คำขอร้อง
ตอนที่ 2
คำขอร้อง
“คุณศรุตคะเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
ก้านแก้วตัดสินใจไปนั่งดักรอพี่ชายของเพื่อนที่บริษัทเธอไม่กล้าพอที่จะเข้าไปขอพบเขาตรงๆ
“ได้สิ” คนตอบสองมือล้วงกระเป๋าใบหน้าอมยิ้มเหมือนคนกำลังคิดถึงเรื่องอะไร
“ตั้งแต่คืนนั้นเราสองคนก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย”
ศรุตเริ่มหาเรื่องคุยเพราะตัวเขาเองก็พยายามหาทางติดต่อก้านแก้วแต่ก็ติดต่อไม่ได้จะขอเบอร์จากน้องสาวก็กลัวว่าแก้วตาจะสงสัย
“ฉันท้องค่ะ”
สาวน้อยพนักงานบริษัทไม่ยอมเสียเวลาพูดเกริ่นอะไรไปมากกว่านี้เพราะยิ่งเธอได้เห็นเขาที่มาในภาพของ ท่านประธานบริษัทมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าเธอกับเขาช่างไม่มีอะไรที่เหมาะสมกัน
“ตลกไปไหม...นอนด้วยกันแค่คืนเดียวแล้วอยู่ดีๆวันนี้คุณก็มาบอกว่าท้องกับผมทั้งที่ตั้งแต่คืนนั้นคุณก็หายไปจากชีวิตของผมเลย”
ศรุตพูดแบบนี้เพราะหลังจากวันนั้นเขาก็ได้ไปกินข้าวกับเพื่อนของน้องสาวอยู่อีกหลายรอบแต่ก็ไม่พบว่าก้านแก้วจะมาด้วยจนชายหนุ่มคิดว่าเธอคงตั้งใจจะหลบหน้าเขา
“ฉันคิดอยู่แล้วว่าคุณจะต้องปฏิเสธเพราะคืนนั้น ฉันเองก็คงใจง่ายที่นอนกับคุณทั้งที่เราเพิ่งจะรู้จักกัน”
“ถ้าคิดแบบนั้นแล้วจะมาบอกผมทำไม”
ชายหนูมั่นใจว่าเขายังไม่ได้พูดว่าจะไม่รับผิดชอบเธอกับลูก คำพูดของหญิงสาวจึงทำให้เขาเริ่มรู้สึกไม่พอใจ
“ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วย”
ก้านแก้วพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนดวงตาของเธอกำลังร้องขอความเห็นใจจากผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
“ผมบอกก่อนเลยนะถ้าคุณอยากจะให้ผมเชื่อว่าเด็กในท้องเป็นลูกของผมคุ ณต้องเอาผลตรวจดีเอ็นเอเท่านั้นมายืนยัน”
ศรุตไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเขาพูดออกไปแบบนั้นทำไมในเมื่อส่วนลึกหัวใจของเขาก็มั่นใจว่าเด็กในท้องของเธอคือลูกของเขาเพราะเขาคือคนแรกสำหรับเธอ
“ฉันพร้อมจะตรวจ DNA และคุณไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบดูแลหรือเลี้ยงดูฉันกับลูกเลยแต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันอยากจะขอให้คุณทำก่อนที่ลูกจะคลอดออกมาคือไปที่บ้านฉันไปพบพ่อกับแม่แล้วบอกว่าคุณคือสามีของฉันทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือเล็กๆเพื่อให้ท่านรู้ว่าลูกของท่านไม่ได้ท้องไม่มีพ่อและหลังจากนั้นฉันก็จะบอกกับทั้งสองว่าเราสองคนเลิกกันทั้งคู่จะไม่มีวันรู้ว่าคุณเป็นใครมาจากไหนและเรื่องระหว่างคุณกับฉันก็จะเป็นเพียงแค่ความลับที่เรารู้กันสองคน”
ก้านแก้วพูดถึงแผนการทั้งหมดที่เธอได้วางไว้โดยที่ไม่เว้นจังหวะให้อีกฝ่ายที่ออกความคิดเห็นเพราะสำหรับเธอเวลาที่ผ่านเลยไปแต่ละวันมันรอไม่ได้อีกแล้ว ถ้าท้องของเธอใหญ่กว่านี้บางทีพ่อกับแม่ก็อาจจะรู้สึกได้ว่าเธอกับเขาอยู่กินกันมานาน เธออยากให้ผู้ใหญ่คิดว่าทั้งสองคนตกลงที่จะผูกข้อไม้ข้อมือกันก่อนที่จะมีความสัมพันธ์แบบสามีภรรยากัน
“พูดเหมือนในละคร ทำเหมือนง่ายไปหมด ผมจะเชื่อคุณได้ยังไงว่าผมทำแบบที่คุณบอกแล้วคุณจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยววุ่นวายกับชีวิตของผม”
ชายหนุ่มพูดเพราะเริ่มรู้สึกเหมือนว่าอีกฝ่ายแค่ต้องการใช้เขาเป็นเครื่องมือในการที่เธอจะทำให้พ่อแม่สบายใจแต่หญิงสาวไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา เธอถึงได้คิดว่าเมื่อแผนการทุกอย่างเสร็จสิ้นเธอกับเขาก็ต่างคนต่างไป
“คุณจะเขียนสัญญาอะไรก็ได้จะบันทึกเสียงฉันหรือจะให้ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ขอเพียงแค่คุณช่วยให้ฉันไม่ต้องทำให้พ่อแม่เสียใจ ฉันรับปากกับคุณว่าฉันกับลูกจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคุณเลยส่วนเรื่องตรวจ DNA เมื่อลูกคลอดก็อยู่ที่ความต้องการของคุณ สำหรับฉันลูกคนเดียวฉันคิดว่าเลี้ยงเขาได้ถึงแม้อาจจะไม่ได้สุขสบายก็ตามแต่ในเมื่อคุณไม่ได้รักฉันก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ความสัมพันธ์ในคืนนั้นฉันเองก็เป็นฝ่ายเต็มใจไม่ได้ปฏิเสธในเมื่อใจง่ายฉันเองก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง”