ตอนที่ 4 จริงจัง
จริงจัง
บ้านเทพารัตน์
“ไปไหนมาล่ะพ่อตัวดี พึ่งจะกลับมาเองน่ะ ก็หัดอยู่ให้ติดบ้านหน่อย” เสียงแม่ของเขาต่อว่าขึ้นมาทันที เมื่อเห็นลูกชายตัวดีพึ่งเดินเข้ามาที่บ้านในช่วงเย็นของวัน เพราะตั้งแต่ที่ลูกชายกลับมาจากต่างประเทศก็ยังไม่เห็นว่าวันไหนที่ลูกชายจะอยู่ติดบ้านเลยสักวัน วันนี้ก็เช่นกัน
ปราณี ซึ่งเป็นแม่ของ ปฐพี และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันกับนิษฐานั้นเอง แต่ทั้งคู่ไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ที่ต่างคนต่างมีครอบครัว ก็ไม่ค่อยได้เจอหน้า หรือไปมาหาสู่กันเลย เพราะต่างก็ทำธุรกิจเดียวกัน
“ไปบ้านเพื่อนแม่มายังไงครับ” ปฐพีตอบแม่ของเขาออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร และทิ้งตัวลงบนโซฟาทันที
“เพื่อนแม่...” ปราณีถามลูกชายออกไปทันที เพราะไม่รู้ว่าลูกชายหมายถึงเพื่อนคนไหนกันแน่ เพราะเพื่อนก็ไม่ได้มีแค่คนเดียว
“ครับ”
“เพื่อนคนไหน!?” ปราณีถามลูกชายขึ้นมาทันที ว่าลูกชายหมายถึงใคร
“ก็...อานิษยังไงละครับ”
“นิษฐา!” ปราณีถามย้ำลูกชาย เพราะเพื่อนที่ชื่อนี้ ก็มีอยู่คนเดียวเท่าเดียวเท่านั้นแหล่ะในรุ่น จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนิษฐาคนนั้นคนเดียว
“ครับ...แต่น่าเสียดาย ที่วันนี้พวกท่านไม่อยู่บ้าน แถมไอ้เพชรก็ไม่อยู่ด้วย อยู่แต่น้องสาวมันคนเดียว น้องชายมันก็ไม่ทราบข่าวว่าอยู่ไหนเลย” ปฐพีพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“หนูแพทนั่นนะเหรอ” ปราณีถามลูกชายกลับ เพราะเคยเจอกันก็นานมากแล้ว
“ครับ ตอนนี้สวยมากด้วย ผมจำน้องเกือบไม่ได้แหน่ะ” เขาพยักหน้ารับกลับกับแม่ และเอ่ยชมหญิงสาวที่พึ่งไปเจอมาให้ผู้เป็นแม่ฟังทันทีอย่างไม่ปิดบัง
“แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงห่ะตาพี อย่าบอกน่ะ! ว่าแกชอบลูกสาวบ้านนั้นเข้า...” ปราณีที่จับสังเกตลูกชายได้ เอ่ยขึ้นมาอย่างจับผิดทันที
“ก็เห็นว่าเธอสวยดีครับแม่” เขาบอกแม่ออกไปตามตรง
“ตาพี แกจะชอบใคร แม่ไม่เคยห้ามน่ะ แต่ขอร้องเถอะ! อย่าไปยุ่งกับลูกสาวเพื่อนแม่เลย แม่ไม่อยากเสียเพื่อนไป แล้วมันจะมองหน้ากันไม่ติด หากแกยังทำตัวเปลี่ยนคู่นอนไม่เลือกแบบนี้” ปราณีต่อว่าลูกชายขึ้นมาอีกครั้งทันที เมื่อรู้ความคิดว่าลูกจะทำอะไร เพราะรู้ถึงความเจ้าชู้เปลี่ยนคู่นอนไม่เลือกของลูกชายดี
“โธ่แม่! คนนี้อาจจะเป็นรักแท้ หรือว่าคู่ครองของผมก็ได้น่ะ” เขาใส่ลูกอ้อนออกมาต่อหน้าของแม่เขาทันที
“กี่คนแล้วที่แกพูดแบบนี้ แม่ไม่เห็นว่าแกจะจริงจังกับใครเลยสักคน มีแต่ฟันเขาแล้วก็ทิ้ง” ปราณียังคงยืนยัน เพราะรู้จักนิสัยลูกตัวเองดีว่าเป็นเช่นไร
“เขาเรียกว่า One Night Stand ครับแม่ ไม่มีใครฟันใคร มีแต่ได้กับได้กันทั้งคู่” ปฐพีกล่าวขึ้นมาอย่างมีเหตุผล
“จะวันไนท์ ทูไนท์ หรือกี่ไนท์มันก็เรื่องของแก แต่แค่ให้รู้จักป้องกันก็พอ อย่าให้มีอุ้มท้อง หอบลูกมาตามหาพ่อที่นี่ก็แล้วกัน” ปราณีไม่รู้จะสันหาคำพูดไหนมาด่าลูกชายคนนี้ เพราะตลอดที่ผ่านมาก็ได้แค่ตักเตือนเท่านั้น เพราะลูกก็โตมากพอแล้ว
“ไม่มีแน่นอนครับ แต่น้องแพทอาจไม่แน่น่ะ” ปฐพียืนยันทันที เพราะถึงเขาจะเป็นคนรักสนุก แต่ทุกครั้งที่ผ่านเขาป้องกันอย่างดี เพราะต่างฝ่ายต่างรู้ว่าเป็นเช่นไรกับคู่นอน
“จริงจังหรือไง?” เสียงทุ้มของพ่อเขาถามขึ้นมาทันที เมื่อทนฟังสองแม่ลูกเถียงกันไม่ไหว
ปราโมทย์ เทพารัตน์ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ แถมเขายังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทของพัฒน์พงษ์อีกด้วย แต่ไม่มากเท่ากับครอบครัวของพัฒน์พงษ์
“พ่อ!” ปฐพีหันไปทางต้นเสียงเมื่อสักครู่ทันที
“ไปช่วยงานที่บริษัทก่อนสิ ถ้าภายในหนึ่งเดือนงานไม่มีปัญหาอะไร และแกสามารถบริหารงานได้ พ่อกับแม่จะไปคุยให้...” เขายื่นข้อเสนอให้ลูกชายขึ้นมาทันที เพราะอยากได้หุ้นส่วนของบริษัททั้งหมดที่ครอบครัวของพัฒน์พงษ?ถือ อาจจะเป็นผลดีหากว่าเขาไปผูกดองกัน
“พ่อพูดจริงน่ะ” ปฐพีหันไปถามพ่ออย่างดีใจขึ้นมาทันที
“แกเคยเห็นพ่อพูดโกหกไหม พรุ่งนี้เริ่มงานได้ ภายในเวลาหนึ่งเดือนต่อจากนี้ ห้ามขาด ห้ามลา ห้ามสาย” ปราโมทย์ยื่นคำขาดแก่ลูกชายขึ้นมาทันที
“ครับ”
บ้านเรืองพาณิชยากุล
“นี่พี่ไม่คิดจะให้ฉันได้เป็นอิสระบ้างเลยหรือยังไง มานั่งเฝ้าอยู่ได้” พจีกานต์พูดขึ้นมาทันที เพราะตั้งแต่ที่ปฐพีกลับไป แทนที่เขาจะกลับบ้าน แต่กลับมานั่งเฝ้าเธออยู่จนถึงเย็น
“ทำตามคำสั่งคุณพงษ์ครับ” เขาเอ่ยตอบเธอด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง โดยไม่ได้สนใจคนที่ได้ยินเลย ว่าจะมีปฏิกิริยาเช่นไรในตอนนี้
“พ่อพูดอะไรกับพี่อีก พี่ทิศ” เธอถามเขาออกมาอย่างอยากรู้ทันที เพราะเขาจะเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของพ่อเขาเป็นอย่างดี
“ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณพงษ์ท่านไม่เอาลูกสาวที่ไม่เอาการเอางานมาขายให้ผมหรอก คุณหนูแพทสบายใจได้เลย” เขาเอ่ยบอกเธอออกไป
“พี่ทิศ!” หญิงสาวตวาดเสียงขึ้นมาทันที
“จะตะโกนทำไมครับ”
“ฉันไม่คุยกับพี่แล้ว ไปหาฟอร์ยูดีกว่า” เธอไม่รู้จะทำเช่นไรดีกับคนตีมึนแบบเขา จึงเดินออกไปหน้าบ้านทันที ที่ได้ยินเสียงรถ เพราะหลานชายสุดที่รัก น่าจะกลับมาจากโรงเรียนแล้ว
“อ้าวทิศ! ยังอยู่ที่นี่อีกเหรอ!?” พัฒน์พงษ์ถามขึ้นมาทันที ที่เดินเข้ามาภายในบ้าน แล้วเห็นเขายังอยู่ที่บ้าน
“ครับ พอดีผมเห็นว่าที่บ้านมีแต่ผู้หญิงกับเด็ก เลยมาอยู่เป็นเพื่อนครับ” สิบทิศตอบออกมาตามตรง
“มาจับผิดกันมากกว่า” พจีกานต์สวนขึ้นมาทันที เมื่ออุ้มหลานชายวัย 2 ขวบเศษ เดินเข้ามาภายในบ้าน ที่พึ่งจะกลับมาจากโรงเรียน
เด็กชายพีรพัฒน์ เรืองพาณิชยากุล หรือ ฟอร์ยู ลูกชายวัย 2 ขวบเศษ ของพจีพัฒน์(พีท) และ พีรดา(หรีดหริ่ง) ที่ตอนนี้ศึกษาอยู่ปีที่ 3 แล้ว เด็กน้อยที่เติบโตมาจากครอบครัวที่แสนอบอุ่น และการเลี้ยงดูของผู้เป็นย่า และทุกคนภายในบ้านมาอย่างดี เพราะเป็นหลานคนแรก และพ่อแม่ที่ยังศึกษาอยู่ ไม่ค่อยได้มีเข้ามาที่บ้านสักเท่าไหร่ นอกเสียจากจะหยุด เพราะพ่อและแม่ของเขาตั้งใจจะเรียนให้จบภายในปีนี้
“พูดอะไรยัยแพท พี่เขาอุตส่าห์มาอยู่เป็นน่ะ” พัฒน์พงษ์ดุลูกสาวขึ้นมาทันที ที่พูดอะไรขึ้นมาโดยไม่ไตร่ตรองก่อน
“แพทก็ไม่ได้อยากให้อยู่นี้คะพ่อ” เธอพูดกับพ่อออกมาตามตรง
“ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวคุณหนูแพทจะนัดผู้ชายมาหาที่บ้านอีก” เขาที่อยากจะแกล้งเธอ จึงพูดเป็นนัย ๆ ตั้งใจพูดให้พัฒน์พงษ์ได้ยินด้วย
“ผู้ชาย! ใครที่ไหนกล้ามาหาลูกถึงที่บ้านเหรอ” พัฒน์พงษ์หันมาถามเอาคำตอบจากทางลูกสาวขึ้นมาทันที เพราะเท่าที่รู้มาก็ไม่เคยมีใครมาหาลูกสาวของเขาอยู่แล้ว