คำขอร้อง(2)
ชายหนุ่มพูดเพราะเริ่มรู้สึกเหมือนว่าอีกฝ่ายแค่ต้องการใช้เขาเป็นเครื่องมือในการที่เธอจะทำให้พ่อแม่สบายใจแต่หญิงสาวไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา เธอถึงได้คิดว่าเมื่อแผนการทุกอย่างเสร็จสิ้นเธอกับเขาก็ต่างคนต่างไป
“คุณจะเขียนสัญญาอะไรก็ได้จะบันทึกเสียงฉันหรือจะให้ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ขอเพียงแค่คุณช่วยให้ฉันไม่ต้องทำให้พ่อแม่เสียใจ ฉันรับปากกับคุณว่าฉันกับลูกจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคุณเลยส่วนเรื่องตรวจ DNA เมื่อลูกคลอดก็อยู่ที่ความต้องการของคุณ สำหรับฉันลูกคนเดียวฉันคิดว่าเลี้ยงเขาได้ถึงแม้อาจจะไม่ได้สุขสบายก็ตามแต่ในเมื่อคุณไม่ได้รักฉันก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ความสัมพันธ์ในคืนนั้นฉันเองก็เป็นฝ่ายเต็มใจไม่ได้ปฏิเสธในเมื่อใจง่ายฉันเองก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง”
ก้านแก้วไม่ใช่แค่แกล้งพูดแต่เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆหญิงสาวไม่เคยโทษว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของศรุตเพราะเธอรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเธอเองก็สมยอม เขาเองเป็นผู้ชายไม่ได้เสียหายอะไรก็ไม่แปลกที่เขาจะไม่ปฏิเสธในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้น
“ไม่ ผมไม่ทำอะไรที่ไร้สาระแบบนั้นหรอก เอาเป็นว่ารอให้เด็กคลอดออกมาแล้วตรวจ DNA ให้ถูกต้อง ถ้าเขาเป็นลูกของผม ผมจะรับผิดชอบเขาทุกอย่างส่วนตัวคุณก็ถือว่าครั้งหนึ่งเราเคยมีความสัมพันธ์กันความเป็นพ่อเป็นแม่มันยังคงอยู่ตลอดแต่เราแค่ไม่ได้เป็นอะไรกันก็เท่านั้น”
ศรุตพูดจบเขาก็ทำท่าจะลุกเดินหนีออกจากตรงนั้นไปแต่กลับต้องเปลี่ยนใจหันหลังกลับมาหาก้านแก้วเหมือนเดิมเมื่อหญิงสาวลงไปคุกเข่ากับพื้นยกมือไหว้
“ถ้าฉันจะต้องทำให้พ่อแม่เสียใจเพราะท้องโดยที่ไม่ได้แต่งงานท้องโดยที่ไม่มีพ่อของเด็ก ฉันก็คงไม่ขอมีชีวิตอยู่ ถ้าคุณคิดว่าสิ่งที่ฉันร้องขอมันเป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระ ฉันกับลูกก็จะลาคุณตรงนี้ คุณไม่ได้เป็นผู้หญิงไม่ได้เป็นความหวังเดียวของบ้านคุณไม่มีทางเข้าใจ ครอบครัวของฉันดิ้นรนทุกอย่างเพื่อให้ลูกสาวคนเดียวมีชีวิตที่ดีที่สุดแต่เมื่อฉันเรียนจบยังไม่ทันที่จะกลับไปดูแลพ่อและแม่ได้ก็กลายมาเป็นผู้หญิงใจง่ายที่ท้องไม่มีพ่อแบบนี้”
ท่านประธานที่คิดว่าการตัดสินใจของตัวเองถูกต้องเลือกที่จะหันหลังและทิ้งทุกอย่างไว้ด้านหลัง เขามองว่าทางออกที่ก้านแก้วกำลังต้องการมันไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดและเขาก็เชื่อว่าเธอจะไม่มีทางคิดสั้นอย่างที่พูดไว้ ถึงแม้ว่าหัวใจลึกๆจะเริ่มรู้สึกกลัวว่าเขาจะเป็นต้นเหตุของเรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดที่กำลังจะเกิดขึ้น