านจะจากไป อนาคตผมยังไม่รู้ว่าจะมีเงินพอจะมาจุนเจือพ่อแม่ของก้านแก้วไหมอย่างน้อยวันนี้ผมเองก็จะได้สบายใจว่าได้ทดแทนบุญคุณที่ท่านทั้งสองเลี้ยง ลูกสาวที่สุดแสนจะน่ารักให้มาเป็นภรรยาของผมในวันนี้”
ก้านแก้วพูดอะไรไม่ออกสิ่งที่ศรุตกำลังทำมันไม่ได้อยู่ในแผนการที่เธอวางไว้ความจริงหญิงสาวได้เตรียมเงินมาจำนวนแค่ 20,000 บาทเพื่อใช้ในการผูกข้อไม้ข้อมือแต่สุดท้ายทุกอย่างกับเป็นไปตามที่ศรุตเป็นคนวางแผน
“ทำไมคุณต้องให้เงินพ่อแม่ฉันมากขนาดนั้นในเมื่อฉันก็บอกแล้วไงว่าเตรียมเงินมาแล้ว”
ก้านแก้วหันไปถามคนขับด้วยท่าทางไม่ไว้วางใจเพราะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรถึงได้ทำแบบนี้
“ผมทำบุญมามากกว่านี้อีก การที่ผมให้เงินพ่อกับแม่คุณอย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้สึกสบายใจถึงเราสองคนจะไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆแต่ครั้งหนึ่งผมก็เคยนอนกับคุณ ก็ถือซะว่าผมได้ชดใช้ให้พ่อกับแม่ของคุณแล้วไม่อยากมีอะไรติดค้างกันไปจนถึงชาติหน้า”
หญิงสาวยังคงมองสบตาคนขับ เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมการกระทำของเขากับคำพูดมาถึงได้สวนทางกันแบบนี้แล้วอะไรคือความรู้สึกที่แท้จริงกันแน่
“ถ้าเป็นแบบนั้นฉันเองก็จะได้สบายใจว่าชาติหน้าจะไม่ได้เจอคุณอีกเพราะฉันเองก็แอบสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมสุดท้ายฉันถึงได้กลายเป็นผู้หญิงใจง่ายยอมนอนกับคุณทั้งที่ก็รักษาตัวเองมาตลอดจนเรียนจบหรือบางทีมันอาจจะเป็นเวรกรรมในชาติปางก่อนที่ทำให้เราต้องมาเจอกันมันจะได้ชดใช้กรรมในชาตินี้ให้หมด”
ก้านแก้วคิดว่าคำพูดของเธอจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่พอใจแต่กลายเป็นว่าหันมาส่งยิ้มเหมือนเขากำลังเอ็นดูเด็กน้อยคนหนึ่งที่กำลังพูดอะไรดูขบขัน
“ ตอนนี้คุณท้องได้กี่สัปดาห์แล้ว”
ศรุตเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังตั้งแต่เขากับเธอกลับมาคุยกันก็แทบจะไม่ได้คุยเรื่องของเด็กในท้องเลย สิ่งเดียวที่ก้านแก้วเป็นกังวลคือเรื่องที่เขาจะมาพบพ่อกับแม่ของเธอ
“น่าจะ 8 สัปดาห์ได้แล้วค่ะ”
คนตอบถอนหายใจเมื่อรู้สึกว่าปัญหาหนึ่งถูกแก้ไปแล้วแต่ยังคงมีอีกหนึ่งปัญหาที่เธอจะต้องอยู่กับมันและยอมรับความเป็นจริง
“พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปฝากท้อง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะฉันตั้งใจว่าจะฝากคลินิกใกล้ๆที่พัก
เวลาไปหาหมอจะได้ง่ายๆสะดวก”
ก้านแก้วพูดพร้อมกับมองทอดสายตาไปยังเส้นทางที่เธอกำลังกลับจากบ้านมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงที่แสนจะวุ่นวาย
“วันนี้ผมยอมทำตามแผนทุกอย่างที่คุณขอร้องให้ช่วยเหลือดังนั้นต่อจากนี้ไปคุณจะต้องทำตามคำสั่งผมจนกว่าจะถึงวันที่เด็กคลอดออกมาแล้วผล DNAเป็นอย่างไรแล้วค่อยมาว่ากัน”
หญิงสาวหันไปมองหน้าคนพูดเธอเตรียมจะเถียงเขาแต่คิดขึ้นมาได้ว่าจริงอย่างที่ชายหนุ่มพูดในเมื่อเขายอมทำเพื่อเธอ งเธอเองก็เป็นหนี้บุญคุณของเขาก็คงต้องยอมทำในสิ่งที่เขาต้องการบ้าง
“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่คุณค่ะ”
“ดีมากพูดอะไรเข้าใจกันง่ายๆผมจะได้เชื่อว่าคุณจะทำตามข้อตกลงที่เราบอกกันไว้ว่าเรื่องของเราจะเป็นความลับโดยเฉพาะเรื่องที่ผมมาหาพ่อกับแม่ของคุณจะมีแค่เราสองคนแล้วก็ที่บ้านของคุณเท่านั้นที่จะรู้”
ก้านแก้วถอนหายใจให้กับคำพูดของคนขับ เธอรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่เขาทำเพราะสงสารต้องการช่วยเหลือเธอ เขาจะตอกย้ำอะไรนักหนาทำเหมือนว่าเขากลัวว่าเธอจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขากำลังเป็นห่วงทั้งตัวเธอและลูก ทั้งที่เธอไม่มีทางคิดแบบนั้นเด็ดขาดเพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้