บท
ตั้งค่า

ควาสูญเสีย

ตอนที่ 1

ความสูญเสีย

เกิดแก่เจ็บตายเป็นสิ่งที่ธรรมชาตินั้นจัดสรรมาให้กับมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ แม้จะรู้ว่าวันนี้ต้องเดินทางมาถึง แต่อัครนัยก็ยากที่จะทำใจให้สงบ

ร่างสูงยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้มองดูผู้ให้กำเนิดที่นอนนิ่งมานานหลายเดือน ลมหายใจของพ่อสม่ำเสมอคล้ายกับคนนอนหลับธรรมดา

“ผมลำบากใจที่จะต้องพูดแบบนี้ แต่ร่างกายของคุณอิศราไม่ตอบสนองต่อการรักษา พวกเราทางทีมแพทย์จึงลงความเห็นว่าควรจะพูดคุยกับทางญาติเรื่องถอดเครื่องช่วยหายใจ ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะบีบคั้นให้คุณตัดสินใจแบบนี้ แต่หากเรายื้อต่อไป นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายแล้ว คนไข้อาจจะทรมานเพราะต้องทนอยู่กับความเจ็บปวด”

หมอผู้ผ่านการรักษาคนไข้มานับร้อยนับพันเอ่ยขึ้น ตลอดชีวิตของเขาอุทิศให้กับวงการแพทย์ดูแลรักษาคนป่วยให้หายจากอาการที่เป็นอยู่ ถึงอย่างนั้นก็มีบางส่วนที่เขาไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ ร่างกายและความทนทานของคนเรานั้นต่างกัน บางคนใจสู้แต่บางคนก็ไม่ขอสู้ต่อ ในช่วงแรกของการเป็นหมอตัวเขาเองก็รู้สึกอ่อนไหวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

เมื่อเวลาผ่านไปได้พบเห็นการเกิดแก่เจ็บตายบ่อยครั้ง ตัวเขาก็เริ่มปลง และมองเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่ธรรมชาติจัดสรรมาแล้ว

“เรื่องนี้ผมตัดสินใจเองไม่ได้หรอกนะ คงต้องกลับไปปรึกษาแม่กับน้องอิงก่อน”

ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเเผ่วเบา ในใจของเขาวูบวูบโหวงเมื่อรู้ว่าอีกไม่นานพ่อก็จะต้องจากไป ชั่วนิรันดร์ หากคนที่นอนเป็นผักอยู่ตรงหน้าทอดทิ้งไม่เหลียวแลเขา อัครนัยคงไม่รู้สึกเศร้าถึงเพียงนี้ แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นพ่อที่ดีมาโดยตลอด ความทรงจำดีๆจึงไหลวนเข้ามาในหัวของเขากลั่นออกมาเป็นน้ำตาที่ไหลริน

ชายหนุ่มที่เคยเข้มแข็งมาตลอดไม่เคยต้องเสียน้ำตาให้กับสิ่งใด แต่ครั้งนี้เขาอดกลั้นไม่ไหวจริงๆ จะแสร้งทำเป็นเข้มแข็งไปทำไมหากในใจของเขามันอยากร้องไห้อยู่รอมร่อ

ชายหนุ่มปลีกตัวออกมา เขานั่งอยู่ในรถหรูฟุบหน้าลงกับพวงมาลัย ปล่อยน้ำตาให้ไหลไร้เสียงสะอื้น แม้จะมีช่วงเวลาหลายเดือนเพื่อทำใจแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อดที่จะโศกเศร้าไม่ได้ ความทรงจำระกว่างเขากับพ่อมีแต่สิ่งดีๆให้ระลึกถึง ทำให้ชายหนุ่มนั้นรู้สึกอ่อนแออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ตัวเขาที่เป็นลูกยังรู้สึกเศร้าขนาดนี้ แล้วแม่ของเขาที่เป็นภรรยาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพ่อมานานจะรู้สึกเสียใจมากขนาดไหน ชายหนุ่มไม่อยากจะคิดเลยว่าหากมารดาได้รับข่าวร้ายจะเป็นอย่างไร

อัครนัยขับรถกลับมาที่บ้าน เขาพยายาม กลบเกลื่อนความเศร้าด้วยการทำตัวปกติแต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นแม่อย่างนวลนางก็สังเกตเห็น เธอรู้ว่า ลูกชายเดินทางไปเยี่ยมผู้เป็นพ่อที่โรงพยาบาล แต่ ทุกครั้งที่กลับมาไม่เคยมีแววตาหม่นแสงแบบนี้มาก่อน

“มาหาแม่หน่อยได้ไหม นัย”

ปีนี้อายุเกือบ 60 แล้วใกล้เข้าสู่วัยชราเต็มที นวลนางจึงเข้าใจดีเรื่องการจากลา สามีเธออายุมากทำงานหนักมาทั้งชีวิต หากถึงเวลาที่เขาจะได้พักผ่อน เธอก็ยินดีที่จะปล่อยสามีไป แม้ว่าจะเป็นการจากลาชั่วนิรันดร์แต่ถึงอย่างนั้นก็ดีกว่ายื้อให้สามีสุดที่รักต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมาน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel