บทที่ 11
“หึ! มึงจำผิดหรือเปล่า แอนน่ะเมียกู ส่วนมึงน่ะมันก็แค่อดีตชั่วๆ ที่เขาไม่อยากจำ!”
พันเดชมาทันได้ยินประโยคดูถูกว่าอัญชิตานอนนิ่งเป็นท่อนไม้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคำพูดเหล่านั้นถูกเอ่ยออกมาเพื่อให้เธออับอาย แต่เป็นเขาเองที่ทนฟังไม่ได้ เหวี่ยงผู้ชายคนนั้นไปเต็มแรง
“ปากดีนักนะไอ้เด็กเวร!”
พันเดชผละจากร่างบางที่เขาตระกองกอด ส่งกำปั้นเน้นๆ ปะทะเข้าใบหน้าของผู้ชายปากเสียที่พูดจาทำร้ายจิตใจอัญชิตา ทั้งคู่แลกหมัดกัน ต่อยตีจนปากแตก เรื่องอาจรุนแรงกว่านั้นมาก หากกิตติไม่เข้ามาห้ามเอาไว้เสียก่อน
“เฮ้ย! มึงอย่า! คนมองกันเต็มแล้ว กูว่ามึงอย่าเสียเวลาเลยนะ ทะเลาะกันเพราะผู้หญิงไม่มีค่ามันไม่คุ้มหรอก!” กิตติเตือนเพื่อนเสียงดัง เขาได้ฟังเรื่องของอัญชิตามามากจึงเกลียดชังตามที่ได้ยิน ทั้งๆ ที่ไม่เคยฟังความของอีกฝ่ายเลยแม้แต่คำเดียว
“ทำไมวะ! ทำไมกูต้องหยุดด้วย”
“เถอะน่า เชื่อกู!” กิตติเตือนเพื่อนอีกครั้ง
“เออ! ผู้หญิงที่กูกินจนเบื่อ แถมเอาไม่สะใจ กูไม่มาเสียเวลายุ่งด้วยหรอก!”
“ตอแหล...” พันเดชขยับเข้าไปใกล้ กระซิบประโยคเด็ดที่มีเพียงชานนท์และกิตติที่ได้ยิน เนื่องจากเสียงเพลงดังมากจนกลบแทบทุกคำพูด ทว่าอัญชิตาที่สาวเท้าตามเข้าไปเพราะนึกว่าเขาจะต่อยตีกับคนใจร้ายอีกก็ได้ยินด้วยเช่นกัน
“พี่แอนของน่ะกูงานดีและก็เอวดีมากต่างหาก มึงคงเสียดายมากสินะที่เขาไม่เอามึงแล้ว...”
“พัน พี่ว่าเรากลับกันเถอะนะ” เธอเขย่าแขนเขาแรงๆ ซึ่งพันเดชก็หันกลับมายิ้มจนตาหยี ก่อนสูดปากร้องโอยเพราะตัวเองก็ถูกหมัดของอีกฝ่ายเล่นงานเหมือนกัน ถึงจะไม่เจ็บหนักเท่าก็ตามที
“ครับพี่แอน...” เขาพยักหน้ารับคำก่อนเดินตามเธอต้อยๆ หลบสายตาเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด อุตส่าห์รักษามาดหนุ่มเนิร์ดไร้พิษสงมานาน แต่สุดท้ายกลับดีแตกเพราะความปากเสียของผู้ชายที่อาจเป็นคนรักเก่าของอัญชิตา
คนรักเก่า...
“แม่งเอ๊ย!”
พันเดชสบถพลางมองมือที่ใช้วิวาท รู้สึกขัดยอกพอสมควร พรุ่งนี้คงจะบวมแน่ๆ แต่เมื่อนึกได้ว่าอัญชิตายังเดินอยู่ข้างๆ เขาจึงรีบหันกลับไปขอโทษคนสวย แต่ต้องตกใจอย่างมากเมื่อเห็นหยาดน้ำสีใสบนใบหน้าสวยของเธอ
“พี่แอน ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจพูดไม่ดี”
“อือ”
“ผมแค่อยากตอกหน้าพวกมัน ไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่เสียหาย”
“พี่เข้าใจ แต่พันอย่าเพิ่งพูดอะไรเลยนะ พี่อยากใช้ความคิดเงียบๆ น่ะ” มือเรียวปาดน้ำตา ก่อนยิ้มให้กับคนตัวใหญ่ ยืนยันว่าเธอไม่ได้เสียใจเพราะเรื่องที่เขาพูดจริงๆ
อัญชิตาคิดมาตลอดว่าตัวเองคงไม่รู้สึกอะไร หากต้องเจอกับคนใจร้ายอีกครั้ง เรื่องที่เขาชอบพูดจาแย่ๆ ดูถูกเธอให้รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่ายังคงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือประโยคทุเรศพวกนั้นเขาไม่ได้เก็บไว้พูดกับเธอคนเดียวแล้ว
ไม่รู้ว่าเขาพูดเรื่องแย่ๆ ของเธอให้ใครฟังบ้าง...
ทว่าสิ่งที่แย่กว่านั้นคือภาพในอดีตที่เธอพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะลบมัน แต่วันนี้กลับเด่นชัดจนน่ากลัว
“พี่แอนอย่าไปฟังพวกมันเลยนะ”
พันเดชกล่าวทำลายความเงียบเมื่อขึ้นลิฟต์และเดินจนถึงหน้าห้องพัก เขายังคงยืนรักษาระยะห่าง พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ไม่ได้เปลี่ยนไปหลังจากได้ยินชานนท์และกิตติพูดจาแย่ๆ ให้ฟัง
พันเดชยังเหมือนเดิม...
“ไม่ใช่แค่เรื่องที่เขาพูดหรอกพัน แค่พี่คิดมาตลอดว่าตัวเองทนได้ แต่ว่าพอเห็นหน้ามันอีกที ฮึก ฮือ” อัญชิตากลั้นสะอื้นไม่ไหว จึงปล่อยให้น้ำตาไหลพรากอีกครั้ง
“พี่แอน!” พันเดชรีบคว้าเธอเข้ามากอด ไม่สนใจเรื่องความเหมาะสม เขากดใบหน้าเล็กซุกเข้ากับอกกว้าง ก่อนถือวิสาสะเปิดกระเป๋าและหยิบคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตูให้คนที่ร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ
“พันกลับไปเถอะ พี่อยู่ได้” อัญชิตาสูดน้ำมูกเสียงดัง เอ่ยไล่หนุ่มรุ่นน้อง เพราะมั่นใจว่าสภาพหน้าตาตอนนี้คงไม่น่ามอง แต่มีหรือที่พันเดชจะปล่อยให้คนที่กำลังรู้สึกแย่ต้องเผชิญกับความโศกเศร้าตามลำพัง เขาประคองเธอไปที่เตียงและนั่งกอดอย่างหลวมๆ เพื่อปลอบใจ
“ร้องไห้ออกมาเลย ร้องเยอะๆ ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว ผมอยู่กับพี่ตรงนี้นะ ไม่ไปไหน ไม่ต้องอาย ไม่ต้องรู้สึกแย่”
