ตอนที่2 ขอแต่งงาน
รถหรูของทศวรรษมาส่งเธอที่หน้าบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ภาริณีรีบเปิดประตูลงจากรถ ไม่เอ่ยขอบคุณเขาสักคำ ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมา เขาก็อดคิดไม่ได้ถ้าวันใดได้ดองกับเธอก็คงหนักใจไม่เบาที่ต้องมีปากเสียงกันทุกวัน ภาริณีเดินเข้ามาในบริษัท คิ้วขมวดอย่างอารมณ์ไม่ดี พร้อมนั่งเก้าอี้ตำแหน่งตัวเอง ก่อนจะชักสีหน้าออกมา
“เป็นอะไรไปน้องภา หน้าบอกบุญไม่รับแต่เช้าเลย โดนคุณพ่อดุมาอีกเหรอ” เสียงบอสอย่างอภิวรรษถามภาริณีอย่างสนิทสนม เพราะเธอคือรุ่นน้องในคณะ ก่อนจะชวนมาทำงานด้วย เขารู้เรื่องเธอไม่น้อย เพราะรู้จักกับหญิงสาวมาหลายปี และยิ่งไปกว่านั้นอภิวรรษแอบชอบพอภาริณีอยู่
“เรื่องเดิม ๆ ค่ะ ภาขอโทษนะคะที่เอาเรื่องส่วนตัวมาคิดในเวลางาน”
“ไม่เห็นต้องขอโทษเลยน้องภา เราก็คนกันเอง มีอะไรปรึกษาพี่ได้ตลอดเวลานะ”
“ขอบคุณค่ะพี่อาม”
ณ บ้านเกตุวิชัยแสง
สองหญิงชราพูดคุยกันไปมาอย่างมีความสุข ความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ยาวมานับเกือบห้าสิบปี แต่ความสนิทสนมก็ไม่เคยน้อยลงเลย
“ฉันคิดว่าตาธามคงชอบพอหนูตาไม่น้อย ถ้าเราได้ดองกันก็คงดี พ่อเจ้าธามนั้นก็เป็นเพื่อนกับวิภา คงดีใจไม่น้อยที่เห็นลูก ๆ รักกัน”
“ฉันก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เห็นว่าหลานสาวคนเล็กนี้ก็ชอบพอตาธามอยู่เหมือนกัน หรือว่าเราจะเป็นกามเทพให้กับพวกเขาดี”
“เธอก็คิดอย่างนั้นหรืออิรวดี ดีใจเหลือเกิน หลานชายของฉันคงดีใจที่ได้ยินแบบนี้” คุณหญิงอิรวดียิ้ม ก่อนจะถอนหายใจ เมื่อคิดถึงหลานสาวคนโต
“ส่วนแม่ภา คนนี้ฉันห่วงหนักกว่าใครเพื่อน ตั้งแต่เด็กไม่เคยได้ความรักจากพ่อเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของตัวเองเลย”
“ฉันก็พอดูออกอยู่ หนูภาก็กะไรไม่ยอมอ่อนให้พ่อเลย ถึงโดนตาอัครต่อว่าทุกวัน”
“นั่นละที่ฉันกลุ้ม พรแก้วถ้าเกิดวันไหนฉันตายไปเสียก่อนก็วานให้เธอเอ็นดูภาริณีเหมือนหลานคนหนึ่งเถอะนะ นอกจากฉันแล้ว หลานสาวคนนี้ก็ไม่มีใครเลย ภายนอกเธออาจจะเป็นคนปากร้าย ดูเข้มแข็ง แต่ลึก ๆ แล้วหลานสาวคนนี้ของฉันอ่อนแอกว่าใคร ๆ มีอะไรก็มักจะไม่พูด” คุณหญิงอิรวดีพูดออกมาอย่างอดห่วงไม่ได้ พรแก้วจับมือของเพื่อนไว้แน่น
“อย่าพูดอย่างนั้น ฉันก็ไม่ได้รังเกียจอะไรในตัวหนูภา เกิดตาธามแต่งกับหนูตา เราก็เป็นครอบครัวกันอยู่แล้ว ฉันไม่ทิ้งหนูภาหรอก”
12:13 น.
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งภูมิฐานะเดินเข้ามาในบริษัทเพื่อจะรับภาริตาไปทานอาหารเที่ยง พนักงานต่างมองมาที่เขา ก่อนจะซุบซิบกันยกใหญ่ มีใครบ้างไม่รู้จักเขา ท่านประธานเอ็มไพร์กรุ๊ปที่มีมรดกนับหมื่นล้าน ไม่ว่าจะเงินสดหรือที่ดินย่านชานเมือง ครอบครัวอัครไพกุลเป็นเจ้าของเกือบหมด
ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตู ก่อนจะเปิดเข้ามา ภาริตามอง ก่อนจะยิ้มให้ที่เห็นชายหนุ่มที่เดินเข้ามา
“จะมาทำไมไม่บอกตาคะ จะได้เดินลงไปรอข้างล่าง”
“พี่อยากเดินมาหาน้องตามากกว่า เชิญครับ หิวรึยังเอ่ย”
“นิดหน่อยค่ะ พี่ธามล่ะคะ หิวรึยัง”
“แค่พี่เห็นหน้าน้องตา แค่นี้พี่ก็อิ่มแล้ว”
“พี่ธามอ่ะ ชอบพูดแบบนี้เล่นตลอดเลย” หญิงสาวหน้าแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สายตาเป็นประกายมองใบหน้าหวาน ก่อนจะยิ้มออกมา เพราะความเขินอายของเธอทำให้เขามีความสุขไม่น้อย
“พี่ไม่เคยคิดกับน้องตาเล่น ๆ เลยนะครับ ตอนนี้คุณย่าของพี่คงพูดสู่ขอน้องตากับคุณย่าของน้องตาแล้ว”
“พี่ธาม พูดเรื่องอะไรคะเนี่ย” หญิงสาวทำหน้าไม่เข้าใจ ก่อนจะมองหน้าชายหนุ่มนิ่ง ทศวรรษยิ้ม ก่อนจะคุกเข่าลงต่อหน้าหญิงสาวท่ามกลางต่อหน้าพนักงานทุกคน ภาริตาทำตัวไม่ถูกที่มีคนมากมายจ้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว
“พี่ธาม ลุกขึ้นเถอะค่ะ คนมองเยอะแล้ว”
“ไม่ จนกว่าที่น้องตาจะยอมตกลงแต่งงานกับพี่ ตลอดเวลาหลายปีที่ได้รู้จักน้องตา พี่ก็แน่ใจว่าชีวิตที่เหลือของพี่จะปกป้องดูแลและรักน้องตาคนเดียว น้องตาครับ แต่งงานกับพี่ได้ไหมคนดี” สายตาของภาริตามองเขาอย่างรู้สึกดีที่ถูกขอแต่งงาน
“นะครับน้องตา แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ได้ไหม”
“ได้ ได้ค่ะพี่ธาม ตาจะแต่งงานกับพี่” เสียงปรบมือยินดีให้แก่พวกเขาทั้งสองดังลั่นบริษัท ชายหนุ่มยิ้ม ก่อนจะหยิบแหวนในกระเป๋าเสื้อออกมา เดิมทีเขาอยากจะขอเธอแต่งงานตั้งแต่เช้า แต่บรรยากาศกลับไม่อำนวยเสียเลย เขาบรรจงสวมแหวนให้แก่หญิงสาว ก่อนจะจูบลงอย่างอ่อนโยนที่มือบางของภาริตา
“อะไรนะ ตาจะแต่งงานกับธามเหรอ ทำไมรีบร้อนจังลูก” เสียงผู้เป็นพ่อถามหลังจากที่กลับมาบ้าน
“คุณพ่อไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ พี่ธามเขาดีกับตา รักตา และอีกอย่างตาก็รักพี่ธามมากด้วย”
“พ่อจะว่าอะไรลูกได้ ดีเสียอีก ธามเองก็ดีกับลูกไม่น้อย ทั้งฐานะ ความเหมาะสมไม่มีใครเทียบเท่าธามได้แล้ว” หญิงสาวกอดบิดาด้วยความดีใจ
“ตาดีใจที่คุณพ่อไม่ขัดข้อง” ภาริณีเดินมาได้ยินสองพ่อลูกคุยกัน พร้อมกอดกันแน่น ถ้าเป็นเธอ คุณพ่อคงไม่ดีใจแบบนี้สินะ จู่ ๆ น้ำตาใส ๆ ก็เอ่อล้นออกมา หญิงรีบปาดน้ำตาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา เธอบอกตัวเองว่าจะไม่อ่อนแออีก
หลายวันผ่านไป
ณ ห้าง ss
ภาริตาเดินเลือกซื้อของใช้ส่วนตัว เธอมองของตรงหน้าอย่างมีความสุข พร้อมรอยยิ้มที่เผยออกมาให้เห็น
“โอ๊ย” เสียงภาริตาร้องออกมาด้วยความเจ็บ เมื่อมีคนเดินมาชนเธอ
“ขอโทษนะครับ ผมขอโทษไม่ได้ตั้งใจ เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไร” ภาริตาเงยหน้ามองใบหน้าชายตรงหน้า ก่อนจะคิ้วขมวด
“พี่ชัย ทำไมกัน พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงหวานถามออกมาอย่างสั่นเครือ ชายตรงหน้าเมื่อได้เห็นภาริตาก็อดที่จะดีใจไม่ได้
“น้องตาสบายดีไหมครับ พี่ดีใจที่ได้เจอน้องตาอีก” ชัยบวรคือคนที่เธอเคยรักเมื่อตอนเรียนมหาลัย ไม่มีใครรู้มากนักว่าทั้งคู่เคยคบกัน เพราะหญิงสาวไม่อยากให้นายอัครราชรู้เรื่องนี้ พอหลังจากชัยบวรไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ หญิงสาวก็ไม่เคยติดต่อไปหาอีกเลย
“ค่ะ ตาขอตัวก่อน”
“เดี๋ยวสิน้องตา ทำไมต้องทำเหมือนรังเกียจพี่ขนาดนั้น ทุกวันที่ผ่านมาไม่มีวันไหนเลยที่พี่ไม่เคยคิดถึงน้องตา” ชัยบวรจับมือหญิงสาวแน่น เธอพยายามสะบัดออก แต่เขาก็ไม่ปล่อย
“พี่ชัยปล่อยตาค่ะ ไม่เหมาะ”
“ไม่เหมาะอะไรกัน แค่นี้ยังน้อยเมื่อเทียบกับ”
“หยุดนะคะ ตอนนี้ตากำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่ตารัก เราสองคนไม่ต้องมาเจอกันอีกจะดีกว่า ถ้าพี่ยังไม่เลิกยุ่งกับตา ตาจะบอกคุณพ่อแน่”
“แหมตา แค่นี้ก็โกรธเสียแล้ว” ชายหนุ่มปล่อยมือหญิงสาว ก่อนจะมองเธอทั่วทั้งใบหน้า
“ตาไปก่อนนะคะ ขอตัว” หญิงสาวเดินหนีออกมาด้วยความไม่พอใจ มีเพียงสายตาของชัยบวรที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์มองร่างบางที่เดินจากเขาไป
‘คิดว่าจะหนีไปจากพี่ได้เหรอตา ไม่มีวันนั้นหรอก!’