ตอนที่ : 02
โรงพยาบาลประจำตระกูล
“พ่อผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ” เฟยหลงเข้าไปถามอาการผู้เป็นพ่อจากคุณหมอด้วยความร้อนรน ในขณะที่ต้นน้ำเองก็ห่วงไม่ต่างกันแต่ก็ไม่กล้าเข้าไป เพราะแค่นี้เฟยหลงก็เกลียดขี้หน้ามากพอแล้ว
“คุณเฟยหยางปลอดภัยแล้วครับ แต่ก็ยังน่าห่วงนะครับหากมีการกระตุ้นแบบนี้อีก”
“หมายความว่าไงครับ?”
“คุณเฟยหยางเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว คงเป็นเพราะก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องใช้แรงมาก เลยกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เลยเกิดเหตุหารณ์แบบนี้”
“แล้วการรักษาล่ะครับ ต้องทำยังไง”
“ต้องผ่าตัดครับ”
“ก็ผ่าตัดเลยสิครับ จะมัวรออะไร”
“ยังไม่สามารถทำได้ตอนนี้ครับ ยังไงก็ต้องรอให้คุณเฟยหยางฟื้นก่อน”
เฟยหลงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันหลังกลับไปมองต้นน้ำที่ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ด้านหลัง ทำเอาต้นน้ำสะดุ้งเฮือกรีบหลบสายตาของเขาในทันที
“หวังหย่ง แกคอยเฝ้าดูแลพ่อของฉันอยู่ที่นี่ อย่าให้คลาดสายตา มีอะไรให้รีบโทรบอก ส่วนหลี่เฉียงแกไปทำงานที่บริษัทแทนฉันก่อน จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย”
“ครับนาย/ครับนาย”
ลูกน้องทั้งสองตอบรับพร้อมกับโค้งคำนับเจ้านาย
“ส่วนนาย!”
“อ๊ะ ฮะอ เฮียเฟย…”
“มากับฉัน!”
“จ-จะพาผมไปไหนครับ”
“ไม่ต้องกลัว ไม่ได้ตายง่ายๆ หรอก”
“….” ต้นน้ำยอมเดินไปเพราะถ้าขัดขืนคงได้เจ็บตัวมากกว่านี้แน่ นี่ขนาดไม่ขัดขืนมือที่จับข้อมือของตัวเองอยู่ก็บีบรัดแน่นจนต้องกัดริมฝีปากอดทน
คอนโดส่วนตัวเฟยหลง
พลั่ก!!
“เฮียเฟย ผมเจ็บ..อึก” เพราะถูกเหวี่ยงลงบนเตียงอย่างแรง ต้นน้ำเลยรู้สึกเจ็บและจุกมาก และแทบจะลุกไม่ขึ้นเลย
“อยากได้เงินมากไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันจะให้”
สิ้นสุดคำพูดของเฟยหลงเงินปึกหนาก็ถูกโยนลงไปบนเตียง ต่อหน้าต้นน้ำที่นั่งจุกอยู่
“นี่เงินสำหรับค่าตัว หวังว่าจะพอนะ”
“อึก…งะ เงินงั้นเหรอครับ”
“หรือว่าได้จากพ่อของฉันไปมากพอแล้ว เงินของฉันมันเลยไม่สำคัญอะไร”
“….” ถึงเงินที่ได้จากพ่อของเขามันจะมากแล้วก็จริง แต่ต้นน้ำก็ไม่ปฏิเสธว่าไม่ต้องการมันอีก เพราะพี่ชายยังคงต้องการการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะโรคร้ายที่เป็นอยู่จึงทำให้ไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงานเลยสักแห่ง นั่นจึงทำให้ต้นน้ำกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวไปโดยปริยาย
และเพราะแบบนี้ต้นน้ำถึงได้รับข้อเสนอที่พ่อของเขายื่นให้
จะเรียกว่าเห็นแก่เงินก็ได้ แต่เพื่อให้พี่ชายคนเดียวที่เหลืออยู่ในครอบครัวได้อยู่บนโลกนี้ต่อไปอีกนานๆ
“อยากเอากับฉันมากใช่มั้ย ถึงได้เอาเรื่องนั้นไปฟ้องพ่อของฉัน”
“ผะ ผมเปล่านะครับ ผมไม่เคยพูดอะไรเลย” ต้นน้ำรีบปฏิเสธ เพราะไม่เคยเอาเรื่องที่เขาพาคู่นอนเข้าบ้านไปพูดที่ไหนเลย และก็แทบจะไม่ได้พูดคุยกับใครเลยด้วยซ้ำ
“ถ้านายไม่พูด แล้วใครจะพูดล่ะ คนของฉันที่นี่ไม่มีใครกล้าพูดทั้งนั้นแหละ”
“…..” คนตัวเล็กส่ายหน้าพร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกลัว ยิ่งได้ถูกสายตาคู่นั้นจ้องมองมายิ่งทำให้รู้สึกกลัวมากขึ้นไปอีก “อยะ อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ ผมไม่ได้พูดจริงๆ”
“…..” เฟยหลงแสยะยิ้มอย่างน่าขนลุก ก่อนที่มือหนาจะเร่งปลดกระดุมเสื้อของตนเองพร้อมกับขาที่คร่อมคนตัวเล็กเอาไว้ ทำให้ต้นน้ำไม่สามารถขัดขืนหนีออกไปได้
“หลังจากที่พ่อของฉันฟื้น ท่านคงจะได้รับข่าวดีที่ว่า ฉันเอากับนายแล้ว และอีกไม่นานก็คงจะมีลูกให้กับตระกูลได้ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่ได้คิดจะเอานายมาทำเมีย ฉันแค่จะเอาลูกเท่านั้น”
“อึก…”
“ตั้งท้องและคลอดลูกให้ฉัน จากนั้นจะไสหัวไปไหนก็เชิญ!”
คำพูดของเขาทำให้ต้นน้ำที่นอนสงบนิ่งอยู่ใต้ร่างใจเต้นแรง และเจ็บใจกับคำพูดของเขาที่คอยเอาแต่จะดูถูกกันอยู่ตลอด แต่ต้นน้ำก็ไม่มีสิทธิ์ต่อต้านอะไรเขา
“ฮะ เฮียเฟย…”
“อะไรอีก?”
“นี่เป็นครั้งแรกของผม ช่วยอย่าทำแรงได้หรือเปล่าครับ” ต้นน้ำหลบสายตาหลังจากที่พูดจบ มันน่าเขินอายที่ต้องพูดแบบนี้แต่ก็เป็นความจริง และอยากให้เขาช่วยทะนุถนอมสักหน่อย
แต่ดูแล้วมันคงจะไม่ได้ผลอะไรกับคนอย่างเขา
……………….
สวบ! สวบ! สวบ!
พั่ก! พั่ก! พั่ก!
คนตัวเล็กนอนเกร็งเพราะถูกเขากระแทกแก่นกายใหญ่เข้ามาในช่องทางแคบอย่างหนักหน่วง ความรุนแรงที่ไร้การเล้าโลมไม่มีความปราณีทำเอาต้นน้ำเจ็บปวดจนแทบจะร้องไห้ออกมาดังๆ แต่ทำได้เพียงนอนกลั้นเสียงครางและเสียงร้องไห้เอาไว้อยู่แบบนั้น
“ฮึกผมเจ็บ เฮียกอดผมหน่อย”
“หุบปาก! อ่า…อย่าเกร็งดิ!”
ต้นน้ำร้องไห้อ้อนวอนทั้งน้ำตาแต่ก็ยังไร้ความปราณีใดๆ จากเขา
“อะอ่า จะเสร็จ…” คนตัวใหญ่อัดกระแทกท่อนเอ็นลำยาวเข้าช่องทางแคบหนักๆ อีกไม่กี่ครั้งก่อนที่เขาลุกออกไปจากตัวของต้นน้ำ
“ฮึก…”
“จะร้องไห้ทำไมวะ รึว่าเงินที่ให้มันไม่พอ?”
“ปะ เปล่าครับ ผมแค่เจ็บ..”
“….” เขายืนมองด้วยท่าทางที่นิ่งเฉย ไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงเป็นใยอะไรกับคนตรงหน้า ก่อนที่เขาจะเร่งใส่เสื้อผ้าของตัวเอง “ฉันจะให้แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด ถ้าไม่อยากให้ใครเข้ามาเป็นในสภาพนี้ก็รีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าซะ”
“ฮะ เฮีย…”
“อะไร?”
“อยู่กับผมก่อนได้ไหม?”
“…..” เขามองคนตรงหน้าอย่างสมเพช ก่อนจะเดินออกไปโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าต้นน้ำจะลุกไหวหรือเปล่า จะเจ็บมากแค่ไหน
คนตัวเล็กค่อยๆ ตะเกียกตะกายออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะพบว่าภายใต้ผ้าปูที่นอนสีขาวมีรอยเลือดอยู่เล็กน้อย นั่นคงเป็นเพราะถูกกระทำอย่างรุนแรงและนี่ก็เป็นครั้งแรกด้วยที่มีเซ็กซ์แบบนี้
“อึก…เจ็บไปหมด”
ต้นน้ำเร่งจัดการกับตัวเองก่อนที่แม่บ้านจะเข้ามาทำความสะอาดห้องนี้ จากนั้นก็รีบลงไปด้านล่างในทันที
“คุณเฟยหลงให้มารับครับ” ลูกน้องรีบเข้ามาเมื่อเห็นต้นน้ำเดินออกมาจากคอนโด
“ละ แล้วเฮียไปไหนครับ” ตอนแรกก็นึกว่าเขาจะลงมารอที่ด้านล่างซะอีก ไม่คิดว่าเขาจะกลับไปก่อน
“เชิญขึ้นรถครับ”
“….” ต้นน้ำพยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินเข้าไปนั่งในรถ ภายใต้สีหน้าที่เรียบนิ่งเจ้าตัวพยายามอดทนกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้
ณ เวลานี้มันก็ดึกมากแล้ว กว่าบทรักที่แสนเจ็บปวดจะจบลงมันก็ช่างยาวนานสำหรับต้นน้ำมาก
“พี่ครับ แวะซื้อยาให้ผมหน่อย”
“ไม่ทราบว่ายาอะไรครับ เดี๋ยวผมลงไปซื้อให้”
“ขอยาแก้ปวดลดไข้กับยาแก้อักเสบครับ”
“ได้ครับ”
ระหว่างทางที่กำลังนั่งรถกลับบ้าน ต้นน้ำรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองมันเจ็บปวดมากๆ และพิษไข้ก็กำลังเล่นงานเข้าให้แล้ว จนต้องเอ่ยปากบอกคนขับรถแวะซื้อยามาให้ เพราะไม่อย่างนั้นคงได้นอนซมแน่ๆ
……………..
“เขาอยู่ไหน?”
“นอนอยู่ในรถครับ เห็นว่าไม่สบายผมก็เลยไม่ได้ปลุก”
“อืม ไปได้ละ”
“ครับ”
เฟยหลงเดินไปดูที่รถก่อนจะพบว่าต้นน้ำนอนซมอยู่ที่เบาะด้านหลังจริงๆ พร้อมกับในมือกำถุงยาเอาไว้แน่น
“ให้ปลุกไหมคะคุณเฟย”
“ไม่ต้อง ตื่นเมื่อไหร่เดี๋ยวก็ออกมาเองแหละ”
“ตะ แต่ว่าคุณต้นน้ำดูไม่สบายมากเลยนะคะ”
“แค่นี้ไม่ตายหรอก”
เพราะเขาเป็นคนที่ทำให้ต้นน้ำเป็นแบบนี้เอง และคิดว่ามันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร
“ตอนเช้าถ้ายังไม่ลุกก็ปลุกออกมาด้วยก็แล้วกัน”
“ค่ะๆ คุณเฟย”
เขาเดินหันหลังกลับเข้าบ้านไปทันทีโดยที่ไม่ได้สนใจคนตัวเล็กที่นอนซมอยู่ในรถเลย
“โถ่คุณต้นน้ำ เวรกรรมอะไรกันนะคะ” แม่บ้านพึมพำก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูรถแล้วเขย่าหัวไหล่เพื่อปลุกคนที่กำลังนอนหลับไหลให้ตื่นขึ้น เพราะถ้านอนอยู่ในรถแบบนี้ทั้งคืนคงไม่สบายหนักเข้าไปอีกแน่ๆ
“ตื่นเถอะค่ะ ไปนอนที่ห้องดีกว่านะคะ”
“อืม..ถึงนานแล้วเหรอครับ”
“เมื่อสักครู่นี้เองค่ะ”
“ขอโทษนะครับ ผมรู้สึกไม่สบายตัวเลยหลับในรถ”
“ไปนอนที่ห้องนะคะ เดี๋ยวป้าจะเตรียมยาไว้ให้”
“ไม่เป็นอะไรครับ ผมให้คนขับรถแวะซื้อยาให้แล้ว”
“ยาต้มของตระกูลได้ผลดีกว่านะคะ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ถ้าไม่สบายก็กินยาต้มกันทั้งนั้น จะได้หายเร็วๆ ค่ะ”
“ก็ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
ต้นน้ำลากสังขารของตนเองขึ้นไปบนห้องด้วยความทุลักทุเล เพราะรู้สึกเจ็บตรงส่วนที่ถูกเฟยหลงสอดใส่เข้ามามันทำให้แทบจะก้าวขาไม่ออก
ก๊อกๆๆ ~
“อือ..”
“ขออนุญาตเข้าไปนะคะ”
“เอายามาให้เหรอครับ”
“ใช่ค่ะ”
“เอาวางไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมกิน”
“ค่ะ ยังไงก็รีบกินตอนที่ยายังร้อนๆ นะคะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะกินยาก”
“…..” คนตัวเล็กพยักหน้าตอบรับหงึกๆ ก่อนที่แม่บ้านจะออกไป แต่แล้วต้นน้ำก็ผล็อยหลับไปโดยที่ไม่ได้กินยาก่อน เพราะร่างกายที่เจ็บปวดมันทำให้เขาต้องเจอกับพิษไข้อย่างหนัก
เช้าของอีกวัน
“ทำไมหมอนั่นยังไม่ลงมาอีก?” เฟยหลงพูดกับแม่บ้านด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์เพราะไม่ชอบการรอคอย ไม่ชอบคนที่ผิดเวลา
“ไม่สบายหรือเปล่าคะ เมื่อคืนเป็นไข้จนหน้าซีด”
“…..” เสียงถอนหายใจหนักๆ ทำให้แม่บ้านที่ยืนอยู่ด้านหลังพากันสะดุ้งเฮือก
“หะ ให้ไปตามไหมคะ”
“ไม่ต้อง ฉันจัดการเอง”
พูดจบเฟยหลงก็ลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นไปด้านบน ท่ามกลางสายตาของแม่บ้านที่ไม่มีใครกล้าขัดใจเขา
แกร๊ก~
หมับ!
“อะ อ๊ะ ผะ ผมเจ็บครับเฮียเฟย”
“คิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงให้ฉันต้องมานั่งรอกินข้าว!”
“ผะ ผมไม่หิวครับ เฮียกินได้เลย”
“ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!”
“…..” ต้นน้ำนอนนิ่งเพราะพิษไข้ทำให้ไม่สามารถพาตัวเองลุกออกจากเตียงได้
“ฉันบอกให้ลุกขึ้นมา อย่ามาทำเป็นสำออยหน่อยเลย หรืออยากได้เงินจากฉันเพิ่งเลยทำตัวอ่อนแอแบบนี้”
พลั่ก!
ร่างเล็กถูกกระชากให้ลุกขึ้น ทว่าแข้งขาที่ไร้เรี่ยวแรงก็ไม่สามารถทำให้ลุกขึ้นได้ ต้นน้ำทรุดตัวนั่งอยู่ข้างเตียงพร้อมกับลมหายใจที่หอบแฮ่ก มือกุมหน้าอกของตัวเองแน่นเพราะรู้สึกว่าหัวใจข้างในมันเต้นแรงมากๆ
แถมยังรู้สึกแปลกเหมือนตัวเองจะตายให้ได้
ท่าทางของคนตรงหน้าทำให้เรารู้สึกสมเพชก่อนจะจับต้นน้ำอุ้มขึ้นแล้วพาเข้าห้องน้ำไป
“แค่ก! แค่ก! แค่ก! ฮะ เฮียอึก…อย่าทำแบบนี้”
เฟยหลงพาต้นน้ำเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะเปิดน้ำจากฝักบัวใส่คนตรงหน้าจนเปียกชุ่ม ต้นน้ำพยายามจะลุกขึ้นเพื่อหนีจากการกระทำที่แสนป่าเถื่อนนี้แต่ก็ไร้เรี่ยวแรง ต้องสำลักน้ำจนหน้าแดงก่ำไปหมด
“พะ พอฮึก..แค่กๆๆ พอแล้วครับ”
“คิดว่าจะได้มาอยู่ในบ้านของฉันแบบสุขสบายหรือไง ทำให้พ่อของฉันต้องเข้าโรงพยาบาลขนาดนั้น ต้องชดใช้สิ ถ้าพ่อฉันเป็นอะไรไปนายเองก็ต้องตายเหมือนกัน”
“…..” ต้นน้ำร้องไห้ออกมาจนสะอื้น ต่อให้พยายามที่จะอธิบายอะไรเขาก็คงไม่คิดที่จะฟังสินะ
ทำไมถึงได้เอาแต่ใจขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ฟังกันบ้าง เรื่องนั้นต้นน้ำไม่ได้เป็นคนบอกจริงๆ เพราะไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปบอกเลยสักนิด
“จำให้หัวเอาไว้ด้วย ต่อให้จะพยายามแค่ไหน ฉันก็ไม่คิดจะยกคนอย่างนายเป็นเมียของฉันหรอก อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไปแค่นั้น”
“ฮึก…”
“คนอย่างนายมีค่าแค่เรื่องบนเตียงเท่านั้นแหละ เอาไว้ถ้าฉันอยากเอาจะกลับมาซื้อใหม่ก็แล้วกันนะ…ถูกดี”
เขาพูดทิ้งท้ายไว้ด้วยถ้อยคำที่ทำให้คนฟังอย่างต้นน้ำต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ร่างกายที่เจ็บปวดอยู่ในตอนนี้ก็ยังไม่เท่าคำพูดของเขาที่ถากถางกันเลย
“ฮึก…ฮื่อ…พี่ตุลาฮือ”
……………….
เวลาต่อมา
“ตายแล้วคุณทะ ทำไมอยู่สภาพนี้ล่ะคะ”
“ผม..”
“ฝีมือคุณเฟยหลงสินะคะ มาค่ะเดี๋ยวป้าช่วย”
“ขะ ขอบคุณครับ”
“ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะคะ คุณเฟยไม่เคยทำอะไรรุนแรงแบบนี้กับใครเลย”
“คงเพราะเขาเกลียดผมมากล่ะมั้งครับ”
ต้นน้ำได้แม่บ้านช่วยประคองเข้าไปด้านใน หลังจากที่นั่งร้องไห้จนหมดเรี่ยวแรงอยู่ในห้องน้ำ ร่างกายมันชาจนรู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว น้ำที่เปียกแฉะอยู่บนร่างกายทำให้พิษไข้เข้าเล่นงานอย่างหนัก
“เมื่อคืนไม่ได้กินยาเหรอคะ ทำไมยังเหลือเท่าเดิม”
“ก็กะว่าจะกินแล้วครับ แต่ก็หลับไปเลย”
“งั้นป้าจะให้คนต้มมาให้ใหม่นะคะ”
“ครับ..”
“เจ็บมากหรือเปล่าคะ”
“หมายถึงตรงไหนครับ?”
ต้นน้ำมองหน้าของป้าแม่บ้าน สายตาที่เจ็บปวดนั้นทำให้แม่บ้านไม่ได้ถามอะไรต่อ ร่างกายที่เจ็บปวดอยู่ในตอนนี้มันไม่เท่ากับใจที่เจ็บเลย มันไม่ได้เสี้ยวนึงของความเจ็บจากคำพูดของเขาเลย
“ป้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ ว่าทำไมคุณเฟยหลงทำแบบนี้”
“เขาคงเกลียดผม ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณเฟยหยางต้องเข้าโรงพยาบาลมั้งครับ”
“คุณเฟยหยางร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว เจออะไรที่มันกระทบจิตใจเข้าหน่อยก็เป็นแบบนั้นแล้ว อย่าไปโทษตัวเองเลยนะคะ”
“แต่ยังไงผมก็มีส่วนอยู่ดี ผมรู้สึกผิดจังเลยครับป้า”
“ไม่เป็นอะไรนะคะ คุณเฟยหยางต้องเข้าใจค่ะ”
“ครับ”