บท
ตั้งค่า

ตอนที่ : 03

บริษัทตระกูลเฟย

เฟยหลงคิดเอาไว้ว่าจะให้ลูกน้องคนสนิทดูแลงานที่นี่ให้ เพราะอยากจะสั่งสอนใครบางคนให้เข็ดหลาบ แต่ด้วยอาการป่วยที่ดูน่าสมเพชทำให้เขาไม่อยากทนมองและต้องกลับมาทำงานแบบนี้

ก๊อกๆๆ

“เข้ามา”

“ขออนุญาตครับคุณเฟยหลง” หลี่เฉียงก้มโค้งศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อคำความเคารพเจ้านาย

“มีอะไร?”

“ทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่าคุณเฟยหยางต้องการที่จะออกจากรงพยาบาลครับ”

“ว่าไงนะ?”

“…..”

หลี่เฉียงก้มหน้าเมื่อเห็นว่าเจ้านายมีท่าทีไม่พอใจหลังจากที่ได้ยินคำพูดของตน แต่นั่นก็เป็นหน้าที่ที่ต้องนำมารายงานเจ้านายตามคำสั่ง

“ไปเตรียมรถ ฉันจะไปที่โรงพยาบาล”

“ครับคุณเฟยหลง”

และหลังจากนั้นเฟยหลงก็มุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลในทันที ก่อนจะพบเข้ากับผู้เป็นพ่อซึ่งกำลังเตรียมที่จะออกไปจากห้อง

“หายดีแล้วงั้นเหรอครับ ถึงจะออกจากโรงพยาบาล?” เฟยหลงเอ่ยถามผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋ายืนนิ่งวางมาดเข้ม ต่อให้ก่อนหน้านี้จะถูกผู้เป็นพ่อตบต่อหน้าคนอื่นแต่ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใด

“ฉันไม่ได้เป็นอะไร”

“คนที่เอามือกุมหน้าอกตัวเองแล้วล้มหมดสติไป ไม่ควรพูดว่าไม่เป็นอะไรนะครับ”

“…..”

“ผมจะมีลูกให้ป๊าครับ”

“แกทำได้งั้นเหรอ แกรู้เหรอว่าฉันต้องการอะไร”

“ป๊าต้องการที่จะมีหลาน ผมก็กำลังจะทำให้นี่ไงครับ”

“แกคิดว่าฉันให้แกแต่งงาน เพื่อมีลูกสืบตระกูลเพียงอย่างเดียวงั้นเหรอ?”

“หรือว่าไม่ใช่?”

“เหอะ! ที่ฉันให้แกแต่งงานก็เพราะว่าฉันไม่ต้องการให้ลูกชายคนเดียวไปมั่วที่อื่น ฉันอยากให้แกเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้ ไม่ใช่เอาไปทั่ว คว้าแต่อีตัวที่ไหนก็ไม่รู้เข้าบ้านมา”

“แล้วที่ป๊าคว้ามาให้ผม ดีแค่ไหนกันครับ”

“ไอ้เฟยหลง อึก!”

“ปะ ป๊า…”

“แกไม่ต้องมาเรียกฉันว่าป๊า ฉันขอเตือนแกเอาไว้เลยนะ สักวันแกจะต้องเสียใจกับการกระทำของตัวเอง ถึงตอนนั้นถ้าแกจะเข้ามากอดขาอ้อนวอนให้ฉันช่วยก็ไร้ประโยชน์ เพราะฉันคงช่วยเหลืออะไรไม่ได้”

“…..” เฟยหลงกัดฟันแน่นพร้อมกับพยักหน้าด้วยความอดกลั้น ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะเดินออกไป

พลั่ก! เพล้ง!

“แม่งเอ้ย มันจะอะไรนักหนาวะ”

“คุณเฟยหลงครับ”

“อะไร?”

“โรงพยาบาลห้ามส่งเสียงดังครับ”

“…..” เฟยหลงเงียบและหยุดทำลายข้าวของ อย่างน้อยเขาก็พอจะมีจิตสำนึกในด้านนี้อยู่บ้าง

“คุณเฟยหลงครับ”

“คุณหมอ…มีอะไรครับ?”

“รบกวนพูดคุยสักครู่นะครับ เชิญที่ห้องหมอนะครับ”

“ครับ”

เขาถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเดินตามคุณหมอเจ้าของไข้ผู้เป็นพ่อไป โดยมีลูกน้องคนสนิทตามติดไปด้วย

“คุณหมอมีอะไรจะพูดกับผมงั้นเหรอครับ”

“หมออยากให้คุณเฟยหลงเกลี้ยกล่อมให้คุณเฟยหยางยอมผ่าตัดน่ะครับ”

“แล้วไหนบอกว่า ไม่ต้องผ่าตัด?”

“อาการของคุณเฟยหยางหนักจนเข้าขั้นที่จะต้องผ่าตัดนะครับ แต่ที่เห็นท่านดูปกติท่านก็แค่กำลังฝืน”

“แล้วทำไมหมอไม่พูดเกลี้ยกล่อมเองล่ะครับ” เพราะเขารู้ว่าต่อให้พูดอะไรไปพ่อก็คงไม่ยอมอยู่ดี การเกลี้ยกล่อมอะไรแบบนี้ก็คงจะไร้ประโยชน์

“หมอคิดว่าการที่คนในครอบครัวช่วยกันพูด อาจจะทำให้คุณเฟยหยางยอมผ่าตัดก็ได้น่ะครับ”

“…..” เขาถอนหายใจหนักๆ ต่อหน้าคุณหมอ เพราะตอนนี้เฟยหลงเองก็กลุ้มใจไม่แพ้กัน

“ยังก็ฝากด้วยนะครับ หากคุณเฟยหยางพร้อมแล้ว ทางเราจะเตรียมการผ่าตัดให้ทันทีเลยครับ”

“ผมจะพยายามครับ แต่ไม่รับปาก”

พูดจบเฟยหลงก็เดินออกไปพร้อมกับลูกน้องที่ติดตามมา

“ไม่ทราบว่าคุณเฟยหลงจะไปที่ไหนครับ”

“บ้านป๊า ฉันมีเรื่องต้องคุย ไม่อยากให้มันค้างคา”

“ได้ครับ”

คฤหาสน์ที่เฟยหลงอาศัยอยู่คือคฤหาสน์ที่ตกทอดมาจากรุ่นปู่ย่า และมีกฎอยู่ว่าหากลูกหรือหลานของตระกูลมีครอบครัวจะต้องยกคฤหาสน์นี้ให้กับคนนั้น พ่อของเฟยหลงจึงออกไปอยู่ที่บ้านอีกหลัง ซึ่งมันกะทัดรัดและเหมาะสำหรับคนที่ต้องอยู่ในช่วงบั้นปลายชีวิตมากกว่า

“ป๊าล่ะ?”

“อยู่ด้านในครับ”

“ฉันต้องการคุยแบบส่วนตัว ออกไปให้หมด”

“ครับคุณเฟยหลง”

เฟยหลงเดินเข้าไปในห้องที่มีเพียงไฟสลัวๆ ก่อนจะเห็นแผ่นหลังของผู้เป็นพ่อกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะตัวโปรด

“มาทำไม?” เสียงแหบถามขึ้นราวกับว่ารู้ว่าใครเป็นคนที่เดินเข้ามา ทั้งที่ยังไม่ได้หันกลับมามองเลย

“ผมจะมาหาป๊าไม่ได้เลยงั้นเหรอครับ?”

“มีอะไรก็รีบพูด”

“ผมจะมายื่นข้อเสนอให้ป๊า แลกกับที่ป๊าต้องผ่าตัดและรักษาตัว”

“ฉันไม่รับ”

“ป๊าครับ…”

“ข้อเสนอของแก ก็คงไม่พ้นเรื่องเห็นแก่ตัว”

“ช่วยฟังก่อนแล้วค่อยตัดสินไม่ได้เหรอครับ”

“งั้นก็พูดมา”

“ผมจะเลิกกับเด็กทุกคน และไปสนใจเด็กที่ป๊าหามาให้ผม ผมจะมีหลานให้ป๊าตามที่ป๊าต้องการ จะพยายามทำดี แต่ผมไม่รับปากว่าผมจะรักคนคนนั้นได้หรือเปล่า”

“ฉันเชื่อคนอย่างแกได้งั้นเหรอ?”

“ป๊าเชื่อใจผมได้ ถ้าผมผิดสัญญา ผมให้ป๊าเอาปืนมาจ่อหัวผมและเป่าได้เลย”

“ได้ลูกเวร นี่แกกล้ายื่นข้อเสนอให้ฉันฆ่าลูกตัวเองเลยงั้นเหรอ?”

“เพราะผมรู้ไงครับ ว่าผมไม่เคยผิดสัญญา แต่ผมก็บอกป๊าแล้วว่าผมไม่สามารถรักคนคนนั้นได้”

“…..”

“ข้อเสนอแค่นี้ของผม คงจะทำให้ป๊ารับได้นะครับ”

“ก็ได้ ฉันจะรับข้อเสนอนี้ แต่แกอย่าลืมว่าถ้าแกทำร้ายหรือพาเด็กของแกเข้ามาในบ้านอีก แกจะได้เจอดีกับฉันแน่”

“ครับป๊า ผมรับปาก”

เฟยหลงมาเพื่อพูดถึงเรื่องนี้โดยเฉพาะ เขาแค่ต้องการให้พ่อเข้ารับการรักษาและนั่นก็คงจะเป็นวิธีเดียวที่ทำให้พ่อของเขายอมทำได้

หลังจากที่ตกลงข้อเสนอกันเสร็จเฟยหลงก็กลับไปที่บริษัททันที การพูดคุยระหว่างพ่อลูกจึงมักไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ หากแต่ไม่มีเรื่องสำคัญที่จะต้องสนทนา ตั้งแต่ที่แม่ของเฟยหลงต้องจากไป ทั้งสองที่ไม่ได้สนิทสนมกันอยู่แล้วก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกันสักเท่าไหร่

“คุณเฟยหลงครับ”

“อืม…”

“คนที่คฤหาสน์แจ้งมาว่าต้องพาคุณต้นน้ำไปโรงพยาบาลครับ”

“ทำไม?”

“เป็นไข้สูงแล้วช็อคครับ”

“อืม…”

“คุณเฟยหลงจะไปที่โรงพยาบาลไหมครับ ผมจะได้ไปเตรียมรถ”

“ไม่ไป ให้หมอดูแลเอง”

“ครับ”

เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องไปสนใจเลยสักนิด เฟยหลงนั่งทำงานตรงหน้าต่อจนกระทั่งถึงเวลาตกเย็นเวลาที่เขาจะต้องตรงดิ่งกลับไปยังที่บ้านทันที ไม่สามารถเถลไถลได้เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว

“คุณเฟยหลงจะรับอาหารเย็นเลยไหมคะ ป้าจะได้เตรียมให้”

“แล้วต้นน้ำไปไหน?”

“เอ่อ…”

“???”

“ตอนนี้คุณหมอให้แอดมิดอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ เห็นว่ากินอะไรไม่ได้เลย แถมพิษไข้ก็เล่นงานรุมเร้ากินยาแล้วก็ไม่ลง คุณหมอเลยให้นอนให้น้ำเกลือน่ะค่ะ”

“หลี่เฉียง”

“ครับคุณเฟยหลง”

“ไปเตรียมรถ พาฉันไปโรงพยาบาลแล้วให้คนกลับมาเอาเสื้อผ้าไปให้ฉันด้วย”

“ได้ครับคุณเฟยหลง”

เฟยหลงไปที่โรงพยาบาลในทันที ทั้งที่ก่อนหน้านี้คิดเอาไว้แล้วว่าจะไม่สนใจ แต่พอนึกถึงคำสัญญาที่ได้ให้กับผู้เป็นพ่อไว้มันก็อดไม่ได้และไม่อยากผิดคำพูดด้วย

“อาการเป็นยังไงบ้างครับ?”

“ก็มีไข้สูงครับ เกิดจากการอักเสบเลยทำให้มีไข้ ยังไงระหว่างนี้ก็ควรเว้นระยะไปก่อนนะครับ ให้ร่างกายกลับมาหายดีก่อนแล้วค่อยทำ”

“ครับ แล้วจะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ครับ?”

“เร็วสุดก็พรุ่งนี้นะครับ ถ้าให้น้ำเกลือหมดกระปุกแล้วอาการดีขึ้นหมอก็จะให้กลับไปรักษาตัวที่บ้านต่อ”

“ครับ”

“หมอขอตัวก่อนนะครับ”

เฟยหลงเดินไปหยุดยืนอยู่ที่เตียงของต้นน้ำ ในขณะที่คนตัวเล็กยังคงนอนสลบไม่ได้สติอยู่ มองดูใบหน้าที่ซีดเซียวนั้นแต่เขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลย นอกจากความเฉยเมย

ก๊อกๆๆๆ

“เข้ามา”

“เสื้อผ้าของคุณเฟยหลงครับ”

“เอามาให้ฉันชุดเดียวพอ ที่เหลือเอากลับไป พรุ่งนี้ก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว”

“ครับ”

“ไม่ต้องเฝ้านะ กลับไปพักได้เลย พรุ่งนี้เช้าค่อยมาหาฉัน”

“ครับคุณเฟยหลง”

คืนนี้เฟยหลงจะต้องอยู่กับต้นน้ำทั้งคืน เพราะรู้ว่าพ่อของเขาจะต้องส่งคนตามดูพฤติกรรมอย่างแน่นอน และเขาก็อยากให้พ่อได้รู้ว่าเขานั้นทำตามที่ตกลงกันเอาไว้จริงๆ

แต่ถ้าจะให้ต้องรักกับคนคนนี้เขาคงทำไม่ได้

เช้าวันต่อมา

ต้นน้ำนั่งนิ่งขณะที่พยาบาลกำลังถอดสายน้ำเกลือให้อยู่ แต่สายตาก็หยุดโฟกัสที่ชายหนุ่มด้านหลังไม่ได้ สายตาของเขาที่จ้องมองมาตลอดมันทำให้ต้นน้ำรู้สึกเกร็งจนทำตัวไม่ถูก และเมื่อเช้าที่ต้องตื่นมาแล้วเจอเขาเป็นคนแรกก็เป็นอะไรที่น่าตกใจมากๆ

สายตาของเขาน่ากลัวยิ่งกว่าอะไร

“เรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวรอคุณหมอมาตรวจอาการอีกทีนะคะ”

“ขอบคุณครับ”

พยาบาลสาวเดินออกไปนั่นจึงทำให้ต้นน้ำต้องอยู่กับเขาสองต่อสองอีกครั้ง

“ไม่คิดว่าจะยังรอด”

“ผมไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกครับ”

“ก็ดี รีบๆ หายจะได้เตรียมมีลูกกับฉัน”

“หมะ หมายความว่ายังไงครับ มะ มีลูก?!”

“ก่อนจะมาที่นี่ ป๊าฉันไม่ได้บอกหรือไง ว่านายจะต้องมีลูก”

“ผะ ผมไม่คิดว่าผมจะท้องได้”

“ได้หรือไม่ได้เดี๋ยวก็รู้”

ต้นน้ำนั่งก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าสบตากับเขา ถึงจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องที่เขาพูดก่อนหน้านี้ แต่ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้เพราะรับข้อตกลงมาแล้ว เงินก็รับมาแล้ว แต่การมีลูกมันคือการผูกพันธะระหว่างคนสองคนที่ทำให้ต้องอยู่ด้วยกันไปตลอด แต่หากใครคนนึงต้องจากไปมันก็อาจจะทำให้เด็กที่ต้องเกิดมามีปมด้อยได้

“ฉันต้องการลูก แต่ไม่ได้ต้องการนาย รู้ไว้และจำใส่หัวเอาไว้ซะด้วยล่ะ จะได้ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ”

“แล้วถ้าผมมีลูกให้เฮียไม่ได้ล่ะครับ”

“….”

“เฮียก็น่าจะรู้นี่ ว่าเปอร์เซ็นต์การมีลูกมันมีน้อย”

“แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามีไม่ได้นี่”

ต้นน้ำก็พอจะรู้มาเหมือนกันว่าเปอร์เซ็นต์ที่ผู้ชายจะท้องได้มันก็มี แต่ก็น้อยกว่าผู้หญิง และที่ผ่านมาต้นน้ำก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองอยู่ในเกณฑ์ของผู้ชายที่สามารถอุ้มท้องได้เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel