ความลับที่ต้องการปกปิด(2)
ผกาพยักหน้าให้แม่บ้านสาวเดินเข้าไปตักข้าวและมี การเสิร์ฟอาหารบางอย่างเข้ามาเพิ่มให้เหล่าคุณ ๆ ที่นั่งประจำที่กัน
ไอลดาเริ่มรับรู้ได้ถึงกลิ่นแปลกอะไรบางอย่างที่เข้ามากระตุ้นจมูกของเธอ แต่ก็ไม่รู้ว่ากลิ่นนี้มันคืออะไรกันแน่
“หนูดานี่มัสมั่นเนื้อของโปรดหนูไง”
พอแกงเมนูโปรดที่เพิ่งเสิร์ฟเข้ามาเสริม ถูกตักมาให้อย่างเอาใจก็ทำให้ไอลดาถึงกับย่นจมูกแทบจะกลั้นหายใจเอาไว้ทันที
“เนื้อ...”
คิ้วของอังกูรกระตุกทันที ตอนแรกเขาก็คิดอยู่แล้วว่าทำไมเมนูอาหารบนโต๊ะถึงมีกลิ่นแปลก ๆ ที่ไหนได้สิ่งที่เขาเกลียดและไม่ชอบที่สุดมันถูกเสิร์ฟขึ้นโต๊ะมาด้วยนั่นเอง
“หมายความว่ายังไงกันครับคุณแม่” เสียงดังของอังกูรถามขึ้นมา
“อังฟังแม่ก่อน อย่าเพิ่งโมโห”
“แต่แม่ก็รู้นิครับว่าผมไม่ชอบกินเนื้อ ไหนจะกลิ่นชวนอ้วกนี้อีก” อังกูรไม่ทนอีกต่อไปแล้ว เขาลุกขึ้นยืนตั้งท่าจะเดินออกไป แต่ทว่า...
ครืดดด !! เสียงเก้าอี้ถูกเลื่อนออกแล้วร่างของไอลดาก็รีบวิ่งออกไปทางห้องน้ำ เรียกความสนใจของทุกคนทั้งหมด แม้แต่อังกูรเอง
“แหวะ~~ อ้วกกกกกกกก~” เสียงโอ้กอ้ากดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนคุณนายพิจิกตราที่ตามเข้ามาดูถึงกับตกใจหน้าซีดทันที
“หนูดา หนูดาเป็นอะไรไปลูก” คุณนายพิจิกตรา
รีบลูบหลังช่วย
“หนะ หนู...ไม่...ไม่เป็นไรค่ะ อ้วกกก~~”
“ไม่เป็นไรได้ไงกัน อ้วกออกมาเยอะขนาดนี้ ไม่ได้การ ผกาให้ไทม์ไปเอารถออก ฉันจะพาหนูดาไปหาหมอ”
ไอลดาหน้าซีดลงกว่าเก่าก่อนจะจับแขนของ คุณนายพิจิกตราแล้วรีบบอกปฏิเสธเธอ ไม่อย่างนั้นละก็ความลับที่เธอปิดบังไว้ต้องถูกเปิดเผยแน่
“ไม่นะคะ หนูไม่ไปโรงพยาบาล”
“หนูดาอาการแย่ขนาดนี้ ไม่ไปหาหมอได้ไงกัน”
“ขอร้องละคะ นะคะคุณแม่...ไม่ไป อย่าพาดาไปเลยนะคะ”
“เฮ้อ โอเค ไม่ไปก็ไม่ไป ถ้าอย่างนั้นหนูค่อย ๆ ลุกนะไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะได้รู้สึกสดชื่นขึ้น”
คุณนายพิจิกตรากดชักโครกให้สิ่งปฏิกูลถูกชำระ
ลงไปแล้วช่วยกันกับผกาในการพยุงตัวพาไอลดามาที่อ่างเพื่อให้ไอลดาล้างหน้า บ้วนปาก
“หึ ! สำออยชะมัด”
ทันทีที่ทั้งสามคนกลับมาที่โต๊ะอาหาร อังกูรก็ได้พ่นคำพูดแสนร้ายกาจใส่ไอลดา
“เจ้าอังไม่เห็นหรือไงว่าน้องไม่สบายอยู่ ทำไมถึงพูดจาร้ายกาจแบบนี้ด้วย”
“แม่ก็เอาแต่เข้าข้างยัยลูกนอกไส้ตลอด มื้อนี้
ผมขอไม่ร่วมโต๊ะนะครับขอตัวก่อน”
“อังกูรหยุดเดี๋ยวนี้แล้วนั่งลงกินข้าวกับแม่ซะดี ๆ ”
“แม่คิดว่าผมจะกินลงเหรอครับ มีทั้งเมนูที่เกลียดและคนที่ผมไม่ชอบ” ไอลดารู้สึกได้ถึงก้อนสะอื้นที่ตีรวนขึ้นมากระจุกที่คอ
“แม่บอกว่าให้นั่งลง” คุณนายพิจิกตรากดดันจนอังกูรต้องจำยอมนั่งลงอีกครั้ง
“ผกาให้แม่บ้านเอามัสมั่นเนื้อ เมนูหมู ไก่ทั้งหมดออกจากโต๊ะและช่วยเปลี่ยนจานข้าวให้หนูดาทีนะ”
คุณนายพิจิกตราสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจังให้ตั้งโต๊ะใหม่ทันทีที่อังกูรนั่งลง
“ได้ค่ะคุณผู้หญิง”
“จานนั้นไม่ต้องยกไป”
คุณนายพิจิกตราสั่งแม่บ้านสาวที่กำลังยกแกงบางอย่างไปเก็บ นั่นก็คือแกงพะแนงหมูสามชั้นของโปรดของอังกูร
ใจจริงคุณนายพิจิกตราก็ใส่ใจลูกชายตัวเองแต่เพราะลูกของเธอเป็นผู้ชายแถมเขาเองยังมีคนในครอบครัวอย่างเธอที่อยู่เคียงข้าง ส่วนไอลดาไม่มีใคร อีกอย่างมันมีบางสิ่งที่เธออยากจะทดแทนให้สาวน้อยคนนี้ด้วยซ้ำ
สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทุกคนบนโต๊ะเริ่มลงมือกินอาหารกันอีกครั้ง กับข้าวบนโต๊ะล้วนมีรสชาติที่ดีเทียบกับร้านระดับภัตตาคาร แต่ไอลดาที่ยังมีอาการแพ้ท้องอยู่เลยไม่ค่อยอภิรมย์สักเท่าไร
“อุก ! ” เสียงอึกอักในลำคอดังขึ้นเบา ๆ เป็นระยะ ใจจริงเธออยากจะอ้วกอีกสักรอบ แต่ไม่อยากถูกมองว่าเสียมารยาทจึงฝืนกลืนก้อนที่จะขย้อนลงคอไป
“ไหวไหมหนูดา แม่ว่าเราไปหาหมอดีไหม”
“หนูไม่เป็นไร...ช่วงนี้งานเยอะอาจจะเครียดลงกระเพาะก็ได้ค่ะ”
“ตายจริง งั้นก็ต้องพักแล้วนะหนูดา จริง ๆ งานนี้ก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเราด้วย น่าโมโหนะถ้าพนักงาน คนนั้นไม่คิดลาออกกลางคัน งานที่เธอรับผิดชอบก็คงไม่ต้องมาตกที่คนอื่นแบบนี้”