ตอนที่ 2 ตายแล้วฟื้น
ในขณะที่เสือกล้ากำลังยืนไว้อาลัยให้กับเมียรัก ชายหนุ่มในหมู่บ้านต่างก็กำลังช่วยยกโลงศพของกลิ่นจันทร์ไปวางไว้กองฟืนขนาดใหญ่ เพียงพอที่จะเผาร่างอันไร้วิญญาณนั้น ให้มอดไหม้จนเหลือเพียงเถ้าถ่าน
พ่อหมอสิงห์ที่อยู่ในชุดพราหมณ์สีขาว กำลังพนมมือร่ายคาถาอะไรบางอย่างต่อหน้าศพ ในวินาทีนั้นลมก็พัดแรงราวกับกำลังจะมีพายุใหญ่ ต้นไม้โอนเอนตามทิศทางลม ใบไม้แห้งและฝุ่นลอยคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ จนชาวบ้านต่างก็ยกมือขึ้นมาปัดป้องด้วยความตื่นกลัว
“เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย หรือว่าจะเป็นอิทธิฤทธิ์ของผีเจ้าป่าเจ้าเขากำลังพิโรธ”
“ข้าว่าต้องใช่แน่ ๆ นังจันทร์มันต้องทำผิดผีอะไรบางอย่างแน่ ๆ”
“จะต้องมีคนตายอีกกี่ศพเพื่อสังเวยการพิโรธของท่านในครั้งนี้”
เสียงเซ็งแซ่ของชาวบ้านดังระงมเข้าหูเสือกล้า นั่นทำให้เจ้าตัวรู้สึกไม่พอใจ ที่แม้กลิ่นจันทร์จะตายไปแล้วแต่ทุกคนก็ยังใส่ความเมียรัก เขาไม่มีทางเชื่อว่าเจ้าหล่อนจะทำอะไรพวกนั้นได้ เพราะตั้งแต่อยู่กินกันมา กลิ่นจันทร์เป็นคนจิตใจดีอยู่ในศีลในธรรมมาโดยตลอด
“หุบปากเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นข้าจะปิดปากพวกเอ็งเอง”
“ใจเย็น ๆ ลูก อีกหน่อยพวกนั้นก็จะเลิกพูดกันไปเองล่ะ”
“เฮ้ย! รีบจุดไฟเร็ว” พ่อหมอสิงห์รีบตะโกนบอกเด็กหนุ่มที่ยืนรอรับคำสั่ง
ทั้งหมดช่วยกันจุดไฟใส่กระบอง แล้วนำไปจุดที่ฐานกองฟอน ทว่ายังเข้าไปไม่ถึง โลงศพที่อยู่บนยอดก็มีการสั่นคลอน ราวกับร่างที่อยู่ในนั้นต้องการจะออกมา
“เฮ้ย! พ่อหมอ มะ...มือ”
ชายวัยรุ่นผู้หนึ่งเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก เมื่อมือของกลิ่นจันทร์จับอยู่ที่ขอบโลง ชาวบ้านต่างก็ตกใจกลัวกันอย่างถ้วนหน้า บางส่วนรีบวิ่งหนีไป บางส่วนยังคงยืนตัวสั่นมอง เพราะอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“นังจันทร์มันตายแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมมือมันจับที่ขอบโลงได้ล่ะ”
“ตายไม่ทันไรเฮี้ยนซะแล้ว”
“เผ่นกันเถอะพวกมึง”
เสือกล้ายืนฟังเสียงชาวบ้านด้วยอาการนิ่งสงบ ตาก็มองไปยังโลงศพแทบไม่กะพริบ แทนที่จะกลัวเหมือนคนอื่นแต่เจ้าตัวกลับฉายรอยยิ้มออกมา กำลังจะสาวเท้าเข้าไปดูใกล้ ๆ ทว่าผู้เป็นแม่รีบคว้ามือเอาไว้
“เอ็งจะเข้าไปทำอะไร”
“ฉันจะเข้าไปหาจันทร์ไงจ๊ะแม่ จันทร์มันอาจจะฟื้นขึ้นมาแล้วก็ได้”
“คนตายแล้วฟื้นมันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน บางทีจันทร์มันอาจจะเป็นเหมือนอย่างที่ทุกคนบอกก็ได้นะ”
“แม่ก็เป็นเหมือนพวกนั้นหรือ แม่ไม่รักจันทร์มันแล้วหรือ”
“รัก...แต่มันตายไปแล้วนะกล้า ปล่อยมันไปสบายเถอะ ให้พ่อหมอทำพิธีต่อนะเชื่อแม่”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเสือกล้าก็ยอมอ่อนลง ยืนอยู่ที่เดิมทว่าสายตาคมกลับจ้องมองไปที่มือนั้นอย่างใจจดใจจ่อ
“พวกเอ็งจะกลัวอะไร นังจันทร์มันตายไปแล้ว” พ่อหมอสิงห์ตะโกนลั่นเมื่อเห็นทุกคนทำท่าตื่นกลัว ไม่กล้าเข้าไปใกล้
กึก!
“กรี๊ดดด!!! นังจันทร์มันลุกขึ้นมาแล้วววว!!!”
เมื่อเป็นเช่นนั้นทุกคนที่อยู่รายรอบก็เหมือนผึ้งแตกรัง วิ่งหนีกันกระเจิงคนละทิศคนละทาง ทว่าพ่อหมอสิงห์กลับยังคงยืนนิ่ง จ้องมองไปยังโลงศพนั้นอย่างไม่หวั่นกลัวเลยแม้แต่น้อย
ร่างของกลิ่นจันทร์ลุกขึ้นนั่งอยู่ในโลงศพ สีหน้าเธอเหมือนคนที่เพิ่งจะตื่นนอน ผิวกายอันซีดเซียวเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาจนเป็นปกติ แถมยังบิดขี้เกียจอีกต่างหาก
“จันทร์ฟื้นจริง ๆ จ้ะแม่ ฉันจะเข้าไปหาจันทร์” คราวนี้ไม่รอให้ผู้เป็นแม่ห้าม รีบวิ่งเข้าไปหาเมียรักพร้อมกับรอยยิ้ม ทว่าพอไปถึงกลับโดนมือของพ่อหมอสิงห์กั้นไม่ให้เข้า
“จันทร์เมียพี่”
“อย่าเข้าไป! นั่นไม่ใช่เมียเอ็ง”
“ไม่ใช่ได้ยังไงพ่อหมอ นั่นเมียฉัน ฉันจะเข้าไปหาจันทร์”
“เมียเอ็งตายไปแล้ว นั่นเป็นแค่วิญญาณของสัมภเวสีเร่ร่อนเข้าสิงร่างของเมียเอ็ง”
“ถึงจะใช่หรือไม่ใช่ ฉันก็จะเข้าไปหาเมียฉัน พ่อหมอไม่ต้องมายุ่ง”
คนที่กำลังนั่งอยู่ในโลงศพเริ่มได้สติ เธอเห็นผู้ชายรูปร่างกำยำสมส่วน ผิวสีแทน หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเป็นกระจับได้รูป กำลังเดินตรงเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม
“จันทร์เอ็งฟื้นแล้ว ข้าจะช่วยเอ็งลงมาเดี๋ยวนี้ล่ะ”