ตอนที่ 4 ความรู้สึกที่ไม่เคยได้รับ
ความรู้สึกที่ไม่เคยได้รับ
“น้องเดียร์จะเข้าไปมหาลัยไหมครับ พี่จะได้แวะไปส่ง” เวลาถามหญิงสาวขึ้นมา เมื่อรถแล่นออกมาจากคาสิโนแล้ว และกำลังมุ่งหน้ากลับไปทางบ้าน เพราะว่าหญิงสาวยังสวมชุดนักศึกษาอยู่
“กลับบ้านเลยดีกว่าค่ะพี่เวลา มันเลยเวลาเรียนของเดียร์มาเยอะแล้ว และอีกอย่างคุณธนาก็หลับอยู่ กลัวว่าจะทำคุณเขาตื่น แล้วจะโวยวายใส่เอาค่ะ” เดียน่าตอบกลับชายหนุ่ม ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับรถอยู่ตอนนี้ไป
“ครับ...น้องเดียร์เมื่อยหรือเปล่าครับ” เวลาขานรับ แล้วเพ่งมองไปที่กระจกหลัง จ้องมองไปที่คนทั้งคู่ กลับพบว่า ธนา เจ้านายหนุ่มหลับคับพับสนิท แถมเอนตัวมาพิงเดียน่าไว้เต็มๆ จนหญิงสาวแทบขยับไปไหนแทบไม่ได้เลย ถามหญิงสาวออกไปเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะเมื่อยที่รองรับน้ำหนักของเจ้านายหนุ่ม เพราะธนากับเดียน่า รูปร่างต่างกันมาก
“ไม่เป็นไรค่ะ เดียร์ไหว” หญิงสาวเอ่ยตอบเสียงเบา เพราะกลัวจะทำเอาร่างสูงตื่น จึงได้แต่นั่งอยู่เงียบๆ และนิ่งจนแทบจะไม่กล้าขยับเลย
จนกระทั่งรถแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านหลังกว้างใหญ่อันไพศาลของเจ้านายหนุ่ม แต่เจ้าของบ้านกลับยังคงหลับสนิท ไม่รู้สึกอะไรเลย
“เดี๋ยวเดียร์ปลุกคุณธนาเองค่ะ พี่เวลามีธุระต่อก็ไปจัดการได้เลยค่ะ” เดียน่าเอ่ยบอกพร้อมกับหันหน้าไปมองยังร่างสูงเพียงเล็กน้อย
เมื่อได้รับคำอนุญาต เวลาก็ลงจากรถไปทันที ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มที่นั่งพิงหญิงสาวหลับมาตลอดทาง ให้เดียน่าได้จัดการเอง เพราะมั่นใจว่าหญิงสาวจะจัดการเองได้ตามคำที่กล่าวเอาไว้
“คุณ...คุณธนาค่ะ” เสียงเอ่ยเรียกเบาๆของเดียน่า พร้อมกับมือที่สะกิดเบาๆที่ต้นขาของร่างสูงเขย่าเพียงเล็กน้อย
“อื้อ...” เสียงอู้อี้อยู่ในลำคอ พร้อมกับลืมตาขึ้นมาอย่างช้า
ร่างสูงนิ่งอยู่ทันทียังต้องมนต์สะกด ลมหายใจเริ่มติดขัด เเมื่อลืมตาขึ้นมา กลับพบว่าใบหน้าหวานของเดียน่าอยู่ใกล้กันจนจมูกแทบจะสัมผัสกันอยู่แล้ว ทั้งคู่มองสบตากันนิ่งอยู่สักพัก
“ถะ ถึงบ้านแล้วค่ะ” เมื่อตื่นจากภวังค์ เดียน่าพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกัก พร้อมกับลมหายใจอุ่นๆเป่ารดหน้าของร่างสูง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าต้องปลุก
“อ่อ...ถึงนานแล้วหรือ แล้วเวลาล่ะ” ร่างสูงที่เริ่มตั้งสติได้ เอ่ยถามขึ้นด้วยท่าทีที่ทำตัวไม่ถูก พร้อมกับดีดตัวออกจากหญิงสาวทันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเป็นฝ่าย มาพิงหญิงสาว
“สักพักได้แล้วค่ะ พี่เวลาไปทำธุระติด เลยให้เดียร์ปลุกคุณแทน” หญิงสาวเอ่ยตอบ พร้อมกับมือที่ยกขึ้นนวดแขนของตัวเอง เพราะรู้สึกปวดชา
“เอ่อ...” ร่างสูงกำลังจะเอ่ยบอกอะไรบางอย่าง
แต่หญิงสาวเปิดประตูรถลงไปเสียก่อน แล้วรีบเข้าไปภายในตัวบ้านทันที ดดยที่ไม่ได้สนใจนร่างสูงที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ภายในรถนั้นเลยแม้แต่น้อย
“อ้าว...หนูเดียร์ ทำไมกลับมาเร็วจังค่ะ เลิกคลาสเร็วหรือ” นวลจันทร์ ป้าแม่บ้านคนเก่าแก่ที่สุดของบ้านหลังนี้ เอ่ยถามขึ้นมา เมื่อกำลังจัดเตรียมของอยู่ในครัว แต่เห็นเดียน่าเข้ามาที่ครัว เพราะหญิงสาวยังคงใส่ชุดนักศึกษาของเมื่อเช้าอยู่
“ค่ะป้านวล...พอดีมี...” เดียน่ากำลังจะเอ่ยตอบ
“อ้าว...คุณธนาก็กลับมาแล้วเหมือนกันหรือค่ะ” นวลจันทร์หันไปถามทางเจ้านายหนุ่มที่เดินเข้ามาเปิดตู้เย็นเสียก่อน
“...” ธนาไม่เอ่ยตอบอะไร แต่กลับเป็นพยักหน้ารับแทน เพราะเจ้าตัวกำลังดื่มน้ำอยู่
“คุณธนามาเหนื่อยๆ จะทานมื้อเที่ยงไหมค่ะ ป้าจะได้เตรียมให้” นวลจันทร์ถามเจ้านายหนุ่มขึ้นมา
“ตั้งโต๊ะเลยก็ได้ครับป้า” ธนาเอ่ยบอกป้าแม่บ้าน กลับไป พร้อมกับเบนสายตาไปมองทางเดียน่า
“ค่ะ...หนูเดียร์จะทานพร้อมคุณธนาไหมค่ะ” นวลจันทร์รับคำ แล้วหันมาถามทางเดียน่าบ้าง
“ไม่เป็นไรค่ะ มีอะไรให้เดียร์ช่วยไหมค่ะป้านวล” เดียน่าเอ่ยตอบกลับไป พร้อมกับถามขึ้นบ้าง
“ไปนั่งรอที่โต๊ะ” เสียงเข้มของธนาพูดขึ้น พร้อมกับจ้องมองใบหน้าของเดียน่านิ่ง
“...” หญิงสาวก้มหน้าลงอย่างสลดเพียงเล็กน้อย แล้วต้องเดินตามธนาไปอย่างเงียบๆ เพราะหากว่าร่างสูงเอ่ยอะไรขึ้นมา มีหรือที่เธอจะกล้าขัด
ตกเย็น
“พี่เดียร์เลิกคลาสเร็วหรือครับ วันนี้ถึงกลับไว” ชีโน่ถามขึ้นมา เมื่อเลิกเรียนและกลับเข้ามาในบ้าน แล้วเห็นเดียน่าวุ่นอยู่ที่ครัว
“อ่อ...พอดีวันนี้มีเหตุสุดวิสัยนิดหน่อยค่ะคุณโน่ เดียร์เลยลาคลาสหนึ่งวัน” เดียน่าเอ่ยตอบลูกชายของบ้าน แต่ก็ไม่ได้อธิบายทั้งหมดให้ฟัง
“ครับ...แล้วพะ...” ชีโน่กำลังจะถามหาพ่อของเขา
“กลับมาเร็วดีน่ะวันนี้” ธนาถามสวนขึ้นมาเสียก่อน และแปลกใจเพียงเล็กน้อยที่วันนี้ลูกชายกลับเข้าบ้านเร็ว
“ไปแต่เช้า กลับมาเร็วคงไม่แปลกหรอกนะครับพ่อ ผมก็อยากพักบ้างสิ ว่าแต่วันนี้พ่ออยู่บ้านหรอกหรือ” ชีโน่ตอบธนาผู้เป็นพ่อออกไป พร้อมกับถามพ่อกลับไปบ้าง รู้แปลกใจขึ้นมาที่วันนี้กลับมาจากโรงเรียนเร็วขนาดนี้ แต่กลับเจอพ่ออยู่ที่บ้าน เพราะปกติธนาจะกลับเข้าประมานช่วงตะวันเกือบจะลับขอบฟ้า
“จะมาสาวความยาวอะไรพ่อ ธุระของผู้ใหญ่ ไม่ต้องอยากรู้ให้มากความหรอก ทำหน้าที่ของเองให้ดีก่อน อย่าลืมสิ ว่าหน้าที่ตอนนี้ของตัวเองคืออะไร” ธนา พร่ำสอนลูกชายออกไป
“เบื่อคนแก่ชอบบ่น ในอนาคตข้างหน้าพี่เดียร์อย่าไปเอาคนแก่ๆ มาเป็นสามีเด็ดขาดนะครับ ขนาดพ่ออายุแค่นี้ยังขี้บ่นขนาดนี้เลย” ชีโน่พูดขึ้นมาเชิงวาจาที่ประชดประชันธนา แล้วหันไปพูดหยอกล้อกันทางเดียน่า
“อย่ามาพากันพูดเรื่องพวกนี้น่ะ ทั้งสองคนเลย ตัวแค่นี้กลับพูดเรื่องอะไร พากันตั้งใจเรียนให้จบก่อนค่อยมาพูดเรื่องพวกนี้ ยังไม่บรรลุนิติภาวะกันเลย” ธนาพูดเสียงเข้มขึ้นมา พร้อมกับจ้องมองไปที่เดียน่า และลูกชาย ที่เข้าขากันดี
“แล้วถ้าพี่เดียร์บรรลุนิติภาวะ พ่อจะยอมให้พี่เขามีแฟนไหม” ชีโน่ถามขึ้นมาอีกครั้ง เพราะอีกไม่นานหญิงสาว ก็จะมีชีวิตที่อิสระกว่านี้
“อื้ม...แต่ก็ต้องดูคนที่จะเข้ามาด้วย ต้องผ่านการอนุมัติจากพ่อด้วย” ธนาพยักหน้ารับ แล้วบอกเหตุผลออกไปอีก
“สู้ๆ นะครับพี่เดียร์ อีกปีกว่าๆ พี่ก็จะได้มีอิสรภาพแล้ว” ชีโน่หันมาพูดกับเดียน่า
“พูดยังกับพากันอยู่ในคุกงั้นแหล่ะ” ธนาพูดขึ้นมาทำทันที พร้อมกับสายตาจ้องมองไปทางหญิงสาวตาไม่วายเลย
“ไม่อยู่ก็เหมือนอยู่เลยครับ” ชีโน่พูดจาขึ้นมาอย่างประชดประชันพ่อ
“ชีโน่ พ่อมีลูกแค่คนเดียวนะ และให้รู้เอาไว้ด้วย ทั้งหมดที่พ่อทำอยู่ทุกวันนี้ ก็เพื่ออนาคตของลูกทั้งนั้น และก็เดียร์ด้วยยังไงฉันก็แบ่งเปอร์เซ็นให้เหมือนเดิม” ธนาเอ่ยบอกกับลูกชาย แล้วก็หันมาพูดกับเดียน่าในประโยคหลัง
“เดียร์ไม่ต้องการส่วนแบ่ง หรือสมบัติอะไรของคุณธนาหรอกค่ะ เพราะทุกอย่างนี้คุณชีโน่ควรจะได้รับแต่เพียงผู้เดียว เพราะแค่คุณธนาอุปถัมภ์เดียร์อยู่ทุกวันนี้ มันก็มากเกินพอแล้วค่ะ” เดียน่าเอ่ยตอบออกไป เพราะเธอก็ไม่ต้องการทรัพย์สินอะไรของธนาอยู่แล้ว
ถึงแม้พ่อของเธอจะมีส่วนร่วมที่่วยกันสร้างมาด้วยก็จริง แต่ทุกวันนี้เธอก็ได้รับจากธนามาเยอะมากแล้ว และอีกอย่างคือเธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนที่จะต้องดูแลตอบแทนพระคุณ เธอหวังแค่เพื่อเรียนจบแล้วจะไปหาเอาใหม่ในวันข้างหน้า