ตอนที่4(ภพรักที่ภูดาว)
ภูดาว…..คือชื่อหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ใจกลางระหว่างภูเขาสองลูกที่มีชื่อว่า ภูเขาภูและภูเขาดาวที่มีรูปร่างคล้ายดาวห้าแฉก ชาวบ้านจึงเรียกขานภูเขาสองลูกที่อยู่ใกล้กันว่าภูเขาภูดาว ที่หมู่บ้านแห่งนั่นร่ำลือกันว่ามีนายพรานเก่งกาจอยู่หลายนับสิบคน แต่นายพรานพวกนั้นไม่มีใครสามารถฆ่าเสือสมิงใหญ่ตัวนั้นได้เลยสักคน……ยิ่งมันได้กินนายพรานที่มีวิชาอาคมมากเพียงใด วิชาอาคมในตัวมันก็จะแกร่งกล้ามากขึ้นเท่านั้น…
เสือสมิง…เสืออาคม คือคนที่เล่นของคาถาอาคม ทั้งไสยเวท ไสยศาสตร์ มนต์ดำ คุณไสย ทำผิดครูและผิดกฏต้องห้ามจนวิชาเหล่านั้นเข้าตัวทำให้กลายเป็นสัตว์เดรัจฉาน มันจะปลอมแปลงเป็นมนุษย์ที่มันฆ่าได้ทุกคน มันจะกัดกินเลือดกินเนื้อของมนุษย์เพื่อเพิ่ม พละกำลังและพละกำลังคุณเวชของมันที่อยู่ในตัวให้แกร่งกล้าขึ้น
กระสุนธรรมดาทำอะไรมันไม่ได้ มันไม่ตาย เพราะหนังมันเหนียว มันมีของต่ำมากมายอยู่ในตัว
สองสิ่งที่จะฆ่ามันได้ก็คือ….กระสุนปลุกเสกจากคนที่มีคาถาอาคมแกร่งกล้า และมีดหมอปลุกเสกนั่นเอง
…………………………………………..
บ้านสวนคุณย่า นฤมล
เช้าวันต่อมา…..
09:00น.
“สวัสดีครับ…คุณย่า^_^”แดนไทยที่พร้อมออกเดินทางยกมือไหว้ลาคุณย่าของเขาอย่างเคารพ
“เดินทางปลอดภัย….แคล้วคลาดจากภัยอันตรายใดๆทั้งปวงนะหลานรัก^_^”หญิงชรายื่นมือไปกุมมือของหลานชายที่ยกมือไหว้ตนอยู่พลางเอ่ยอวยพรให้หลานสุดที่รัก
“ครับ….คุณย่า^_^”แดนไทยว่าเสร็จก็โผล่เข้ากอดคุณย่าของตนทันทีด้วยความรัก ย่าหลานกอดกันเนิ่นนาน นนท์ ฌอน คริส เพื่อนๆตำรวจของแดนไทยหันไปไหว้ลาคุณย่าของเพื่อนอย่างนอบน้อม
“สวัสดีจ๊ะเด็กๆๆเดินทางปลอดภัยคุณพระคุณเจ้าคุ้มครองกันทุกคนนะ^_^”หญิงชราเอ่ยให้พรแก่เพื่อนๆของหลานชาย หนุ่มหน้าตาดีทั้งสี่ยิ้มให้หญิงชราก่อนจะพากันแบกเป้ใบใหญ่คนละหนึ่งใบเดินออกมาจากบ้านสวนนฤมลมุ่งหน้าสู่ภูเขาภูดาวลูกใหญ่เบื้องหน้านั้น โดยมีหนุ่มใหญ่อายุสี่สิบกว่าๆชื่อพรานเท้าเป็นคนนำทางท่องเที่ยวป่าในครั้งนี้
“ผมโคตรตื่นเต้นเลยครับสารวัตร^_^”นนท์หนุ่มน้อยอายุยี่สิบแปดปีหน้าตาดีผิวขาวใสตามคนรักความสะอาดเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นแววตาของเขาเป็นประกายแวววาว
“ผมก็เหมือนกันครับ….ไม่คิดเลยว่าพักร้อนคราวนี้เราจะได้ท่องเที่ยวผจญภัย^_^”ตามด้วยฌอนหนุ่มตี๋หน้าตาหล่อเหลาตามสไตล์หนุ่มลูกครึ่งไทยจีนยิ้มร่าบอกผู้เป็นนายไปอย่างตื่นเต้นเช่นกัน
“กูก็เหมือนกันว่ะไอ้แดน….เที่ยวป่าครั้งนี้น่าจะโคตรตื่นเต้น^_^”ตามด้วยคริสหนุ่มตำรวจไฟแรงรุ่นราวคราวเดียวกันกับแดนไทยเอ่ยบอกเพื่อนไปพลางยกกล้องราคาแพงถ่ายวีดีโอการท่องเที่ยวป่าแห่งนี้ไปด้วย
“คุณๆทั้งสี่ครับ…ถึงป่าแห่งนี้จะเป็นป่าที่ไม่ได้น่ากลัวเหมือนสมัยก่อน…แต่เราควรทำความเคารพเจ้าป่าเจ้าเขาก่อนจะเข้าป่ากันนะครับ”เสียงทุ้มใหญ่ของชาวบ้านที่นี้ที่เป็นพรานนำทีมเอ่ยขึ้นทำให้หนุ่มๆทั้งสี่ที่ตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจกับผืนป่าใหญ่ในครั้งนี้หันไปมองพรานเท้าทันที
“เราต้องทำอย่างไงบ้างเหรอครับ…พรานเท้า?”แดนไทยเอ่ยถามพรานเท้าไปอย่างเคารพและเชื่อสิ่งที่พรานเสมอแนะเพราะเขาเติบโตอยู่กับพื้นป่ามาตลอดและเชื่อเรื่องเจ้าป่าเจ้าเขามากถึงเขาจะไม่เคยพบเห็นและพบเจอด้วยตัวเองก็ตาม
“จุดธูปขอขมาและบอกกล่าวครับ….”พรานเท้าว่าพลางยื่นมือลงไปในย่ามสีเหลืองของแกและหยิบห่อธูปออกมาและจัดการแจกจ่ายไปให้หนุ่มหล่อทั้งสี่คนคนละสิบหกดอก
“บอกไหว้กลางแจ้งจุดธูปสิบหกดอกครับ…แล้วทุกคนว่าตามผมนะครับ”พรานเท้าเอ่ยขึ้นที่จัดจ่ายธูปให้จนครบทุกคนแล้ว หนุ่มหล่อทั้งสี่ก็จัดการใช้ไฟแช็กแก๊สจุดธูปของตัวเองและหันไปมองหน้าพรานเท้าเพื่อเป็นสัญญาณว่าพวกเขาทั้งสี่คนพร้อมแล้ว พวกเขาทั้งห้าคนถือธูปมาพนมมือไหว้
“ข้าพเจ้าทั้งหลาย….ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีในการเข้าป่ามาในครั้งนี้….”พรานเท้าเอ่ยนำ
“ข้าพเจ้าทั้งหลาย….ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีในการเข้าป่ามาในครั้งนี้….”หนุ่มเมืองกรุงหน้าตาดีหล่อขาวตามฉบับผู้ชายสมัยใหม่ว่าตามพรานเท้า พรานเก่าแก่ประจำหมู่บ้านนี้
“อย่าโกรธอย่าแค้นลูกช้างทั้งหลาย….โปรดคุ้มครองข้าพเจ้าทุกๆคนให้ปลอดภัยด้วยเทอญ….สาธุ”พรานเท้าว่าเสร็จก็ปักก้านธูปลงไปบนดิน
“อย่าโกรธอย่าแค้นลูกช้างทั้งหลาย….โปรดคุ้มครองข้าพเจ้าทุกๆคนให้ปลอดภัยด้วยเทอญ….สาธุ”หนุ่มหล่อหน้าตาดีพูดเสร็จก็ทำตามพรานเท้า หนุ่มทั้งห้าคนบอกไหว้กล่าวเจ้าป่าเจ้าเขาเสร็จทั้งหมดก็พากันเดินเรียงแถวเข้าไปในป่าดิบชื้นแห่งนี้ตามสภาพภูมิอากาศของที่นี้ โดยมีพรานเท้าเดินนำหน้าและตามด้วยแดนไทย นนท์ ฌอนและคริสเป็นคนปิดท้าย
“พรานเท้าครับ…”
“ครับ….คุณแดน?”พรานเท้าเอ่ยขานรับแดนไทยแต่ไม่ได้หยุดฝีเท้าลงแต่อย่างใด ผืนป่าที่มีลูกหญ้าต้นเล็กต้นน้อยเพราะมีคนเดินเข้ามาดูแลอยู่จึงทำให้ผืนป่าแห่งนี้ไม่ได้รกหนาทึบแลดูน่ากลัวอะไรขนาดหนัก
“พวกผมอยากผูกห้างนอนเหมือนพรานล่าสัตว์ในสมัยก่อนบ้างจะได้ไหมครับ?”แดนไทยเอ่ยออกไปพลางมองหน้าพรานเท้าอย่างเกรงใจ พรานเท้ายิ้มกริ่มกับความคิดของแดนไทยหนุ่มตำรวจหน้าตาดีเข้าขั้นหล่อปานเทพบุตรผิวขาวใสละเอียดดูเจ้าสำอาง
“ได้แน่นอนครับ….แต่คืนนี้คงจะไม่ได้เพราะป่าที่เราจะผ่านไม่มีสัตว์ใหญ่มาให้เราดูแล้วตื่นเต้นเท่ากับในวันพรุ่งนี้หรอกครับ^_^”พรานเท้าว่า เพราะวันนี้เขาตั้งใจจะพานายจ้างจากเมืองหลวงทั้งหลายไปพักผ่อนนอนกางเต็นท์ที่ลำห้วยชายป่านู้นเพื่อให้คนกรุงพวกนี้นึกสนุกว่าเขาได้เข้ามาตั้งแคมป์กันจริงๆ
“หมายความว่าพรุ่งนี้พวกเราจะได้นอนห้างกันใช่ไหมครับ…คุณพรานเท้า^_^”นนท์เด็กหนุ่มหน้าใสเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น เขาเป็นคนที่อารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา พรานเท้ายิ้มกริ่มกับคำที่นนท์เรียกเขาอย่างให้เกียรติพรานจนๆแบบเขา
“ใช่แน่นอนครับ…คุณนนท์^\^”นนท์ยิ้มร่าพลางหันไปมองต้นไม้สีเขียวขจีต่ออย่างอารมณ์ดีพลางยิ้มไม่หุบอย่างกับคนบ้า ทำให้เขาโดนฌอนหนุ่มรุ่นพี่นึกว่าในใจ คริสที่มัวเมากับความสวยของวิวธรรมชาติไม่ได้สนใจว่าเพื่อนๆเขาคุยอะไรกัน หนุ่มทั้งห้าคนพากันเดินไปเรื่อยๆเหยียบย่ำต้นหญ้าเล็กน้อยไปตามป่าที่มีต้นไม้บางตาเพราะถูกตัดไม้ทำลายป่าไปหมด แต่พอสิ้นสุดลำห้วยด้านหน้านี้จะเข้าสู่ป่าของจริงนั่นก็คือ….ภูดาว….ในตำนาน…ที่เล่าขานว่าเป็นที่อาศัยของเสือผี