ตอนที่ 9 นักศึกษาใหม่
นักศึกษาใหม่
สามเดือนต่อมา
ณ คอนโดฯหรูใจกลางเมืองกรุง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยที่ทั้งคู่ได้ศึกษาอยู่ในตอนนนี้ และทั้งคู่ก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่คอนโดฯเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อนหน้านี้แล้ว พัฒน์พงษ์พ่อของชายหนุ่มเลือกคอนโดฯแห่งนี้ให้ ก็เพื่อที่จะได้สะดวกต่อการเดินทางมากขึ้น และอยากให้ทั้งคู่ทุ่มเทให้กับการเรียนเพียงอย่างเดียว
“เสร็จยัง ยัยเปีย นี้เปิดเรียนวันแรกน่ะ ไม่มีความพร้อมเอาเสียเลย” เสียงบ่นออกมา เมื่อออกมานั่งรอหญิงสาวอยู่ที่โซฟากลางห้องรับแขก
หญิงสาวในเสื้อนักศึกษากับกระโปรงทรงเอรัดรูปเพียงเล็กน้อย เพราะอาการอวบจากการมีลูกของเธอ และชุดนักศึกษาได้เตรียมไว้ตั้งแต่ที่เธอยังไม่ท้องแล้ว เธอไม่อยากซื้อใหม่ เพราะว่าชุดนี้ก็ยังไม่เคยได้ใส่เสียด้วยซ้ำ
หญิงสาวเดินออกมาจากห้องของเธอ ซึ่งเธอกับเขาก็นอนกันคนละห้อง เพราะว่าทั้งคู่ก็ไม่ได้รักกัน ก็แค่อยู่กันในฐานะคนที่มีใบทะเบียนสมรส และพ่อกับแม่ของลูกเพียงแค่นั้น
“เสร็จแล้ว เลิกเรียกยัยเปียได้แล้ว หริ่งไม่ได้เปียผมแล้วนะ ดูสิ” ร่างอวบอิ่มหมุนตัวให้ร่างสูงที่นั่งอยู่โซฟาดู พร้อมกับสยายผมที่ปล่อยตรงยาวลงมาปรกหลังไม่ได้รวบมัดอะไรเลย
ร่างสูงนั่งมองตาค้างทันที ที่ได้เห็นรูปร่างของหญิงสาวตอนนี้ ที่อวบอิ่มเต็มไปด้วยเนื้อหนัง พร้อมกับผิวพรรณที่ดูเปล่งปลั่งขึ้นมาจากเดิมมาก แถมกลิ่นหอมอ่อนๆของผมที่โชยมาแตะที่จมูกอีกต่างหาก *พูดได้เลยว่าเมียเขาตอนนี้ไม่มีที่ติเลย ต่างจากเด็กสาวมัธยมลุคผมเปียเมื่อก่อนมาก*
“เสร็จ ก็ไปได้แล้ว” ร่างสูงตั้งสติได้เอ่ยเสียงต่ำขึ้นบอก แล้วลุกขึ้นเดินนำหน้าออกจากห้องไปทันที เพราะเก็บอาการเอาไว้
“เดี๋ยว...หริ่งไปเองก็ได้” หญิงสาวพูดขึ้นบอกทันที ที่เดินลงมาถึงรถของชายหนุ่มที่จอดอยู่
“พ่อสั่งไว้ว่ายังไง” เสียงเข้มพูดขึ้นมา พร้อมกับเอาพ่อขึ้นมาอ้างทันที
“...” หญิงสาวจึงได้แต่จำยอมทำตามที่ชายหนุ่มบอก เปิดประตูเข้าไปในรถอย่างเงียบๆ
พัฒน์พงษ์ได้สั่งการทั้งคู่เอาไว้ เมื่อออกมาอยู่กันตามลำพัง ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ห้ามทะเลาะ หรือมีปัญหากัน หากว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเกี่ยวกับทั้งคู่ขึ้นมา พัฒน์พงษ์จะขายคอนโดฯนี้ทิ้งทันที แล้วให้ทั้งคู่กลับไปอยู่ที่บ้านคืน และจะไม่อนุญาตให้ทั้งได้จดทะเบียนหย่ากัน นอกเสียจากจะตายจากกันไป เหตุนี้เองทั้งคู่เลยไม่กล้าขัดคำสั่งผู้อาวุโสของบ้าน
แต่ตั้งแต่ที่พีรดาคลอดลูกในวันนั้น หญิงสาวขอพบกับพัฒน์พงษ์เป็นการส่วนตัว เพื่อขอแลกเปลี่ยนเงื่อนไขและข้อตกลงอะไรบางอย่างหลังจากที่หย่าขาดจากพจีพัฒน์
ส่วนพจีพัฒน์ก็แอบมาคุยเรื่องข้อตกลงกับพ่อเป็นการส่วนตัวเหมือนกัน หลังจากที่ได้เจอหน้าลูกเป็นครั้งแรก ความรู้สึกและอะไรในหลายๆอย่างได้เปลี่ยนความคิดของเขาไปมากทันที
มหาวิทยาลัยเอกชน KK (นามสมมุติ)
พีรดาเดินเข้าไปในมหาลัยอันกว้างใหญ่ในพื้นที่มหาศาล โดยมุงหน้าตรงเข้าไปยังตึกที่ตัวเองจะต้องศึกษา เมื่อมาถึงมหาวิทยาลัยพจีพัฒน์ได้จอดให้เธอลงอยู่หน้ามหาวิทยาลัยแทน แล้วเจ้าตัวก็ขับรถเข้าไปจอดที่ด้านใน เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าทั้งคู่มาด้วยกัน
“หรีดหริ่ง...หริ่งจริงๆด้วย” ไลลาเรียกขึ้น เมื่อเห็นหญิงสาวที่มีใบหน้าเหมือนกับเพื่อนสนิทของเธอที่หายการติดต่อไปตั้งหนึ่งปี ถึงรูปลักษณ์ภายนอกของหญิงสาวจะเป็นไปมาก แต่เธอจำคนไม่ผิดแน่ๆ และกำลังเดินมาที่ตึกที่เธอนั่งอยู่กับแฟนหนุ่ม
“ไลลา” พีรดาหันไปตามเสียงเรียกชื่อเธอทันที เพราะคิดว่าคงไม่มีใครบังเอิญชื่อเหมือนเธอหรอก กลับต้องตกใจเล็กน้อยที่ได้เจอกันที่นี่ตั้งแต่วันแรกที่มาเลย
“ไปทำอะไรมา สวยขึ้นมากเลย” ไลลาลุกขึ้นเดินเข้าไปหา แล้วเอ่ยชมขึ้นมาทันที เพราะเพื่อนของเธอเปลี่ยนไปมาก แถมสไตล์การแต่งตัวก็ไม่เหมือนเดิมอีก
“ก็...” หญิงสาวไม่รู้จะตอบเพื่อนว่าอย่างไร ได้แต่อ้ำอึ้งไม่กล้าพูด และไม่รู้จะเริ่มอธิบายจากตรงไหนก่อนดี
“เรียนสาขานี้เหรอ” ไลลาถามขึ้นมาอีก เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเดินมาที่ตึกนี้ คงจะเรียนสาขาเดียวกันกับเธอแน่ๆ
“อื้ม...” พีรดาพยักหน้ารับ เชิงเป็นคำตอบยืนยัน
“ใครเหรอไลลา” ธันวา รุ่นพี่ปี 3 และทั้งยังเป็นแฟนหนุ่มของไลลาที่พึ่งจะคบหาดูใจกันได้ไม่นานมานี้เอง ถามหญิงสาวขึ้นเมื่อเห็นแฟนสาวยืนคุยอยู่นานสองนาน
“อ่อ เพื่อนร่วมห้องที่โรงเรียนเดิมน่ะ ชื่อหรีดหริ่ง” ไลลาตอบแฟนหนุ่มออกไปตามตรง
“พึ่งมาเรียนปีแรกเหรอ ชื่อธันวาน่ะ เป็นแฟนของไลลาเอง” ธันวาเอ่ยทักทาย พร้อมกับยื่นมือออกไป หมายจะเช็คแฮนด์กับหญิงสาว
“สวัสดีค่ะ” แต่หญิงสาวกลับยกมือขึ้นไหว้แทน เพราะดูยังไง ชายหนุ่มก็คงจะอายุมากกว่าเธออยู่ดี
ร่างสูงของนักศึกษาใหม่ ที่พึ่งจะเดินเข้ามาถึงที่ตึก เพราะมัวแต่แวะไปหาเพื่อนเก่าอย่างกวินอยู่อีกตึกหนึ่ง เลยมาถึงที่ตึกของตัวเองเรียนช้า แถมมาถึงยังเห็นหญิงสาวยืนคุยกับรุ่นพี่อยู่อีก จึงเดินเข้าไปดึงสายกระเป๋าของเธอทันที
“ยืนบื้ออยู่ทำไม เข้าเรียนได้แล้ว ขอตัวก่อนน่ะไลลา” เสียงเข้มดังขึ้นมาทันที ที่เข้าถึงตัวของพีรดา และเอ่ยทักทายเพื่อนร่วมห้องเก่าอย่างไลลา ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
“พีท...นายก็เรียนสาขาเดียวกันกับหริ่งเหรอ” ไลลาถามขึ้นมาเสียก่อน เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ดึงหญิงสาวไปนั้นคือใคร
“เห็นเป็นอะไรละ” ร่างสูงหันมาตอบเพียงแค่นั้น
“ฉันก็คิดแต่ว่านายกับหริ่งหายไปไหนกัน ฉันกับกวินว่าจะพาเพื่อนๆไปหาที่บ้านแล้ว” ไลลาพูดขึ้นมา เมื่อหลายเดือนก่อนปรึกษากันกับกวินว่าจาพากันไปหาที่บ้าน แต่ก็ไม่ได้ไปสักที เพราะเพื่อนแต่ละคนว่างไม่พร้อมกัน
“ก็เห็นอยู่นี้ไง” พจีพัฒน์ตอบเสียงต่ำมาเพียงสั้นๆ
“ฉันไปเรียนก่อนน่ะไลลา เดี๋ยวเจอกันน่ะ” พีรดาจึงรีบตัดบท แล้วขอตัวลาทันที และได้แต่เดินตามชายหนุ่มขึ้นลิฟท์ไปอย่างเงียบๆ
“สองคนนั้นเป็นแฟนกันเหรอไลลา” ธันวา ถามแฟนสาวออกมาด้วยความสงสัยทันที เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของทั้งสองคน
“แฟนบ้าอะไร แค่อยู่บ้านหลังเดียวกันเฉยๆ ผู้ชายคนนั้นนะชื่อพีท เพื่อนร่วมห้องเดียวกันกับไลลาแล้วก็หริ่งเอง เป็นลูกเจ้าของบ้าน ที่ป้าของหริ่งทำงานอยู่” ไลลาตอบแฟนหนุ่มออกมาตามตรง เพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“ไม่ใช่ญาติกันเหรอ” ธันวาถามออกมาอีกครั้ง
“ไม่ใช่...ทำไมเหรอ” ไลลาตอบแฟนหนุ่มออกมา แล้วถามกลับไป เพราะสงสัยว่าแฟนหนุ่มจะถามเรื่องราวของทั้งสองคนไปทำไมกัน
“แค่แปลกใจน่ะ ว่าทำไมถึงมีเงินเรียนที่ดีๆแบบนี้” ธันวาพูดออกมาตามความสงสัยของตัวเอง
“พ่อของพีทอุปการะไว้ และส่งหริ่งเรียนยังไงล่ะ” ไลลาอธิบายให้แก่ชายหนุ่มฟัง ถึงเรื่องเพื่อนของเธออย่างพีรดา
“อ่อ” ธันวาอ่อขึ้นมาทันที ที่ได้ฟังจบ พร้อมกับใบหน้าที่มีแผนการอะไรบางอย่างขึ้นมาอยู่ในความคิดที่ไม่ใครอาจทราบได้