8 แบบนี้สินะคนถึงติดใจ nc
“คุณชาน์ อัยย์เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมคะ”ไอรดาถามขณะที่ประตูห้องของโรงแรมปิดลง
“ไม่ทันแล้วครับคุณอัยย์”
“ว๊าย..คุณชาน์”
ไอรดาอุทานเมื่อชายหนุ่มอาศัยจังหวะที่หญิงสาวกำลังยืนงงอยู่ดึงให้เธอเข้าไปหาแล้วดันให้เธอนอนลงบนเตียงกว้าง ร่างสูงขยับขึ้นคร่อมทับสองขากันเธอไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหน
“ทําไมล่ะครับ หรือคุณคิดว่าผมให้ความสุขคุณไม่ได้” เขาก้มถามอย่างใกล้ชิดจนเห็นแววตาของอีกฝ่ายว่าตอนนี้มีทั้งความกังวลและความตื่นตระหนกอยู่ในนั้น ในขณะที่ตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความปรารถนา
“ฉันว่ามันถูกต้อง มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ”
“อะไรคือความถูกต้องล่ะครับในเมื่อเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราแค่ทำตามความต้องการของเราเท่านั้น”
“แต่อัยย์”
“นะครับอัยย์ ให้ผมถอยตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว”
“เรื่องของเราต้องเป็นความลับนะคะ”
“แน่นอนอัยย์”
ปิญชาน์ตอบอย่างมั่นใจเพราะเขาก็ไม่อยากจะผูกมัดกับผู้หญิงคนไหน เขาชอบชีวิตอิสระ เมื่อเห็นเธอนิ่งเขาก็การโน้มริมฝีปากลงไปมอบจุมพิตที่เร่าร้อนลงไปยังกลับปากสีแดงสด
ริมฝีปากของไอรดาถูกประกบทาบทับด้วยไออุ่นจากริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างแนบชิด เป็นครั้งแรกก็สร้างความตื่นเต้นจนหัวใจของเธอแทบจะหลุดออกมานอกอก
เมื่อร่างกายทั้งสองแนบชิดไฟสวาทที่ซ่อนอยู่ก็ลุกโหมขึ้นอย่างรวดเร็ว เลือดลมในกายแล่นพล่าน
เสียงครวญครางในลําคอแผ่วของไอรดาทำให้ปิญชาน์ต้องถอนจูบออกเพราะรู้สึกว่าทั้งสองกำลังขาดอากาศหายใจด้วยกันทั้งคู่
“จูบคุณหวานมากนะอัยย์”
“คุณชาน์”
ปิญชาน์ไม่เคยได้ยินใครเรียกชื่อตนเองเพราะเท่าเธอมาก่อน
“ไม่ต้องกลัวนะอัยย์ เราจะมีความสุขด้วยกัน”
ชายหนุ่มปลอบประโลมแล้วก้มลงจูบอย่างแผ่วเบาอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าร่างของเธอนั้นสั่นสะท้านและดูหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เขารู้สึกว่าหญิงสาวจูบไม่ประสาแต่มันทำให้เขารู้สึกดีจนไม่อยากจะหยุดจูบเธอเลย แล้วจูบก็เริ่มเร่าร้อนขึ้น ริมฝีปากของทั้งสองบดเบียดแนบชิด เมื่อเธอเผยอเรียวปากเขาก็สอดลิ้นหนาเข้าไปเขาสํารวจโพรงปากเล็กๆ ดูดกลืนความหวานตามใจชอบ เมื่อลิ้นเล็กพยายามผลักไสด้วยสัญชาตญาณก็กลายเป็นการตอบโต้โดยอัตโนมัติ นั่นยิ่งทำให้ปิญชาน์ครางในลำคออย่างพอใจ
สองเรียวลิ้นที่นัวเนียหยอกเย้ากันไปมา ทําให้คนทั้งคู่หอบ กระเส่าขึ้นทีละนิด ใบหน้าหวานแดงซ่าน ก่อนที่ดวงตากลมสวยหลับพริ้มสติเริ่มหลุดลอย
เมื่อจูบจนพอใจชายหนุ่มก็เปลี่ยนเป้าหมายมายังติ่งหูนุ่มนิ่ม ลากลิ้นไปมาจนหญิงสาวขนลุกด้วยความเสียวซ่าน ปากเล็กเม้มเป็นเส้นตรงพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หลุดเสียงครางออกมาให้เขาได้ยิน
“ถ้าเอาแต่เม้มปากไว้แบบนั้นผมว่าคุณคงความดันขึ้นจนเส้นเลือดแตกแน่ๆ ปล่อยความรู้สึกออกมาครับ คุณร้องได้ส่งเสียงได้ตามที่คุณรู้สึก เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว ทำตามความรู้สึกอย่างเต็มที่ครับอัยย์”
พูดจบเขาก็ซุกไซร้ใบหน้าและปากร้อนลงมายังซอกคอขาว ขบเม้มเบาๆ บนเนื้อนุ่มจนมันเกิดรอยจางๆ ไอรดารู้เสียวซ่านกับทุกสัมผัสที่ชายหนุ่มมอบให้ หญิงสาวไม่อาจจะเก็บความรู้สึกของตนเองได้อีกต่อไป เมื่อเขาใช้ความชำนาญดึงเอาสัญชาตญาณในตัวเธอออกมา
“อ๊ะ... อ๊าาาา คุณชาน์”
ไอรดาครวญครางเสียงหวานเมื่อสติสัมปชัญญะหลุดลอยออกไปจนเหลือแค่ความต้องการที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกเท่านั้น สิ่งที่เขากับเธอกำลังทำนั้นมันเป็นสิ่งที่เธอเองก็โหยหามาตลอด
“ผมชอบที่คุณเรียกชื่อผมนะอัยย์”
ชายหนุ่มกระซิบที่ข้างหูแล้วค่อยๆ ดึงสายเดี่ยวที่ปกปิดเรือนร่างขาวผ่องให้ลงไปกองอยู่ที่หน้าท้อง ก่อนจะเอื้อมไปปลดตะขอชั้นในของเธอออกอย่างชำนาญ
“สวยมากอัยย์”
เสียงเอ่ยชมแหบพร่า เขาผ่านผู้หญิงมาก็มากแต่ไม่เคยเห็นความอวบอิ่มและเต่งตึงแบบนี้มาก่อน ดูก็รู้ว่าทุกอย่างนั้นคือของจริง
เขากดจมูกลงตรงกึ่งกลางความอวบอิ่มสูดดมกลิ่นกายที่แสนเย้ายวนเข้าจนเต็มปอด มือที่ว่างก็รูดรั้งชุดที่เหลือออกจากร่างกายเธอแล้วโยนมันลงไปกองที่พื้นอย่างไม่ไยดี
“อื้อม คุณชาน์อย่าดูดตรงนั้น อื้ม”
เสียงหวานพยายามเอ่ยห้ามเมื่อ ปิญชาน์ก้มลงไปครอบครองยอดอกสีสวย เข้าไปในโพรงปากอุ่นแล้วดูดแรงราวกับทารกที่ดูดนมจากอกมารดา เสียงหวานครางอีกครั้งปลายลิ้นของเขาตวัดหยอกล้อกับเม็ดทับทิมสีอ่อนสวยอย่างชํานาญสร้างความเสียวซ่านจนเธอร้องครางระงม สองมือบีบเคล้นจนเต้างามขึ้นรอยแดง ชายหนุ่มชอบแบบนี้ชอบอวบอิ่มและความเป็นธรรมชาติมันทั้งหยุ่นและอุ่นนุ่มราวกับอาหารชั้นเยี่ยม
ไอรดาปั่นป่วนไปกับสัมผัสร้อนที่เขามอบให้ หญิงสาวแอ่นอกอวบอิ่มให้เขาได้ดูดกลืนอย่างลืมอาย รู้สึกดีที่เขาทำกับร่างกายของเธอแบบนี้ รู้สึกดีจนอยากจะป้อนให้เขาได้กินอย่างจุใจ
เมื่อดูดกินจนพอใจเขาก็ลากล้นไปตามท้องน้อยของหญิงสาวขบเม้มเบาๆ มือใหญ่เกี่ยวชั้นในตัวบางออกจากกายสาวก่อนจะจับหัวเขามนให้แยกออก
“อัยย์ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าคุณเป็นแม่หม้าย มันสวยมากน่ากินไปหมด”
เสียงแหบพร่าพูดอย่างคนละเมอ เขาเคยเห็นส่วนนี้มานักต่อนักแต่ไม่เคยมีใครทำให้เขาสติหลุดได้แบบนี้มาก่อน แล้วปิญชาน์ก็ก้มหน้าลงทำให้สิ่งที่ไม่เคยทำให้กับใครมาก่อน
“อ๊ะ...”
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อชายหนุ่มบรรจงสัมผัสลิ้นร้อนเลียไปกลีบกุหลาบดอกตูม นิ้วทั้งสิบไอรดาจิกลงบนหมอนใบใหญ่ที่ใช้หนุน ร่างกายเกร็งแอ่นขึ้นจนสะโพกไม่ติดพื้นเมื่อส่วนที่ อ่อนไหวที่สุดถูกลิ้นร้อนตวัดปัดป่าย สองขาเรียวพยายามหุบเข้าแต่เขาก็ใช้สองมือดันให้กว้างขึ้น เพื่อให้ตัวเองได้ล้มรสชาติหอมหวานของกุหลาบดอกงามได้อย่างถนัดถนี่ เพียงแค่เขาสัมผัสแผ่วเบาร่างกายของเธอก็ผลิตน้ำหวานออกมาจนล้นเอ่อออกมาจากโพรงถ้ำ
“อัยย์หวานมาก”
ชายหนุ่มเอ่ยชม เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ารสชาติของมันจะทำให้ตนเองรู้สึกดีและปวดร้าวไปทั่วท่อนเอ็นแกร่งจนแทบทนไม่ไหวแบบนี้
“คุณชาน์ ช่วยอัยนะคะอัยย์ทรมาน”
เสียงหวานเอ่ยอย่างลืมอาย เธออยากให้เขาช่วยปลดปล่อยเธอออกจากความทรมาน
ยิ่งได้ยินเสียงหวานครวญครางปลายลิ้นเปียกชื้นก็เริ่ม สำรวจเข้าไปภายในโพรงถ้ำ นั้นยิ่งกระตุ้นน้ำหวานให้ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย เขารู้ว่าตอนนี้อารมณ์ของเธอกำลังพุ่งสูงขึ้น
ปิญชาน์ปาดเรียวลิ้นดูดเม้นไปทั่วสองกลีบดอกไม้ที่ปิดสนิท ก่อนจะใช้นิ้วของตนเองแยกออกเพื่อส่งปลายลิ้นเข้าไปสำรวจภายในเขารู้สึกว่าโพรงถ้ำนั้นกำลังตอดขมิบเป็นจังหวะ เพราะกำลังรอบางสิ่งบางอย่างเข้ามาเติมเต็มโดย ซึ่งปิญชาน์รู้ว่าเจ้าของร่างก็ไม่อาจห้ามหรือบังคับมันได้
“ใกล้แล้วใช่ไหมอัยย์”
“อื้อ คุณชาน์...”
ร่างกายไอรดาสั่นสะท้านรุนแรงอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อติ่งเกสรถูกละเลงด้วยปลายลิ้นดื่มกินราวกับมันเป็นของหวาน
ชายหนุ่มรั้วลิ้นเร็วเมื่อเห็นอาการทรมานเพราะรู้ว่าเธอกำลังจะถึงปลายทางในไม่ช้า หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจหญิงสาวก็เกร็งสั่นสะท้าน ปลายเท้าจิกเข้ากับเตียงแน่นสะโพกยกขึ้นเหนือที่นอน พร้อมกับเสียงกรีดร้องครวญคราง ก่อนที่ร่างกายทรุดฮวบลงเมื่อพบพานกับความสุขสูงสุด ไอรดารู้สึกว่าตนเองเหนื่อยจนแทบขาดใจ
“มันดีใช่ไหมอัยย์”
“คุณชาน์”
หญิงสาวอายจนหน้าแดงเธอไม่กล้าจะบอกเขาว่าสิ่งที่เขาทำให้นั้นมันมีความสุขมากเกินกว่าที่เธอคิดไว้
“นั่นมันแค่น้ำจิ้มครับคุณอัยย์”
ชายหนุ่มเลื่อนตัวขึ้นมากระซิบเสียงแหบพร่าบ่งบอก ถึงอารมณ์ของตนเองที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย ริมฝีปากหยักได้รูปโน้มลงมาบดเคล้ากับกลีบปากบางอย่างอ่อนโยนแล้วสบตากับดวงตากลมโตที่กำลังฉ่ำปรือเพราะไฟราคะที่ยังคงไม่จางหาย
“พอแล้วได้ไหมคุณชาน์”
“อัยย์ครับไหนว่าเราจะมีความสุขด้วยกัน เมื่อกี้คุณมีความสุขคนเดียวนะ”
“อ๊ะ! คุณชาน์”