ตอนที่ 8 ฟ้าฝนเป็นใจ
ฟ้าฝนเป็นใจ
บ้านเรืองพาณิชยากุล
“ลูกสาวว่ายังไงบ้างค่ะ” นิษฐาถามสามีขึ้นมาทันที ที่เขามานั่งลงข้าง ๆ เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ
“ลูกสาวคุณที่ไหนล่ะ สิบทิศต่างหากที่เป็นคนโทรฯมา คุณคิดว่าลูกสาวคุณจะกล้าโทรฯมาขออะไรเหรอ รายนั้นคุณก็รู้ดีนี้ว่าแกเป็นแบบไหน” พัฒน์พงษ์พูดบอกออกไปตามตรง เมื่อภรรยาขึ้นมา
“เมื่อไหร่จะโตสักทีน่ะยัยลูกคนนี้ แล้ววันนี้คุณพี่ไม่เข้าบริษัทหรือค่ะ” นิษฐาจึงเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะพูดถึงลูกสาวทีไร ก็พลอยทำให้วิตกไปด้วย
“สาย ๆ ค่อยไป วันนี้ลูกชายสุดที่รักคุณกลับมานี้น่า” พัฒน์พงษ์ตอบออกไป แล้วบอกภรรยาด้วยว่าวันนี้ลูกชายจะกลับมา หลังจากที่ไปต่างจังหวัดมาเป็นสัปดาห์แล้ว
“แล้วคุณพี่คิดหรือว่า ตาเพชรกลับมาแล้วจะเข้าไปที่บริษัทเลย” นิษฐาพูดขึ้นมา
“คุณพูดเหมือนคุณไม่รู้จักลูกชายตัวเองอย่างนั้นแหล่ะคุณนิษ” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมาบ้าง เมื่อภรรยาพูดขึ้นเหมือนไม่รู้จักลูกชายคนโตตัวเองบ้างเลย
“จะไปรู้หรือ เห็นช่วงนี้แปลก ๆ ไป บ้านช่องก็ไม่ค่อยกลับมานอนเหมือนแต่ก่อน” นิษฐาได้แต่ตำหนิลูกชายคนโตออกมา เมื่อสังเกตเห็นว่าช่วงนี้ดูแปลกไป
“ลูกโตแล้วน่ะ และตาเพชรเองก็ไม่ใช่เด็กแล้วด้วย แกอายุเข้าเลขสามแล้วน่ะ คุณก็ปล่อย ๆ แกบ้าง ห่วงแกอยู่แบบนี้เมื่อไหร่ตาเพชรจะมีแฟนสักที เผลอ ๆ ผมว่าช่วงนี้ที่แกแปลกไป ลูกอาจจะแอบคบใคร หรือมีแฟนแล้วก็ได้” พัฒน์พงษ์เปรยขึ้นมา แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าลูกชายจะมีใครหรือไม่มีใคร เพราะลูกก็โตมากพอแล้ว ไม่ใช่เด็กที่จะมาคอยชีทางให้
“ถ้ามีแฟน แล้วทำไมไม่พามาบ้านละค่ะ” นิษฐาถามขึ้นมา และเริ่มสงสัยในตัวลูกชายทันที
“ให้เวลาแกบ้าง อาจจะพึ่งศึกษาดูใจกันไปก่อน รอลูกพร้อมลูกอาจจะบอกเองแหล่ะ คุณก็ใจเย็น ๆ รอดูไปก่อน” พัฒน์พงษ์ได้แต่เอ่ยปลอบใจภรรยา
อีกด้าน
“ฝนมาตกเอาอะไรตอนนี้...” หญิงสาวบ่นขึ้นมาทันที เมื่อกลับมาถึงบ้านพักด้วยตัวที่เปียกชุ่มเพราะระหว่างที่ออกไปรับประทานอาการมื้อค่ำกันมา
“คุณแพทรีบไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย และจะอดเที่ยวกัน” เสียงนุ่มของเขาเอ่ยบอก เมื่อเห็นว่าตัวเธอเปียก
“แต่พี่ก็เปียกมาเหมือนกันน่ะ” เธอเอ่ยบอกเขาขึ้นมาบ้าง เพราะต่างคนก็เปียกมากันทั้งคู่
“ผมอาบตอนไหนก็ได้ครับ แล้วอีกอย่างห้องน้ำก็มีอีกห้อง หรือว่าคุณแพทอยากให้ผมอาบด้วยครับ” เขาไม่เพียงแค่พูด แต่เขากลับก้มลงมากระซิบที่ข้างหูของเธออีกด้วย เพื่อเป็นการหยอกล้อ
“จะบ้าเหรอ” เธอตวาดเสียงใส่เขาแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องที่เธอนอนทันที
สิบทิศได้แต่อมยิ้ม เมื่อได้แกล้งเธอ และเข้าก็เข้าไปอาบน้ำทันที ในห้องน้ำอีกห้อง และสักพักหญิงสาวก็เดินออกมาจากห้องนอน พร้อมกับผ้าห่มและหมอนมาให้แก่เขา เธอวางลงที่โซฟาตัวยาว และเธอก็กำลังจะหันหลังเดินกลับเข้าห้องไป
แต่ทว่า
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าลงมาอย่างดัง พร้อมกับไฟทุกดวงในห้องก็ดับลงทันที เธอที่ทำอะไรไม่ถูกรีบกระโดดสวมกอดคนตัวสูงตรงหน้าที่ยังไม่ทันจะได้สวมเสื้อเลยด้วยซ้ำ
“กรี๊ดดด...” เธอกรีดร้องขึ้นมาเพราะความตกใจกลัวเสียงฟ้าร้อง
“คุณแพท” เขาสะกิดที่แขนของเธอ เพราะตอนนี้เธอสวมกอดเขาแน่น จนเขาแทบจะขยับไปไหนไม่ได้เลย
“แพทกลัว อย่าทิ้งแพทไปไหนน่ะ” เสียงเอ่ยสั่นสะอื้นออกมาจากร่างบาง โดยเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองกับเขาขึ้นมาทันที
“คุณแพท ปล่อยก่อนครับ มีคนมาเคาะประตู ผมจะเดินไปดู” เขาเอ่ยบอกเธอ และพยายามจะแกะแขนที่เธอรัดเขาอยู่ออก
“แพทไปด้วย”
“...” เขาไม่เอ่ยอะไรต่อ เพราะเห็นอาการสั่นเทาของเธอที่กอดเขาแน่น ก็คงจะกลัวจริง ๆ
จึงใช้โทรศัพท์มือถือเปิดไฟฉาย เดินไปเปิดประตูโดยที่มีเธอยังคงกอดเขาไปด้วยอยู่อย่างนั้น เขาแง่มประตุออกเพียงเล็กน้อย เพราะตัวเองยังไม่ได้ใส่เสื้อ แถมยังมีเธอกอดเขาไว้แน่นอีก
“ไฟฟ้าถูกตัดหมดเลยครับ เพราะฝนตกหนัก ทางเราต้องขออภัยในความไม่สะดวกด้วยครับ” พนักงานของทางรีสอร์ทเข้ามาแจ้ง พร้อมกับถือตะเกียงไฟฉาย และเทียนมาให้ด้วย
เขารับของนั้นมาจากพนักงาน และปิดประตูลง วางของไว้อยู่บนโต๊ะที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วจึงจุดเทียนเพื่อช่วยให้ความสว่างขึ้นมาบ้าง
“คุณแพทปล่อยผมก่อนครับ ผมจะใส่เสื้อ” เขาเอ่ยบอกเธอขึ้นมาอีกครั้ง
หญิงสาวจึงปล่อยแขนออกให้เขาเป็นอิสระ และเดินตามเขาไปอย่างช้า ๆ ด้วยความระแวง เพราะกลัวเสียงฟ้าฝน ที่คำรามขึ้นมาเป็นระยะ
เปรี้ยง!
“กรี๊ดดด...” หญิงสาวร้องขึ้นมา พร้อมกับกระโดดกอดคอคนตัวสูงอีกครั้ง ที่กำลังจะสวมเสื้อทันที
เขาที่กำลังจะใส่เสื้ออยู่นั้น รีบทิ้งเสื้อลง แล้วรับตัวไว้ทันที แต่ก็ไม่ทัน เพราะหญิงสาวที่จู่โจมมากระทันหัน ทำให้ทั้งลงล้มลงไปที่โซฟาข้าง ๆ นั้นทันที โดยที่เธอคร่อมอยู่บนตัวของเขา
“คุณแพท แล้วที่บ้านฝนตกคุณอยู่ยังไง” เขาจึงถามเธอขึ้นมา
“ไม่รู้ ที่บ้านมันไม่ได้ยินเสียง” หญิงสาวเอาแต่สาวหน้าตอบ แต่หน้ายังมุดอยู่ที่ซอกคอของเขาอยู่อย่างนั้น
“โอเคครับ ถ้าอย่างนั้นก็ลุกขึ้น เข้าไปในห้องแล้วรีบนอน คุณจะได้ไม่เป็นกังวล พอคุณหลับก็จะไม่ได้ยินเสียงแล้ว” เขาพูดกับเธออย่างใจเย็น และพยายามกักเก็บอารมณ์ที่ร้อนรุ่มภายในกายเอาไว้
“หื่อ...ไม่เอา” เธอเอาแต่ส่ายหน้าอยู่ท่าเดียว
อาการของเธอตอนนี้ ไม่ต่างอะไรจากเด็ก 5 ขวบเลย คนที่ปากเก่งเมื่ออยู่ที่บ้านต่อหน้าเขาคนนั้น หายไปไหนก็ไม่รู้ เหลือเพียงแค่เด็กขี้อ้อนคนนี้
“คุณกอดผมแบบนี้ มันทำให้ผมลำบากใจนะครับ...” เสียงสั่นกระเส่าของสิบทิศเอ่ยบอก
เพราะตอนนี้เขาเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องแล้ว เมื่อใกล้ชิดกันแบบนี้ แถมชุดนอนเนื้อผ้าบางนี้ที่แทบจะเห็นทะลุไปข้างในแล้ว แถมก้อนภูเขาสองลูกนี้อีกที่แนบชิดกับตัวเขา และทุกส่วนของร่างกายแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว
เขาที่ทำพูดอะไรไม่ได้ จึงพยุงตัวเองลุกขึ้นอย่างยากลำบาก เพราะเธอที่ยังคงกอดรัดเขาแน่น เขาจึงอุ้มเธอขึ้นมาในท่าอุ้มแตง แล้วพากันเข้าไปยังห้องที่เธอนอน
เขาว่างเธอลงบนที่นอนอย่างเบา ๆ และตัวเองก็จะลุกขึ้น แต่หญิงสาวไม่ยอมปล่อยแขนที่กอดคอเขาไว้ออก เขาที่ทรงตัวไม่อยู่ ล้มลงไปทาบทับตัวเธอทันที
“คุณแพท”
“พี่ทิศ”