ตอนที่2(ภพรักที่ภูดาว)
ณ หมู่บ้าน ภูดาว
หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ติดกับชายป่ารกทึบประเทศเพื่อนบ้าน
พุทธศักราช2465
หมู่บ้านเล็กๆที่มีประชากรไม่ถึงหนึ่งร้อยคน ห้าสิบกว่าหลังคาเรือน ชาวบ้านที่นี้ทำอาชีพหาของป่าและสัตว์ป่ารวมไปถึงสมุนไพรนำไปขายในตลาดหมู่บ้านให้พ่อค้าคนกลาง
“ฮืฮๆๆๆๆๆๆ”
“แม่จ๋า….”
“พ่อจ๋า….”
“อย่าทิ้งข้าไป”เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของเด็กหญิงชาวบ้านที่เนื้อตัวมอมแมมเลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดคราบดิน นั่งกอดศพของชายหญิงคู่หนึ่งที่นอนตายอย่างสภาพศพสุดน่าเวทนา ลำกายของผู้ชายหายไปครึ่งท่อนล่างเหลือเพียงท่อนบน ส่วนร่างของหญิงสาวเหลือเพียงแต่ร่างกายท่อนศีรษะหายไป เเต่เสื้อผ้าที่นางสวมใส่ทำให้เด็กหญิงร้อยดาวผู้เป็นลูกสาวรู้ได้ทันทีว่าทั้งสองศพที่นอนตายอย่างน่าอนาถอยู่นี้เป็นพ่อแม่ของตนที่บอกว่าจะเข้าไปหาสมุนไพรในป่ามาให้เด็กหญิงร้อยดาวที่นอนป่วยเป็นไข้ป่ามาหลายวันได้กิน
“แล้วข้าจะอยู่กับใครล่ะจ๊ะ….พ่อจ๋า…แม่จ๋า….”เด็กหญิงร้อยดาวว่าพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นเอาหน้าซบลงไปบนหน้าอกของพ่อและแม่ของเธอสลับกัน ภาพของเด็กหญิงทำให้ชาวบ้านหมู่บ้านภูดาวต่างพากันสะเทือนใจกันไปตามๆกัน
“น่าสงสารอีดาวมันนะ…พ่อกับแม่ก็พากันมาโดนเสือกัดตายตอนที่มันยังเล็กแบบนี้น่ะ”
“ญาติผู้ใหญ่ก็ไม่หลงเหลือเลยสักคน”
“ไม่เป็นไร…อีดาว…ไปอยู่กับข้า…ข้าจะรับเลี้ยงเอ็งเป็นลูกบุญธรรม”เสียงแหบแห้งฟังดูทรงอำนาจจากชายชราอายุหกสิบปีกว่าๆที่ชาวบ้านต่างพากันรับเลือกให้เป็นผู้นำของหมู่บ้านหรือผู้ใหญ่บ้านนั่นเอง สมัยก่อนยังไม่มีเงินเดือนเหมือนสมัยนี้และหมู่บ้านแห่งนี้ก็ไม่ได้โชว์อยู่บนแผนที่ของประเทศและไม่ถึงการสำรวจด้วยซ้ำไป
“ใช่ผู้ใหญ่คงเอานังดาวไปเป็นลูกเถอะ”
“เพราะผู้ใหญ่คงก็ไม่มีลูกสาวมีแต่ลูกชาย”เสียงของชาวบ้านเอ่ยขึ้นต่างพากันเห็นด้วยที่ผู้ใหญ่คงจะนำนังดาวไปเป็นลูกบุญธรรม เพราะผู้ใหญ่คงเองก็มีลูกชายเพียงคนเดียวอายุก็ยี่สิบกว่าปีแล้ว รับเด็กหญิงเล็กๆไปคอยดูแลตอนที่ผู้ใหญ่และเมียผู้ใหญ่แก่เฒ่าเพราะเด็กผู้หญิงมักดูแลได้ดีกว่าเด็กผู้ชาย
“ฮืฮๆๆๆๆ”
“ไปจ๊ะ…นังดาว….ไปอยู่กับน้านะ^_^”นางศรีภรรยาของผู้ใหญ่คงเดินไปโอบไหล่เล็กของเด็กหญิงร้อยดาววัยสิบขวบที่ร้องไห้หน้าตาบวมแดงน้ำตาไหลอาบนองหน้าอย่างน่าสงสารพลางเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงใจดีอ่อนโยน
“ไม่…ข้าไม่ไป..”
“ข้าจะอยู่กับพ่อกับแม่”เด็กหญิงร้อยดาวขยับร่างเล็กของตนหนีจากการจับกุมของนางศรีและวิ่งไปกอดศพของผู้เป็นแม่แน่น ทำให้นางศรีหันไปมองหน้าผู้เป็นสามีอย่างเหนื่อยใจที่จะเกลี้ยกล่อมเด็กหญิงร้อยดาวให้ไปกับตน ผู้ใหญ่คงพยักหน้าให้นางศรีถอยห่างออกมาจากเด็กหญิงร้อยดาวและเรียกทุกคนให้ไปประชุมกันที่บ้านของตนเพื่อคิดหาวิธีที่จะกำจัดเสือใหญ่ตนนั้นที่เข้ามากัดกินชาวบ้านของหมู่บ้านภูดาวตายหลายนับสิบคน
“งานนี้พ่อให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะจ๊ะ”เสียงเข้มอย่างแน่วแน่ดังออกมาจากร่างสูงโปร่งรูปร่างกำยำสันทัดผิวแดงดำพร้อมกับร่างกายที่ยืนตรงอย่างมั่นใจในฝีมือและวิชาไสยเวชของตนเองที่เพิ่งจะไปฝึกร่ำเรียนมา
“พอๆอย่างเอ็งไม่มีทางเอาชนะไอ้เสือผีตนนั้นได้หรอก!”ผู้ใหญ่คงเอ่ยห้ามปรามผู้เป็นลูกชายพลางยกมือทำท่าให้เขานั่งลง นั่นทำให้ไอ้มั่นชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆถึงกับทำหน้าบูดเบี้ยวทันทีที่คนเป็นพ่อไม่เชื่อใจฝีมือของตนเอง
“ใช่…ข้าเห็นด้วย…เอ็งเพิ่งจะฝึกวิชาไสยเวชยังไม่ถึงไหน”
“ไม่มีทางที่เอ็งจะไปล่าไอ้เสือสมิงตนนั้นได้หรอก!”ชาวบ้านเอ่ยออกมาอย่างเห็นด้วยกับความคิดของผู้ใหญ่คง ทำให้ไอ้มั่นลูกชายเพียงคนเดียวของผู้ใหญ่คงหน้าบูดบึ้งหนักไปกว่าเดิม เขายกแขนขึ้นมากอดอกอย่างน้อยเนื้อต่ำใจที่ชาวบ้านต่างไม่เชื่อมั่นในฝีมือของเขาที่ไปฝึกร่ำเรียนวิชามาจากอาจารย์ไสยเวชทางฝั่งเพื่อนบ้านเชียวนะ
“มิดีเป็นเอ็งมากกว่าที่จะโดนมันล่าน่ะ!”พรานสันเอ่ยขึ้นบ้างทำให้ไอ้มั่นยิ่งหน้าคว่ำหนักไปกว่าเดิม เพราะพรานรุ่นพี่ที่ชื่อพรานสันเป็นพรานที่เก่งกาจ วิชาไสยเวชเข้มคลังมากรอยสักบนตัวของแกก็ดูน่าเกรงขาม ผิดกับไอ้มั่นที่มีรอยสักเพียงไม่กี่ทีเท่านั้นเองเพราะมันยังฝึกเรียนวิชาไปไม่ถึงไหนจริงๆนั่นแหละ
อีกด้านหนึ่งของหมู่บ้าน
ศพผัวเมียสองศพยังคงนอนส่งกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณแต่ไม่ได้ทำให้เด็กหญิงผู้เป็นลูกนึกรังเกียจเลย เธอร้องไห้หนักดั่งน้ำตาแทบจะออกเป็นสายเลือด ความแค้นในใจก่อตัวขึ้น เธอนึกแค้นไอ้เสือตัวนั้นที่มาพรากพ่อพรากแม่ไปจากเธอ
“ข้าจะนำคอเสือตัวนั้นมาเซ่นพ่อกับแม่ให้ได้จ๊ะ”เด็กหญิงว่าพลางมองตรงไปยังในป่าเบื้องหน้าแววตาของเธอแข็งกร้าวมือเล็กกำหมัดแน่นและทันใดนั้นเธอก็ต้องตกใจกับเสียงที่ขู่ร้องคำรามของเสือเจ้าป่า ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว คงได้เวลาออกลาของเสืออีกแล้วเธอว่าในใจ
โฮก ฮาก
“มาสิ…ไอ้เสือบ้า”เด็กหญิงร้องท้าทายออกไปอย่างไม่เกรงกลัวกับเสียงขู่คำรามที่ดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ ดังไปถึงที่ประชุมของชาวบ้านภูดาวแห่งนี้ด้วย
“พ่อจ๋า…”
“แม่จ๋า….”
“มันมาแล้วจ๊ะ”เด็กหญิงพลางมองฝ่าความมืดเข้าไป เธอพยายามเพ่งมองเท่าไหร่ก็ไม่เห็นร่างของเสือใหญ่ที่ส่งเสียงขู่คำรามดังมาเลย
“เดี๋ยวข้ามานะจ๊ะ”ร้อยดาวว่าพลางหันไปคลี่ยิ้มบางๆให้พ่อกับแม่ของเธอและลุกขึ้นยืนเดินดุุ่มๆเข้าไปในป่าภูดาวแห่งนี้เพื่อหาเจ้าเสือร้ายที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ของเธอด้วยความเครียดแค้นอย่างไม่นึกเกรงกลัว
โฮก ฮาก(เสียงคำรามของสัตว์)
“กรี๊ดดดดดดดดดด”เสียงกรีดร้องของเด็กหญิงร้อยดาวดังลั่นไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านภูดาวต่างตกใจรีบวิ่งมาดูเหตุการณ์แทบจะทันที
พรึบ
“ไม่น่ะ!”เสียงทุ้มตะโกนออกมาอย่างตกใจกับภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือ หน้าของเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่ที่หน้ามันใหญ่กว่าหน้าของควายโผล่เข้ามาตรงหน้าของเด็กหญิงร้อยดาวจนเขาเผลอร้องตะโกนห้ามเธอว่าอย่าเข้าไปหาเสือใหญ่ลายตัวนั้น แดนไทยสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝันของเขาทันที ฝันของเขามันเหมือนจริงมาก ความฝันซ้ำๆเรื่องเดิมๆกลับมาอีกแล้ว เรื่องของเด็กผู้หญิงร้อยดาวคนนั้น
ตุ๊บ
“เป็นอะไรไปคะ…คุณแดนไทย?”เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างนึกเป็นห่วงคู่นอนของหล่อน แดนไทยที่ผุดลุกขึ้นนั่งจากฝันร้ายด้วยความตกใจก็หันไปมองหน้าหญิงสาวแสนสวยที่นอนเปลือยกายอยู่ข้างเขาทันที ทำให้เขาโล่งใจไปหน่อยที่เขาแค่ฝันไป แต่ความฝันแบบนี้มันห่างหายจากเขาไปนานมากแล้วนะแต่ทำไมเขาถึงกลับมาฝันเรื่องเดิมๆเรื่องของเด็กผู้หญิงที่ร้องไห้กอดศพของพ่อกับแม่แบบนั้น
“ผมแค่ฝันร้ายนะครับ”แดนไทยเอ่ยบอกนวลแก้วไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพลางยิ้มบางๆให้เธอแน่ใจว่าเขาไม่เป็นอะไรจริงๆ
“งั้นนอนต่อนะคะ”นวลแก้วเอ่ยบอกหลานชายของเจ้านายหล่อนพลางค่อยๆเอื้อมแขนไปให้ชายหนุ่มโน้มตัวลงนอนบนที่นอนนุ่มๆเครื่องปรับอากาศยามค่ำคืนทำให้บรรยากาศในค่ำคืนนี้ที่ฝกตกหนักทำให้ชายหนุ่มเย็นยะเยือกเขาจึงเอื้อมมือไปกอดก่ายร่างเปลือยของหญิงสาวและแนบชิดร่างของเธอให้เข้ามาซบอกแกร่งของเขาให้แน่นขึ้นและเขาก็ข่มตาให้หลับตาลงในค่ำคืนนี้……