ตอนที่3(ภพรักที่ภูดาว)
เช้าวันต่อมา
บ้านสวนนฤมล….
พุทธศักราช2565…..
“เป็นยังไงบ้างครับ….คุณแดนไทย…”
“เมื่อคืนหลับสบายดีไหมครับ?”สนคนสวนของบ้านคุณย่านฤมลเอ่ยถามหลานชายเจ้าของบ้านไปอย่างห่วงใย ถึงที่บ้านสวนคุณย่าจะมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันแต่สนก็อดที่จะเป็นห่วงเจ้านายเมืองกรุงไม่ได้อยู่ดี เพราะที่นี้ยามค่ำคืนเงียบกริบกว่าเมืองกรุงที่เจ้านานของเขาอาศัยอยู่
“สบายสิครับ…น้าสน..”
“เมื่อก่อนผมก็อยู่ที่นี้มาก่อนนะครับ”แดนไทยว่าอย่างติดตลกพลางทอดสายตามองไปยังภูเขาเขียวขจีที่อยู่เบื้องหน้าของตน ระยะห่างจากที่เขายืนอยู่ไปถึงเขาลูกนั้นก็แค่หนึ่งกิโลเมตรแต่ทำไมเขารู้สึกเหมือนมันอยู่ไกลซะเหลือเกิน ที่แห่งนั้นถูกยกให้เป็นที่อนุรักษ์ของอุทยานสวนนฤมลน้อยคนที่จะได้รับสิทธิเข้าไป เพราะที่นั้นคุณย่าท่านที่เป็นเจ้าของหวงแหนมาก
“เมื่อก่อนที่ตรงนี้เขาเรียกว่าอะไรเหรอครับ…น้าสน”นายตำรวจหนุ่มเอ่ยถามไปอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะเขาไม่เคยสนใจที่ตรงนี้มาก่อนเลยไม่เคยได้หาข้อมูลอะไรเลยด้วยซ้ำไป
“ผมก็ไม่ค่อยรู้หรอกครับ…”
“ผมมาอยู่ที่นี้….ก็ตอนที่คุณแดนไทยไปเรียนต่อที่เมืองหลวงแล้วนะครับ”นายสนว่า แดนไทยจึงพยักหน้าเข้าใจเพราะนายสนอาจจะไม่รู้ประวัติความเป็นมา คนเดียวที่จะบอกเขาให้รู้เรื่องราวได้ทุกอย่างก็มีแต่คุณย่าของเขาเท่านั้น
“คุยอะไรกันอยู่จ๊ะ…หนุ่มๆ^_^”เสียงแหบแห้งของหญิงชราดังมาแต่ไกลทำให้แดนไทยละสายตาจากเขาภูดาวเบื้องหน้าไปมองยังหญิงชราที่เพิ่งเดินมาใหม่ทันที
พรึบ
“คุณย่าครับ…มาทำอะไรครับเนี่ย^_^”แดนไทยรีบวิ่งเข้าไปช่วยนวลแก้วพยุงร่างของคุณย่าของเขา ทั้งคู่ยิ้มให้กัน โดยที่นวลแก้วแอบพึงพอใจในรสสวาทที่แดนไทยหนุ่มตำรวจนายนี้มอบให้เธออย่างลุ่มหลงผิดกับแดนไทยที่มองเธอแค่คู่นอนชั่วคืนเท่านั้น
“มานั่งรับลมเย็นๆนะ^_^”หญิงชรานฤมลตอบแดนไทยหลานรักของตนไปในขณะที่แดนไทยพาร่างเล็กของหญิงชรามาหยุดที่ม้านั่งไม้ระแนงได้แล้ว
“ครับ….^_^”แดนไทยตอบรับคุณย่าพลางยิ้มละมุนที่มุมปาก เขามองตรงไปยังภูเขาภูดาวเบื้องหน้าของเขาต่อ
“เมื่อก่อนภูเขาภูดาวแห่งนั้นคงจะเขียวขจีและมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นรกทึบกว่าตอนนี้มากใช่ไหมครับคุณย่า…?”แดนไทยเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย ทำให้หญิงชรายิ้มกริ่มขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงเมื่อก่อน ตอนที่ยังไม่คนใจบาปแอบเข้ามาตัดต้นไม้ใหญ่ไปขายทำให้สัตว์ป่าน้อยใหญ่ไม่มีที่อยู่
“ใช่แล้ว….ภูดาวแห่งนั้น…ยังกับที่สรวงสวรรค์บนดินเลยล่ะหลาน^_^”
“ครับ….แล้วที่นี้เมื่อก่อนเคยเป็นหมู่บ้านด้วยรึเปล่าครับ?”แดนไทยเอ่ยถามไปทันที ทำให้หญิงชรานึกแปลกใจหันมามองหน้าหลานรักอย่างสงสัยแต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเธอรู้ว่าหลานชายเป็นตำรวจ เหตุการณ์แค่นี้เขาคงจะคาดเดาเองได้ไม่ยาก
“ใช่จ๊ะ….เมื่อก่อนที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านภูดาว^_^”
“แล้วคนในหมู่บ้านหายไปไหนกันหมดแล้วเหรอครับ?”แดนไทยถามต่อทันทีเขาทำสีหน้าเหมือนกับกำลงคาดคั้นสอบสวนนักโทษอยู่อย่างงั้นเลย
“ก็พอประเทศเริ่มเจริญเขาก็พากันแยกย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่นะสิจ๊ะ^_^”หญิงชราตอบมาพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อยให้กับหลานชายไป แดนไทยก็พยักหน้าเข้าใจ เขาสองจิตสองใจว่าจะถามเรื่องเกี่ยวกับความฝันของเขาดีไหม เขากลัวคุณย่าของเขาจะไม่เชื่อแต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาฝันถึงหมู่บ้านภูดาวแห่งนั้น
“หลานมีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าจ๊ะ?”
“คุยกับย่าได้นะ”หญิงชราว่าออกไปทันทีที่เธอเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของหลานชายที่เหมือนมีอะไรอยู่ภายในใจ แดนไทยจึงยิ้มน้อยๆให้หญิงชรา
“ผมฝันอีกแล้วครับ”
“ฝัน?”หญิงชราทวนคำพูดของหลานชายอย่างงุนงง สนและนวลแก้วที่ยืนฟังผู้เป็นนายคุยกับอยู่เงียบๆก็ทำสีหน้าแปลกใจขึ้นมาด้วย เมื่อคืนนี้นวลแก้วนอนอยู่กับแดนไทยตอนที่เขาฝันร้ายทำให้หล่อนรู้ได้ทันทีว่าที่แดนไทยสะดุ้งสุดตัวจนตื่นเมื่อคืนนี้เพราะเขาอาจจะฝันร้ายก็เป็นได้
“ฝันเรื่องหมู่บ้านภูดาว….เด็กผู้หญิงที่ชื่อร้อยดาว…”แดนไทยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิวราวกับเสียงกระซิบ มีคำถามมากมายที่อยู่ในใจเขา เขาอยากรู้ว่าเรื่องราวที่เขาฝันทุกครั้งที่มานอนบ้านคุณย่ามันคือเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนรึเปล่า หรือแค่ว่าที่นี้เป็นหมู่บ้านเก่าหมู่บ้านภูดาวทำให้เขาจึงเก็บไปฝันจนเป็นตุเป็นตะเป็นเรื่องเป็นราวได้มากขนาดนี้ แต่เหมือนเขากับร้อยดาวจะผูกพันกันยังไงยังงั้นเลย
“หลานยังฝันอยู่อีกเหรอ?”หญิงชราเอ่ยออกมาสีหน้าที่เคยยิ้มแย้มแจ่มใสก่อนหน้านี้ได้หายไปกลายเป็นสีหน้าตกใจแปลกใจและกังวลใจขึ้นมาแทน
“ทำไมคุณย่าถึงถามแบบนี้ล่ะครับ?”แดนไทยเอ่ยถามหญิงชราไปพลางเลิกคิ้วมองหน้าหญิงชราอย่างสงสัย เธอพูดเหมือนเธอรู้มาก่อนว่าเขาฝันเรื่องนี้ แดนไทยคิดในใจ
“หลานเคยเล่าให้ย่าฟัง….ตั้งนานมาแล้ว”หญิงชราว่าอย่างเป็นจริงเพราะหลานชายเคยเล่าเรื่องราวเรื่องนี้จนเป็นตุเป็นตะจนหญิงชราเองคิดว่าหลานชายอาจจะแค่จินตนาการไปตามประสาของเด็ก แต่ตอนนี้เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้วและความคิดของเขาก็ไม่ใช่เด็กเหมือนเมื่อสิบกว่าก่อนแล้ว
“ผมว่ามันแปลกๆ….เด็กผู้หญิงคนนั้น…มีตัวตนอยู่จริงรึเปล่าครับ?”
“ถ้าเธอเคยมีตัวตนอยู่จริงๆป่านนี้เธอก็คงจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วล่ะครับคุณแดนไทย^_^”นายสนคนสวนของบ้านเอ่ยออกมาอย่างขำขันทำให้ย่าหลานหันไปมองยังนายสนเป็นจุดเดียวทำให้นายสนยิ้มแหยๆออกมาที่แอบฟังเจ้านายคุยกัน
“จริงอย่างที่นายสนว่านะ….ที่ตรงนี้เคยเป็นหมู่บ้านเมื่อเกือบร้อยปีมาแล้ว….เด็กผู้หญิงคนนั้นก็คงจะโตจนแก่และตายไปตั้งนานแล้วล่ะหลานเอย…”
“เพราะย่าก็ไม่เคยได้ยินชื่อของเด็กผู้หญิงคนนี้มาก่อน….ทั้งๆที่ย่าก็อยู่ตรงนี้มาโดยตลอด”หญิงชราว่าไปตามจริง เพราะครอบครัวของเธอเองก็อาศัยอยู่ที่นี้พ่อแม่อยู่ที่หมู่บ้านภูดาวแห่งนี้ ทำให้แดนไทยที่ฟังความคุณย่าเขาเล่าเริ่มผ่อนใจลงบ้าง บางทีเขาอาจจะแค่เก็บไปจินตนาการแล้วฝันไปเองก็ได้ เกี่ยวกับเรื่องของเด็กผู้หญิงคนนั้น
“ว่าแต่หลานเถอะ….จะเข้าไปเที่ยวภูดาวเมื่อไหร่กันล่ะ…?”
“ย่าจะได้เตรียมของและอาหารให้^_^”หญิงชราว่าอย่างห่วงใย เพราะที่ภูดาวแห่งนั้นเป็นป่ากว้างใหญ่คนที่จะเข้าไปเที่ยวก็คงต้องนอนค้างคืนกันทั้งนั้น
“พรุ่งนี้เช้าครับ…วันนี้ตอนสายๆเพื่อนๆผมคงจะพากันมาถึงที่นี้ครับคุณย่า^_^”
“จ๊ะ….งั้นเดี๋ยวย่าขอตัวไปเตรียมอาหารไว้ให้หลานกับเพื่อนๆก่อนนะจ๊ะ^_^”
“ครับ…คุณย่า^\^”
“ว่าแต่จะไปค้างกี่คืนกันล่ะ?”
“สามวันสองคืนครับ^_^”
“จ๊ะ…..^_^”และหญิงชราก็ทำท่าลุกขึ้นยืนโดยมีแดนไทยหลานรักคอยช่วยพยุง
“หลานส่งย่าแค่นี้แหละจ๊ะ….เดี๋ยวที่เหลือให้นวลแก้วไปส่งย่าเอง^_^”
“ครับ…คุณย่า^_^”แดนไทยรับคำหญิงชราในขณะที่เขาพาร่างของหญิงชรามาถึงนวลแก้วพยาบาลสาวคนสวยแล้ว นวลแก้วยิ้มอย่างเอียงอายให้แดนไทย เขาก็ยิ้มหว่านเสน่ห์ตามสไตล์หนุ่มเจ้าสำราญให้หล่อนไปโดยที่เขาไม่ได้คิดจะจริงจังอะไร….