บท
ตั้งค่า

ความสูญเสีย(3)

“ยังหรอก พี่ต้องแวะไปเอารูปที่ร้านก่อน”

หญิงสาวถอนหายใจ นั่งลงบนขั้นบันได เธอเป็นลูกสาวที่สนิทกับพ่อมากจึงทำใจได้ยากต่อการจากไปของผู้ให้กำเนิด แม้จะรู้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง

“อิงอยากไปด้วยแต่ต้องดูแลแม่”

ตอนนี้เหลือแค่แม่แล้ว ทั้งอีกฝ่ายยังล้มป่วย อิสริยาจึงไม่กล้าที่จะปลีกตัวไปงานศพพ่อ ได้แต่ฝากพี่ชายช่วยดูแลความเรียบร้อยและร่วมส่งใจไป

“ดูแลแม่ให้ดี อย่าปล่อยให้แม่อยู่คนเดียว ช่วงนี้แม่คงรู้สึกเศร้าและแย่มาก พยายามอยู่ใกล้ๆแม่เอาไว้”

ชายหนุ่มฝากฝังด้วยความเป็นห่วงก่อนที่เขาจะวางมือลงบนศีรษะน้องสาว อิสริยาน้ำตาไหลรีบปาดความอ่อนแอทิ้ง เธอพยักหน้าให้พี่ชายเล็กน้อยหันหลังเดินกลับขึ้นไปชั้นบน…

ความพลุกพล่านภายในสนามบิน ทำให้หญิงสาวนั้นต้องเบียดเสียผู้คนเพื่อเดินออกมา ด้านนอก มาริสาชะเง้อมองไปยังด้านหน้า มองหาพี่ชายที่บอกว่าจะมารอรับ เธอหรี่ตาเล็กน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาคุ้นเคยยืนอยู่ไม่ไกล

ใบหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่สิ่งที่แปลกไปคือทรงผมของพี่ชายที่ยาวถึงติ่งหู

มาริสาหลุดหัวเราะเมื่อเธอนั้นยืนอยู่ตรงหน้าชายร่างสูง

“มาถึงก็หัวเราะทรงผมฉันเลยนะ”

เมธาวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ โดยปกติแล้วเขาเป็นผู้ชายเซอร์ๆไว้ผมยาวมาโดยตลอด แต่เมื่อ วันก่อนลูกสาวตัวดีดันเอาหมากฝรั่งมาแปะที่ผม เขาจึงต้องจำใจตัดทิ้ง แต่ด้วยความเสียดายและกลัวว่าผมนั้นจะยาวช้าจึงไม่ได้ตัดออกทั้งหมด ยังคงเหลือไว้เสมอติ่งหู

“เกิดอะไรขึ้นทำไมตัดผมทรงนี้”

หญิงสาวเอ่ยถามพร้อมหัวเราะไปด้วย เมธาวินพ่นลมหายใจเมื่อเสียงหัวเราะของน้องสาวนั้นเรียกความสนใจของผู้คนรอบข้าง เขารู้สึกเขินเมื่อเห็นรอยยิ้มของคนที่มองมา

“พอได้แล้วจะหัวเราะอะไรนักหนา หลานสาวตัวดีของแกนั่นแหละเอาหมากฝรั่งมาแปะหัวฉัน ก็เลยต้องตัดทรงนี้”

“แล้วทำไมไม่ตัดแบบที่ผู้ชายเขาตัดกันล่ะ จะเหลือไว้ทำไม”

น้องสาวยังคงหยุดขำไม่ได้ พี่ชายเธอรูปร่างสูงและกำยำ แต่ตัดผมราวกับนักเรียนหญิงมัธยมต้น ใครเห็นก็คงอดหัวเราะไม่ได้

“ฉันไม่ได้อยากตัดผมแบบผู้ชาย ฉันอยากไว้ผมยาวเว้ย”

“แล้วทำไมไม่หาวิกมาใส่ก่อนล่ะ ใส่ไปพลางๆระหว่างที่รอผมยาวไง”

ชายหนุ่มชะงักคล้ายกับว่าคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขามองน้องสาวก่อนจะเผยรอยยิ้ม

“ทำไมฉันคิดไม่ได้ งั้นเดี๋ยวก่อนเข้าบ้านขอแวะซื้อวิกก่อนก็แล้วกันนะ”

มาริสาพยักหน้า พี่ชายของเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยมีไหวพริบสักเท่าไหร่ เรื่องง่ายๆก็คิดไม่ค่อยได้ต้องรอให้คนอื่นมาจุดประกายให้อยู่เรื่อย

หลังจากได้ทรงที่ถูกใจ เมธาวินก็อารมณ์ดี เขาขับรถไปผิวปากไปก่อนจะนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมา

“แกจะไปช่วยงานศพคุณท่านหรือเปล่า”

หญิงสาวพยักหน้าดวงตาหม่นแสง เธอได้รับข่าวร้ายว่าผู้มีพระคุณเสียชีวิตจึงได้รีบกลับมาจากจีนเพื่อมาช่วยงาน แบ่งเบาภาระคุณนวลนางที่ตอนนี้ ล้มป่วยกระทันหัน

“ไปอยู่แล้ว ฉันอยากทำอะไรเพื่อท่านเป็น ครั้งสุดท้าย”

นับตั้งแต่วันที่เธอนั้นได้ทุนการศึกษาไปเรียนที่ประเทศจีน ก็ไม่เคยได้กลับมากราบอิศราอีกเลย ตอนที่ผู้มีพระคุณล้มป่วยนอนโรงพยาบาล น่าเสียดายที่เธอติดการสอบครั้งใหญ่จึงปลีกตัวมาไม่ได้

“ท่านเป็นคนดีมาก ช่วยเหลือครอบครัวของเรามาโดยตลอด”

ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า ตอนที่ทราบข่าวจากเพื่อนสนิทอย่างอัครนัยตัวเขาเองก็ตกใจกับการจากไปกระทันหันของคุณอิศรา

“แล้วพี่จะไปช่วยงานด้วยหรือเปล่า”

เมธาวินส่ายหน้า งานวันแรกๆเขาคงไม่สะดวกไปเพราะต้องสลับกับภรรยาเพื่อเลี้ยงลูกคนเล็กที่เพิ่งคลอด

“คงไปไม่ได้หรอก ต้องช่วยลูกปัดดูแลเด็กๆ”

ป่านนี้ปัทมาคงจะชะเง้อรอคอยเขาอยู่หน้าบ้านแล้ว ช่วงนี้ภรรยาสาวคนสวยเพิ่งคลอดลูกและมีภาวะหลังคลอดที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้เขาต้องคอยประคบประหงมตลอดเวลา

“งั้นไม่เป็นไรเดี๋ยวหนูไปเอง ขอแวะซื้อพวงหรีดก่อนได้ไหม”

พี่ชายพยักหน้า หมุนพวงมาลัยจอดรถริมทางหน้าร้านขายดอกไม้ขนาดใหญ่ หลังได้พวงหรีดลายที่ต้องการมาริสาและเมธาวินก็มุ่งหน้ากลับบ้านทันที…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel