บทที่ 6 ลองดู
“คุณเอาชนะฉันไม่ได้หรอกคุณไชยวัฒน์เอ๋ย คิดว่าฉันเป็นลูกน้องคุณรึไงถึงต้องทำตามคำสั่งคุณ”
หล่อนฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์แต่เพียงครู่เดียวเสียงรถก็แล่นเข้ามาใกล้และแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านพักอย่างรวดเร็ว
คนขับเปิดประตูก้าวลงมา ใบหน้าบึ้ง เขาเดินตรงมาที่บันไดก้าวฉับ ๆ ขึ้นมาและมือแข็งแรงคว้าหมับที่ข้อมือขาวสะอาดของหล่อนพร้อมกับออกแรงดึงจนร่างบางของหล่อนเซถลาตามลงบันไดไป…
“คุณ..ปล่อยฉันนะ ฉันเดินเองได้”
“ทีอย่างนี้มาร้อง ทำไมเมื่อกี้ไม่ไปกับหลอง ผมให้หลองมารับคุณปฏิเสธทำไม”
“ก็ฉันไม่หิวนี่”
ทันทีที่หล่อนบอกไม่หิวท้องร้องประท้วงเสียงดัง หล่อนรีบยกมือกุมท้องทันทีแต่มันก็ไม่ยอมหยุดร้องไชยวัฒน์หัวเราะพร้อมกับเปิดประตูรถให้หล่อน
“เชิญครับ ถึงปากคุณไม่หิวแต่ท้องคุณมันฟ้องผม”
เขารอให้หล่อนเข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้วจึงอ้อมไปทางด้านคนขับ เขาเหลียวมามองหน้าหล่อนแวบหนึ่งก่อนจะออกรถและไม่ยอมพูดกับหล่อนจนกระทั่งถึงบ้าน หล่อนเปิดประตูก้าวลงมายืน เขาพยักหน้าให้ขึ้นบนบ้าน บ้านที่เขาบอกว่าเป็นบ้านใหญ่ หลังใหญ่จริงๆ มีหลังเล็กยื่นออกไปทางตะวันออกอีกหนึ่งหลังซึ่งมีทางเดินถึงกัน
“อินทุ์ ทางนี้จ้ะ”
พอก้าวพ้นประตูไม้เสียงกัลยาดังขึ้นพร้อมกับร่างของเจ้าของเสียงวิ่งออกมารับ
“พี่นึกว่าอินทุ์ไม่ยอมมาเสียอีก”
“ทำไมต้องมาด้วยคะพี่กัล แขกที่มาพักที่นี่ต้องมาทานข้าวกับเจ้าของรีสอร์ททุกคนเลยเหรอคะ”
หล่อนพูดกับกัลยาแต่สายตามองไปที่ไชยวัฒน์ เขาเหลือบมองหล่อนนิดหนึ่งแล้วเดินเข้าไปที่โต๊ะอาหารซึ่งมีชายวัยกลางคนนั่งรออยู่ อีกคนอยู่ในวัยเดียวกับฉลองคงจะเป็นธาตรี กัลยาจูงมืออรอินทุ์ไปนั่งข้างหล่อนแล้วแนะนำทุกคนให้หล่อนรู้จัก
“อินทุ์จ๊ะ นี่คุณอาพรพจน์ เป็นคุณอาของพี่กับพี่ไชย อาพจน์เป็นน้องชายพ่อพี่จ้ะ”
“สวัสดีค่ะ”
“หวัดดีครับ ตามสบายนะหนู”
“ขอบคุณค่ะ”
“แล้วนี่พี่ธาตรี ผู้ช่วยคนสนิทของพี่ไชยวัฒน์แล้วก็พี่ฉลองคนดูแลรีสอร์ทช่วยพี่จ้ะ ถ้างานฟาร์มยุ่งพี่หลองก็โดดมาช่วย ส่วนพี่ถ้าบัญชีทางฟาร์มไม่ลงตัวพี่ก็เข้ามาช่วย เราช่วยทางโน้นทางนี้วุ่นวายดี”
หญิงสาวยกมือไหว้ตามที่กัลยาแนะนำ ธาตรีมองหน้าหล่อนแล้วเอ่ยขึ้น
“คุณอรอินทุ์จะพักที่รีสอร์ทเรากี่วันครับ เห็นกัลบอกว่าคุณอยู่เป็นอาทิตย์”
“ตอนแรกก็คิดอย่างนั้นค่ะแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว พรุ่งนี้จะย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่ เจ้าของเขาไม่ยินดีให้อยู่อินทุ์ไม่หน้าด้านอยู่หรอกค่ะ”
ทุกคนหันมามองไชยวัฒน์พร้อมกัน พรพจน์อมยิ้ม ธาตรีหันกลับไปมองกัลยาและฉลองแล้วก้มหน้ายิ้ม เจ้าของฟาร์มหนุ่มขยับตัวแล้วเอ่ยเสียงเรียบ
“ทานข้าวกันได้แล้ว เสียเวลารอแขกพิเศษเกือบชั่วโมงกับข้าวเย็นชืดหมด”
อรอินทุ์หันมามองคนพูดทันที สายตาขุ่นขึ้นมาฉับพลัน ทุกคนเห็นเหมือนๆ กันและเริ่มสังเกตเจ้าของฟาร์มกับแขกสาวที่เข้ามาพักรีสอร์ทไชยอาชาว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร
พรพจน์มองหน้าหลานชายสลับกับหญิงสาวที่เพิ่งก้าวเข้ามาในอาณาจักรของไชยอาชา ท่านมองเห็นความสุขความสดชื่นของหลานชายลาง ๆ แล้วละ และแอบดีใจไม่ได้ถ้าวันข้างหน้าไชยวัฒน์จะเปลี่ยนตัวเจ้าสาวจากรังสิมา มาเป็นอรอินทุ์คนนี้
“อาว่าอย่าเพิ่งเถียงกันเลย ทานข้าวก่อนเถอะหนู ลองชิมฝีมือป้าเนียมแม่บ้านของเราว่าอร่อยสู้แม่ค้าในกรุงเทพฯได้หรือเปล่า ลงมือเลยลูก”
อรอินทุ์ยิ้มอย่างรู้สึกผิด เพิ่งนึกได้ว่าที่นี่มีผู้ใหญ่นั่งอยู่ด้วย แต่ก็อดโมโหชายหนุ่มเจ้าของฟาร์มเจ้าของรีสอร์ทไม่ได้ เขากวนประสาทหล่อนจนอยากยกถ้วยแกงสาดหน้าเข้ม ๆ รอยยิ้มยั่วนั่นนัก
กัลยาชวนคุยไปเรื่อยๆ อรอินทุ์จึงค่อยคลายความโกรธลงได้บ้าง หล่อนคิดว่าไชยวัฒน์คือชายหนุ่มที่น่ารักน่าอยู่ใกล้เหมือนที่เห็นในจอทีวีแต่ทำไมมาเจอตัวจริงเขาถึงได้ปากจัดและเผด็จการกับหล่อนอย่างนี้ หล่อนไม่สนใจเขาแล้วละ แต่อีกใจก็ค้านเสียงแข็งว่าชอบเขา ชอบผู้ชายปากจัดแบบนี้
“ถอนใจทำไมอินทุ์ ง่วงนอนแล้วเหรอ”
กัลยาจ้องหน้าอรอินทุ์เพราะได้ยินเสียงถอนหายใจของหล่อนหลายครั้งหลังรับประทานอาหารเสร็จ
“เปล่าค่ะ ยังไม่ง่วง”
“แต่อาว่าไปส่งหนูอินทุ์ได้แล้วมั้งจะได้พักผ่อนพรุ่งนี้ทางรีสอร์ทมีทัวร์ด้วยไม่ใช่เหรอกัล” พรพจน์เอ่ยขึ้น กัลยาพยักหน้ารับ
“ค่ะอา พรุ่งนี้เราจะพาแขกที่มาพักรีสอร์ทไปเที่ยวน้ำตกแล้วก็หาซื้อของ อินทุ์ตื่นเช้า ๆ นะจะได้เห็นดวงตะวันโผล่ทางทิวเขาด้วย สวยมากนะ”
“ค่ะ..อินทุ์ตื่นเช้าแน่ค่ะเพราะต้องรีบออกไปจากที่นี่ขืนชักช้าเจ้าของรีสอร์ทมาไล่อีกอินทุ์เสียหน้าแย่ค่ะ”
“พี่ว่าอินทุ์อย่าไปถือพี่ไชยเลยนะ พี่แกเป็นอย่างนี้แหละ”
ธาตรีแทรกขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเห็นไชยวัฒน์เป็นอย่างนี้มาก่อน ทุกคนพยักหน้ากับคำพูดของเขาและงงพอ ๆ กับธาตรี
“อาว่าตรีไปส่งหนูอินทุ์ได้แล้วมั้ง จะได้พักผ่อน”
“ครับ”
อรอินทุ์ยิ้มอดเหลียวมองไปรอบๆ ไม่ได้ พรพจน์เดาออกว่า อรอินทุ์มองหาใครจึงพูดพร้อมยิ้มบาง ๆ
“ไม่ต้องรอตาไชยหรอกป่านนี้อาบน้ำหลับไปแล้ว วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน”