บท
ตั้งค่า

ความสูญเสีย(2)

“มาหาแม่หน่อยได้ไหม นัย”

ปีนี้อายุเกือบ 60 แล้วใกล้เข้าสู่วัยชราเต็มที นวลนางจึงเข้าใจดีเรื่องการจากลา สามีเธออายุมากทำงานหนักมาทั้งชีวิต หากถึงเวลาที่เขาจะได้พักผ่อน เธอก็ยินดีที่จะปล่อยสามีไป แม้ว่าจะเป็นการจากลาชั่วนิรันดร์แต่ถึงอย่างนั้นก็ดีกว่ายื้อให้สามีสุดที่รักต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมาน

“พ่อกำลังจะไปจากเราใช่ไหม”

เธอพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำได้แสนจะยากเย็นนัก คู่ชีวิตที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานานกว่า 40 ปีกำลังจะจากไป จะให้เธอห้ามความโศกเศร้าของตัวเองก็คงทำไม่ได้

นวลนางปาดน้ำตาก่อนจะเอ่ยถามลูกชายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“แม่ควรไปเยี่ยมพ่อเป็นครั้งสุดท้ายใช่ไหม”

ชายหนุ่มยืนนิ่งหลุบตามองปลายเท้า แม่น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็จำเป็นต้องถ่ายทอดคำพูดของหมอให้ผู้เป็นแม่ฟัง

นวลนางฟังด้วยท่าทางสงบนิ่ง หัวใจของเธอรู้สึกร้าวรานแต่ถึงอย่างนั้นก็พยายามเข้าใจกฎของธรรมชาติ 40 ปีที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่มีวันไหนที่เธอไม่มีความสุขเมื่อได้อยู่เคียงข้างอิศรา แม้ว่าวันนี้ต้องจากกันแต่ความทรงจำดีๆนั้นจะยังคงอยู่ตลอดไป

“หมอต้องการถอดเครื่องช่วยหายใจเพราะร่างกายพ่อไม่ตอบสนองการรักษาแล้ว ผมยังไม่ได้เซ็นอยากให้แม่เป็นคนตัดสินใจมากกว่า”

ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง เขาแทบจะยืนไม่อยู่ด้วยซ้ำแต่ก็ต้องเข้มแข็งต่อหน้าผู้เป็นแม่ นวลนางแตะไหล่ลูกชาย เธอรับรู้ถึงความเสียใจของมารดาเป็นอย่างดี อิสราเป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดีเยี่ยม เขาไม่เคยสร้างความเดือดร้อนหรือสร้างความลำบากใจให้ครอบครัว ความดีของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกโศกเศร้าเสียใจต่อการสูญเสีย

“แม่รู้ว่ามันยากที่จะทำใจ แม่เองก็เสียใจและเจ็บปวดที่ต้องปล่อยพ่อไป แต่หากเรายื้อไว้คนที่จะทรมานก็คือพ่อ และแม่ไม่ต้องการแบบนั้น แม่ต้องการให้พ่อพักผ่อนหลุดพ้นจากความเจ็บปวด”

คำตอบของนวลนางคือต้องการปลดปล่อยสามี หลายเดือนที่ผ่านมาอิศรานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เขาไม่เคยลืมตาตื่นขึ้นมาอีกเลยแต่ร่างกายก็ยังคงตอบรับการรักษามาเรื่อยๆจนกระทั่งวันนี้

“กลับไปที่โรงพยาบาลจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นนะลูก พ่อเขาจะได้นอนหลับพักผ่อนเสียที”

อัครนัยพยักหน้าเข้าใจ หันหลังเดินออกไปด้วยท่าทางเซื่องซึม คล้อยหลังลูกชาย นวลนางก็ทรุดลงที่พื้นร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ความเข้มแข็งมลายสิ้น

ดวงตาพร่ามัวเต็มไปด้วยหยาดน้ำบดบังมองตรงไปยังรูปแต่งงานที่ยังคงติดอยู่บนผนัง หัวใจของเธอคล้ายมีอะไรบางอย่างบีบรัดจนเหมือนจะขาดใจ ความรู้สึกในตอนนี้ทั้งเศร้าและหดหู่อย่างบอกไม่ถูก

นวลนางรู้ว่าเธอต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะทำใจเรื่องนี้ได้ แต่เธอก็พยายามเข้มแข็งเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกทั้งสองอย่างอัครนัยและอิสริยา…

การจากไปของอิสราสร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวและทุกคนที่เกี่ยวข้อง อัครนัยแม้จะเสียใจจนแทบจะยืนไม่อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องจัดการเตรียมงานศพเป็นที่พึ่ง แทนผู้เป็นแม่ที่ล้มป่วยกระทันหัน

“พี่นัย จะไปวัดแล้วหรือคะ”

อิสริยาเดินลงมาจากด้านบน เธอสวมเสื้อแขนยาวสีดำและกระโปรงยาวครึ่งเเข้งสีเดียวกัน ใบหน้าสวยหมองเศร้าไร้ความสดใส ท่าทางดูอ่อนล้าอ่อนเพลีย ดวงตาบวมปูดคล้ายกับผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

“ยังหรอก พี่ต้องแวะไปเอารูปที่ร้านก่อน”

หญิงสาวถอนหายใจ นั่งลงบนขั้นบันได เธอเป็นลูกสาวที่สนิทกับพ่อมากจึงทำใจได้ยากต่อการจากไปของผู้ให้กำเนิด แม้จะรู้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง

“อิงอยากไปด้วยแต่ต้องดูแลแม่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel