ตอนที่1 คนไม่น่าสงสาร
เสียงรถหรูรุ่นใหม่ล่าสุดขับเลี้ยวเข้ามาในบ้านของอัครราช ก่อนรถคันดังกล่าวจะจอดนิ่ง พร้อมร่างสูงโปร่งสูงถึง 185 เซนติเมตรลงจากรถ และอ้อมไปเปิดประตูให้กับผู้หญิงชราอีกคน พยุงเดินเข้ามาในบ้านอย่างสนิทเคยชิดเชื้อ
“ธาม ไม่ต้องพยุงย่าก็ได้ ย่าไม่ใช่คนแก่ที่ไร้เรี่ยวแรงเสียหน่อย” คุณหญิงพรแก้วบอกหลานชาย ก่อนจะยิ้มออกมา เพราะความเป็นห่วงของธาม หรือทศวรรษ หลานชายคนเดียวของคุณหญิงพรแก้ว
“โธ่ คุณย่าครับ ก็ผมเป็นห่วงนิครับ”
“ขอบใจหลานมากนะที่เป็นห่วงคนแก่อย่างย่า ตั้งแต่พ่อหลานจากไปก็มีแค่หลานที่ย่าจะพึ่งพาได้” คุณหญิงพรแก้วเป็นเพื่อนรักเพื่อนเก่าของคุณหญิงอิรวดี เธอมักให้หลานชายพามาเยี่ยมเพื่อนเสมอ
สองมือชายหนุ่มยกขึ้นไหว้อย่างอ่อนโยน แววตาเป็นประกายเมื่อเห็นภาริตานั่งรับประทานอาหารอยู่ ก่อนหญิงสาวจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง เช่นเดียวกับภาริณีที่ไหว้คุณหญิงพรแก้ว ยกเว้นเขา หญิงสาวมองอย่างไม่ชอบขี้หน้าชายหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด
“อ้าว พรไหนบอกฉันว่าเธอจะมาตอนบ่าย ทำไมมาเช้าได้ล่ะ” เสียงคุณหญิงอิรวดีถามเพื่อนด้วยรอยยิ้ม
“ก็หลานชายตัวดีสิ อยากพามาส่ง เลยมาแต่เช้า ไม่รู้ว่าอยากมาเจอใครรึเปล่า” คุณหญิงพรแก้วรู้ดีว่าหลานชายของตนชอบพอภาริตาไม่น้อย
“มา ๆ ทานข้าวต้มก่อน ตาธามด้วย ก่อนไปทำงานต้องเติมพลัง” หญิงชราบอกชายหนุ่ม เขารีบไปนั่งทันที สองหญิงชราพูดคุยอย่างมีความสุข เว้นแต่ภาริณีที่ต้องทำหน้าเหมือนจะตาย เมื่อต้องนั่งข้างชายหนุ่มที่เธอไม่ชอบ แต่ทศวรรษหาได้สนใจเธอไม่ ในสายตาเขามีเพียงภาริตาเท่านั้น หญิงสาวที่นั่งตรงข้ามมองใบหน้าชายหนุ่ม พร้อมยิ้มออกมาอย่างเขินอาย
“คุณย่าขา ภาไปทำงานก่อนนะคะ” เสียงภาริณีที่เวลาพูดกับคุณย่ากลับแตกต่างสิ้นดี
“เอ้า ไม่รอไปพร้อมน้องเหรอลูก จะได้ไม่ต้องเรียกรถแท็กชี่” เพราะตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้สูญเสียมารดาไป ภาริณีก็ไม่คิดจะเรียนขับรถเลย
“ไม่ดีกว่าค่ะ” หญิงสาวตอบกลับ ก่อนจะมองหน้าน้องสาวที่ยิ้มให้ ภายใต้รอยยิ้มนั้นกลับทำเอาภาริณีเกลียดเข้ากระดูกดำ
“พี่ภาไปพร้อมตานะคะ พี่ธามจะไปส่งพอดี” เสียงหวานพูดออกมา พร้อมทำหน้าเหมือนอ้อนวอนเธอ หึ! คิดอยากให้เธอเป็นไม้กันหมาเหรอ ไม่ทันแล้วมั้ง
ภาริตายังไม่กล้าไปไหนมาไหนกับผู้ชายที่ไม่ใช่คนในครอบครัวสองต่อสอง เธอเป็นคนรักนวลสงวนตัว นี่เป็นอีกข้อที่ทำให้ชายหนุ่มอย่างทศวรรษหลงใหลในความใสสะอาดของเธอ
“ฉันไปเองได้ ไม่ต้องให้ใครมารับมาส่ง” เสียงตอบกลับเรียบนิ่งทำเอาคนที่นั่งอยู่ต่างเงียบสนิท
“แค่ทำตามที่น้องบอกจะตายรึไง ตาธามก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล อย่างเรื่องมากนักยัยภา”
“นี่คุณพ่อจะให้ภาทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเหรอคะ ก็ได้ ในเมื่อมันคือคำบัญชาจากลูกสาวคนโปรดของคุณพ่อ ลูกนอกคอกอย่างภาคงไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไร”
“เข้าใจอย่างนั้นก็ดี เพราะคนอย่างแกต้องทำทุกอย่างที่น้องบอก! ตาลูก พ่อจะต้องไปคุยกับลูกค้าก่อน ลูกไปทำงานก่อนเลยนะ” น้ำเสียงที่อัครราชคุยกับลูกสาวทั้งสองคนต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ภายในรถคันหรูของทศวรรษที่มีพี่น้องฝาแฝดนั่งไปด้วย ภาริณีที่นั่งข้างหลังมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเบื่อหน่าย เธอเบื่อทุกครั้งที่ทศวรรษมาที่บ้านของเธอ และเป็นเธอที่ต้องทำในสิ่งที่ฝืนใจ
“ตอนเที่ยงน้องตาว่างรึเปล่าครับ พี่อยากช่วยน้องตาทานอาหารเที่ยงด้วยกัน”
“ได้ค่ะพี่ธาม กว่าคุณพ่อจะว่างมาทานข้าวเป็นเพื่อน ตาคงเกินเที่ยงแน่นอน”
“ดีใจจัง งั้นตอนเที่ยงพี่จะเข้าไปรับนะครับน้องตา” ชายหนุ่มพูดคุยกับหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนจะจอดหน้าบริษัทของเกตุวิชัยแสง ที่ทำงานของภาริตาถึงก่อนบริษัทที่ภาริณีทำงาน
“พี่ภาค่ะ ตาไปก่อนนะคะ เจอกันที่บ้านค่ะ”
“ก็เจอกันทุกวัน ล่ำลาเหมือนจะไปตาย” น้ำเสียงห้วนพูดออกไปอย่างไม่คิดอะไร แต่ใบหน้าของภาริตาตอนนี้กลับเศร้าลง
“พี่ภาทำไมพูดแบบนี้คะ ตารู้สึกไม่ดีเลย ถ้าพี่ภาโกรธเรื่องตอนเช้าตาขอโทษนะคะ ตาไม่ได้ตั้งใจให้พี่ภาโดนคุณพ่อดุ”
“เหอะ ตาไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก เพราะตั้งแต่เกิดมาตาก็ไม่เคยผิด จริงไหม” สีหน้าภาริตาเศร้าลง จนทำให้ชายหนุ่มยิ่งไม่พอใจในคำพูดของภาริณี
“พี่ธามคะ ตาไปก่อนนะคะ ฝากไปส่งพี่ภาด้วย บาย ๆ ค่ะ” หญิงสาวยิ้ม ก่อนจะลงจากรถไป ชายหนุ่มยิ้มให้ ก่อนจะขับรถออกไปด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป เขามองกระจกหลังเห็นหญิงสาวที่ไม่ชอบขี้หน้านั่งมองหน้าต่างไม่พูดอะไร เขาเหมือนคนขับรถเธอไม่มีผิด
“ทำไมพูดจาทำร้ายจิตใจน้องตาแบบนี้ เธอเป็นพี่สาวแบบไหนกัน” น้ำเสียงทุ้มถามคนในรถด้วยอารมณ์ไม่พอใจ
“ฉันจะเป็นแบบไหนเกี่ยวอะไรกับคุณไม่ทราบ เลิกยุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่นสักทีคุณทศวรรษ” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาดังเฮือก ก่อนจะเหยียบเบรกกะทันหัน จนร่างบางของภาริณีถลาไปโดนเบาะข้างหน้า
“นี่นาย แกล้งฉันเหรอ?” น้ำเสียงหญิงสาวเริ่มมีน้ำโหที่ถูกชายหนุ่มกลั่นแกล้งแบบนี้
“นี่แค่เตือน ถ้าเธอยังทำให้น้องตาเสียใจอีก เจอดีกว่านี้แน่ ภาริณี” เสียงกัดฟันพูดออกมาอย่างคาดโทษ
“หึ คิดว่าฉันกลัวเหรอ ถ้าฉันกลัวคนอย่างนาย ฉันก็คงไม่อยู่มาถึงทุกวันนี้หรอก เก็บเอาคำขู่ของนายไปใช้กับยัยตาโน่น ไม่ต้องมาริอ่านสั่งสอนฉัน อ๋อ แล้วก็เลิกทำตัวเป็นพี่ชายแสนดีสักที เพราะคนมักมากควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอย่างนาย คงมีแค่คนโง่อย่างยัยตาเท่านั้นละที่เชื่อทุกคำพูดของนาย” ภาริณีพูดจบ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถด้วยท่าทีไม่พอใจ ทศวรรษถอนหายใจ หากไม่ใช่ว่ารับปากภาริตาไว้ว่าจะไปส่งพี่สาวฝาแฝดก็คงไม่สนใจเธอหรอก ชายหนุ่มเปิดประตูพร้อมเดินไปขวางทางหญิงสาว
“หลีกไป ที่นี่ไม่มียัยตา ไม่ต้องมาแสดงว่าเป็นผู้ชายแสนดีกับฉัน”
“ขึ้นรถ ฉันรับปากน้องตาแล้วว่าจะไปส่งเธอ”
“ฉันไม่ไป ไม่ต้องมายุ่ง” ทศวรรษขบกรามแน่น ทำไมกันนะพี่น้องฝาแฝดบ้านนี้ที่เหมือนกันทุกอย่าง แต่ทำไมนิสัยถึงได้แตกต่างกันราวฟ้ากับนรกแบบนี้
“อย่าเรื่องมาก ฉันรีบไปทำงาน” เขาเน้นย้ำคำสั่งเธอ แต่ภาริณีไม่สนใจ เธอกำลังจะเดินไปเรียกรถ มือหนาของทศวรรษคว้าเรียวแขนของเธอไว้แน่น ก่อนจะลากเธอมาขึ้นรถอย่างไม่สนใจว่าแรงของเขาจะทำให้ภาริณีเจ็บแค่ไหน
“นี่ไอ้บ้า ปล่อยนะ ฉันไม่อยากไปกับนาย” หญิงสาวจะลง แต่เขากลับชี้นิ้วหน้าใส่เธอ
“ก็ลองดู อย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะ” ภาริณีถอนหายใจออกมาอย่างไม่พอใจ แต่เธอก็ยอมให้เขาไปส่ง เพราะนี้มันก็จะสายแล้ว