บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 ฟอร์ยู พีรพัฒน์

ฟอร์ยู พีรพัฒน์

บ้านเรืองพาณิชยากุล

พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลได้สามวัน หญิงสาวก็ได้รับอนุญาตให้กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้านได้ โดยที่พัฒน์พงษ์ได้จ้างพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลหญิงสาวในระยะนี้ตลอดเวลาหนึ่งเดือน

“มาแล้วหลานชายลุง คงจะตั้งใจปั้นน่าดูสิท่า หน้าถึงได้ออกมาเหมือนพ่อยังกับแกะ ไม่ต้องสืบยากเลยว่าลูกใคร เด็กชายพีรพัฒน์ เรืองพาณิชยากุล น้องฟอร์ยู มีทั้งชื่อพ่อและแม่รวมอยู่ด้วยกันเลย เพราะมากแถมความหมายดีอีกต่างหาก ใครเป็นคนตั้งให้เหรอ ที่แน่ๆ พี่ว่าคงไม่ใช่แกแน่ตาพีท...” พงศกรแซวขึ้นมาทันที ที่ได้เห็นหน้าหลานชายคนแรกของบ้าน แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นสมุดและเอกสารต่างๆเกี่ยวกับหลานชายคนแรกของเขา จึงได้ถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดู แล้วพูดแซวน้องชายออกมาทันที

“อ้าว ทำไมผมจะตั้งชื่อให้ลูกไม่ได้ละครับ...” พจีพัฒน์กรอกตามองมาที่พี่ชายทันที เมื่อถูกดูเหมิ่นขนาดนี้

“เพราะพี่คิดว่า แกไม่น่าจะใช่คนคิดเรื่องอะไรพวกนี้เป็นแน่นอน...” พงศกรพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ เพราะตั้งแต่ที่พีรดาตั้งท้อง พจีพัฒน์ไม่แม้แต่จะสนใจ หรือเอาใจใส่เสียด้วยซ้ำ

“พี่ก็ดูถูกผมมากเกินไปแล้วพี่เพชร...” พจีพัฒน์พูดขึ้นมาทันที

“หริ่งขออุ้มลูกบ้างได้ไหมค่ะ...” พีรดาพูดขึ้นมาบ้าง โดยไม่สนใจสองพี่น้องที่กำลังโต้เถียงกันอยู่ เพราะตั้งแต่ที่เธอคลอดลูกออกมา นิษฐาก็เอาแต่อุ้มลูกของเธอไว้ตลอด จะเอามาให้เธออุ้มแค่ตอนให้นมลูกเพียงเท่านั้น นับครั้งได้ในแต่ละวัน

“จะอุ้มทำไม...เดี๋ยวก็เจ็บแผลหรอก รอให้หายดีก่อน ตอนนี้ฉันจะเป็นคนเลี้ยงฟอร์ยูเอง” นิษฐาพูดออกมาอย่างไม่รู้สนใจใครทั้งนั้น

“คุณแม่ครับ...ลูกเขามีพ่อมีแม่น่ะครับ คุณแม่จะมายึดลูกเขาไปแบบนี้ไม่ได้นะครับ” พงศกรจึงพูดขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นว่าแม่ของเขา ห่วงหลานจนไม่อยากให้แม้แต่แม่ก็ยังไม่ให้อุ้ม

“ทำไม ก็นี้มันหลานชายคนแรกของแม่น่ะ” นิษฐาแย้งขึ้นมาทันที

“หยุดเถียงกันเถอะครับ ลูกผม ผมขอ...” พจีพัฒน์ เมื่อเห็นว่าทุกคนเริ่มเถียงกันวุ่นวายเรื่องลูกของเขา จึงได้ห้ามขึ้น พร้อมกับกำลังจะเอ่ยขอจากแม่

“ดูแลเมียแกไปสิ” นิษฐาพูดออกมาโดยไม่หันไปมองลูกชายเลยแม้แต่น้อย เพราะมัวแต่หยอกล้อกับหลานอยู่

“คุณนายค่ะ...” พีรดาเรียกนิษฐาขึ้นมา เพราะจะขออุ้มลูกบ้าง หญิงสาวยังคงเรียกนิษฐาไม่ได้เปลี่ยนคำเรียกแต่อย่างใด เพราะนิษฐาไม่อนุญาตให้แต่เรียกคำอื่น

“คุณ...คืนลูกให้พ่อกับแม่เขาไปเถอะ เรามีเวลาตั้งเยอะที่จะเลี้ยงหลานน่ะ รอให้ตาพีทกับหนูหริ่งไปเรียนก่อน แล้วเราค่อยเลี้ยงก็ได้นี้” พัฒน์พงษ์จึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นอาการเห่อหลานของภรรยา ที่ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ แม้แต่กระทั้งพ่อกับแม่ของหลาน

“ก็ได้ค่ะ ห้ามทำหลานฉันร้องก็แล้วกัน ตาพีท มาอุ้มลูกไปกินนมได้แล้ว” นิษฐาจึงจำต้องยอม เมื่อสามีพูดดังนั้น และเรียกลูกชายให้มาอุ้มเอาลูกจากเธอแทน

“อุ้มแบบไหนล่ะครับ” พจีพัฒน์ที่ไม่เคยได้อุ้ม พูดขึ้นมาทันที เพราะไม่กล้าอุ้มกลัวว่าจะทำหลุดมือเข้า

“ก็หัดไว้สิไอ้ลูกโง่...” พัฒน์พงษ์ต่อว่าลูกชายออกมาทันที

“หริ่งอุ้มเองดีกว่าน่ะค่ะ” พีรดาจึงขออาสาจะอุ้มลูกเอง

“ไม่ต้อง!...เดี๋ยวเจ็บแผลเอา” พจีพัฒน์ห้ามเอาไว้เสียก่อน

“ไม่ต้องเถียงกันเลย เอามานี้ พ่ออุ้มเอง ส่วนแกตาพีท พาเมียขึ้นห้องไปพักผ่อน เดี๋ยวพ่อจะอุ้มหลานไปส่งเอง” พัฒน์พงษ์จึงเป็นคนไปอุ้มเอาหลานเอง แล้วหันไปสั่งลูกชายทันที

“หริ่งขออยู่ที่เดิม...” พีรดารีบเอ่ยขอ เพราะเธออยากอยู่ที่ห้องเดิมของเธอ

“ไม่ได้...ฉันพังประตูเสียยังไม่ได้ซ่อม” พจีพัฒน์แย้งขึ้นมา แล้วเอ่ยบอกเหตุผลออกไป

“หนูหริ่งต่อไปก็อยู่ที่บ้านหลังนี้แหล่ะ พ่อทำห้องให้ใหม่ เตรียมเอาไว้เพื่อหนูกับหลานโดยเฉพาะเลยน่ะ” พัฒน์พงษ์จึงบอกให้พีรดาอยู่ที่นี่กับลูก

“แต่...”

“พูดมากน่ะเธอ มานี้...” พจีพัฒน์เดินเข้าไปใกล้กับหญิงสาว เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มต่อกลอนมาก แล้วช้อนเธอขึ้นมาในท่าเจ้าสาวทันที

“นี้...จะอุ้มหริ่งทำไมกันคนตั้งงเยอะแยะ อายเขา” หญิงสาวตาลุกวาว แล้วรีบเอาแขนคล้องคอชายหนุ่มไว้เพราะกลัวตก และต่อว่าร่างสูงออกมาที่อุ้มเธอต่อหน้าคนตั้งมากมาย

“แล้วคิดว่าตัวเองเดินขึ้นบันไดไหวไหม” พจีพัฒน์จ้องมอง แล้วพูดประชดขึ้นมาทันที

“แล้วคุณจะพาหริ่งตกบันไดไหม” พีรดาสวนขึ้นมาอย่างไม่ยอมแพ้

“หนักกว่านี้ ก็อุ้มมาแล้ว” พจีพัฒน์พูดแล้วก้อุ้มหญิงสาวเดินขึ้นชั้นบนไปทันที

เมื่ออุ้มหญิงสาวมาถึงที่ห้องกว้างใหญ่ที่พ่อได้เตรียมไว้ให้ พจีพัฒน์วางเธอลงบนที่นอนกว้างอย่างช้าๆ แล้วเดินออกไปดูที่ด้านนอกว่าพ่อจะอุ้มลูกของเขาขึ้นมาส่งตอนไหน

“พ่อจะให้เลี้ยงกันเองไปก่อน 3 เดือนนี้ ก่อนมหาลัยจะเปิด และหลังจากที่พวกลูกไปเรียนกัน พ่อกับแม่จะเลี้ยงต่อเอง จะเข้าเรียนกันแล้วก็เตรียมตัวด้วย หรือจะออกไปอยู่ข้างนอกพ่อจะได้ซื้อคอนโดให้เพื่อจะได้เอาเวลาไปทุ่มกับการเรียนได้อย่างเต็มที่” พัฒน์พงษ์ส่งลูกให้แก่พีรดา แล้วพูดกับทั้งสองขึ้นมาทันที

“หริ่งขออยู่ที่นี่กับลูกได้ไหมค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขอขึ้นมาทันที เพราะเธออยากอยู่ใกล้ๆกับลูก ให้ได้มากที่สุดในตอนนี้

“ไปอยู่ข้างนอกนี้แหล่ะ หยุดเสาร์-อาทิตย์ค่อยกลับมาหาลูกก็ได้” พจีพัฒน์จึงพูดสวนขึ้นมา

“แต่หริ่ง” หญิงสาวกำลังจะหาข้ออ้างมาโต้แย้ง แต่ก็ถูกพจีพัฒน์ขัดขึ้นมาเสียก่อน

“ถายใน 4 ปีนี้ เธอมีสิทธิ์คิดแค่เรื่องเดียว คือเรื่องเรียน สมองทื่อๆอย่างเธอจะเอาเวลาไหนไปอ่านหนังสือถ้าอยู่ที่นี่ ส่วนเรื่องลูกพ่อก็บอกอยู่ไงว่าจะดูแลให้” ชายหนุ่มพูดแทรกหญิงสาวขึ้นมา แล้วบอกเหตุผลออกไปเพื่อให้หญิงสาวได้สบายใจ

“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้แหละ ไหนๆก็เรียนที่เดียวกัน อยู่คณะเดียวกันสาขาเดียวแล้ว ก็ซื้อคอนโดหลังเดียวพอ ตาพีทก็ช่วยติวให้เมียด้วย จะได้จบพร้อมกัน” พัฒน์พงษ์จึงด่วนสรุปทันที แล้วหันมาสั่งลูกชายต่อ

“หนูหริ่งพักผ่อนเถอะ ส่วนแกก็กลับไปห้องตัวเองได้แล้ว ลูกกับเมียต้องการพักผ่อน” พัฒน์พงษ์จึงเอ่ยบอกหญิงสาว แล้วหันมาพูดกับลูกชายให้ออกไป

“พ่อครับ...นี้ลูกผมน่ะ”

“ไม่ต้องบอก ใครก็รู้หน้าเหมือนกันยังกับแกะ เอาแต่ความฉลาดมาก็พอนะครับฟอร์ยู อย่าเอานิสัยหัวรั้นของพ่อมาใช้เลย ปู่ไปแล้วนะครับ” พัฒน์พงษ์แซวลูกชายออกไป แล้วหันมาหยอกล้อกับหลานชาย ก่อนจะออกจากห้องไป

“อะไร ขำอะไร” เสียงเข้มตวาดขึ้นมาทันที เมื่อพ่อออกจากห้องไปแล้ว แต่เห็นใบหน้าหญิงสาวหัวเราะเยาะเขาอยู่

“โอ้ยยย ซีด” หญิงสาวร้องซีดปากขึ้นมาทันที เมื่อขยับร่างกาย กำลังจะวางลูกลงนอน

“สมน้ำหน้า” พจีพัฒน์ซ้ำเติมหญิงสาวออกมาทันที แต่ก็เข้าไปช่วยหญิงสาวจัดท่าทางให้ลูกได้นอนสบายอยู่ดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel