บท
ตั้งค่า

2 งานแต่งที่แสนอบอุ่น

พิธีแต่งงานถูกแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นแบบไทยและช่วงเย็นเป็นพิธีฉลองมงคลสมรสซึ่งจะจัดขึ้นที่บ้านของเจ้าบ่าวเพื่อให้เพื่อนๆ ของทั้งสองฝ่ายได้มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างสะดวก

ในช่วงเช้าจัดเป็นพิธีแบบไทย ซึ่งจัดขึ้นที่บ้านสวนของคุณยายนวลแขที่จังหวัดนครปฐม แขกที่มาร่วมงานจึงมีแค่ญาติสนิทของทั้งสองฝ่ายเพียงเท่านั้น

ทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างสวยงามตามความต้องการของคุณยายนวลแข ทางฝ่ายเจ้าบ่าวเองก็ยอมตามใจทุกอย่างเพราะมีความเคารพนับถือกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกอย่างคุณยายนวลแขก็เป็นคนจัดการงานนี้ด้วยตนเองเพราะอยากทำให้วันสำคัญของหลานสาวเป็นวันที่มีความสุขมากที่สุด

ทั่วบริเวณบ้านเรือนไทยถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงามด้วยดอกไม้จริงทั้งหมด ทำให้ทั่วบริเวณงานเต็มไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่น คนที่มาเป็นแขกต่างพากันชื่นชมไม่ขาดปาก

ไอรดาสวมชุดไทยศิวาลัยสีงาช้างพาดสไบสีเดียวกันปักดิ้นเงิน ผมถูกเกล้ารอบศีรษะ เปิดให้เห็นใบหน้าสวยหวานราวกับหลุดออกมาจากวรรณคดี ดวงตากลมโตถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงเสริมให้ดูเด่นชัดขึ้น พวกแก้มปัดสีอ่อนเน้นความเป็นธรรมชาติ ปากบางทาด้วยสีชมพู อ่อนๆ พอเธอปรากฏกายอติรุจน์ก็จ้องคนรักด้วยความตกตะลึง

ปกติแล้วคุณหมอสาวไม่เคยแต่งหน้าแบบนี้มาก่อนส่วนใหญ่ก็แค่รวบผมและทาเพียงรองพื้นเวลาออกไปข้างนอกเท่านั้น มันจึงทำให้อติรุจน์มองด้วยสายตาชื่นชมอย่างปิดไม่มิด

“วันนี้น้องอัยย์สวยมากเลยนะครับ” อติรุจน์กล่าวชมระหว่างที่ทั้งสองนั่งคู่กัน ขณะที่ญาติผู้ใหญ่ต่างพากันมารดน้ำสังข์

“พี่ติก็หล่อมากๆ เหมือนกันค่ะ”

การกระซิบกระซาบกันของคู่บ่าวสาวนั้นเป็นภาพที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมองแล้วพากันยิ้มอย่างมีความสุข ทั้งสองคนสวยหล่อและยังมีหน้าที่การงานที่ดี มองยังไงก็เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก ไม่ว่าจะขยับลุกนั่งหรือเดินต้อนรับแขกอติรุจน์จะคอยดูแลหญิงสาวราวกับเธอเป็นเจ้าหญิง

ไอรดารู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้แต่งงานกับเขา ทั้งที่ไม่เคยคาดหวังว่าเขากับเธอจะเข้ากันได้ดีเพราะต่างฝ่ายต่างก็ถูกผู้ใหญ่บังคับด้วยกันทั้งคู่ แต่พอเวลาผ่านไปความรักก็เกินขึ้นจนมาวันนี้วันที่ทั้งสองจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันอย่างถูกต้องสมบูรณ์

พอช่วงบ่ายคุณยายนวลแขให้นุกูลลูกเขยเธอซึ่งเป็นลุงของไอรดาไปเชิญนายอำเภอมาที่บ้านเพื่อให้ทั้งสองคนได้จดทะเบียนสมรสกันต่อหน้าญาติของทั้งสองฝ่าย

“คุณยายจะไม่ไปงานฉลองตอนเย็นจริงๆ เหรอคะ”

“หนูอัยย์อย่าอ้อนให้ยากเลย ลุงว่าปล่อยให้ยายพักอยู่บ้านเถอะ นี่ก็เตรียมงานมานานหลายวัยยายคงอยากพัก” นุกูลบอกหลานสาวที่กำลังนั่งอ้อนให้คุณยายไปร่วมงานตอนเย็นกับเธอ

“แล้วอย่างนี้ใครจะเป็นญาติผู้ใหญ่ให้อัยย์ล่ะคะลุงนุ”

“ลุงกับป้าไง นี่ลุงตัดสูทหล่อๆ ไว้แล้วนะ กะว่างานนี้จะหล่อแข่งกับเจ้าบ่าวเสียหน่อย”

“พี่ณัฐไหนมาบอกว่าไม่มีใครไปไงคะ”

“พี่พูดแบบนั้นเหรอ พูดตอนไหน เราฟังผิดหรือเปล่า ทำงานมากจนเบลอหรือเปล่า”

“จริงๆ นะคะลุงนุป้าอร พี่ณัฐพูดแบบนั้นจริง อัยย์จำได้”

“มั่วแล้วหนูอัยย์ พี่ว่าอย่าเสียเวลาเถียงกันเลย รีบกลับกรุงเทพกันเถอะ แต่งตัวไม่ทันจะมาว่าพี่ไม่ได้นะ”

“อย่างอัยย์น่ะ สวยอยู่แล้ว ต่อให้หน้าสดก็ยังได้ใช่ไหมคะพี่ติ”

“ใช่ครับ”

“นี่ขนาดเพิ่งจะแต่งได้ไม่กี่ชั่วโมงยังกลัวเมียขนาดนั้น พี่นึกไม่ออกเลยว่าต่อไปอนาคตจะเป็นยัง” ศุภณัฐยักไหล่ก่อนจะรีบขึ้นไปนั่งบนรถตู้เป็นคนแรกเพื่อไปร่วมงานฉลองตอนเย็นซึ่งตอนนี้บิดามารดาของอติรุจน์นั้นได้ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว”

“อย่าไปฟังพี่ณัฐเลยค่ะพี่ติ”

“เอาล่ะ ยายว่ารีบไปกับเถอะเดี๋ยวจะแต่งหน้าทำผมไม่ทันอย่างที่เจ้าณัฐว่า หนูอัยย์ ถึงยายไม่ไป ก็ไม่ใช่ว่ายายไม่ยินดีกับหนูนะ แต่ยายไม่ไหวจริงๆ”

“งั้นอัยย์ให้พี่ณัฐถ่ายรูปมาให้ยายดูเยอะๆ นะคะ”

“จ้ะลูก พ่อติยายฝากหนูอัยย์ด้วยนะ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันแล้วก็อย่าลืมรีบมีเหลนให้ยายอุ้มก่อนที่ยายจะไม่มีแรงนะ”

“ครับคุณยาย แล้วผมจะพาน้องอัยย์กลับมาเยี่ยมคุณยายๆ บ่อยนะครับ”

รถตู้เล่นออกจาบ้านสวนแล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนสายหลัก ใช่เวลาเพียงชั่วโมงเศษก็มาถึงบริเวณบ้านของอติรุจน์ที่ตอนนี้สถานที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม

“สวยมากเลยค่ะพี่ติ เหมือนที่อัยย์คิดไว้เลยค่ะ”

“พี่ดีใจที่อัยย์ชอบ พี่ว่าอัยย์รีบไปแต่งตัวนะครับ”

“ค่ะ”

งานฉลองตอนเย็นไอรดาสวมชุดแต่งงานเกาะอกสีขาว กระโปรงยาวถึงพื้น ผมเกล้าเป็นมวยตํ่า ส่วนเจ้าบ่าวนั้นอยู่ในสูทสีขาว ทั้งสองคนยืนต้อนรับแขกอยู่หน้างานด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แขกที่มางานต่างชื่นชมบ่าวสาวว่าสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก

เมื่อถึงเวลาที่กำหนดทั้งสองก็ขึ้นไปกล่าวขอบคุณแขกบนเวที จากนั้นก็ตัดเค้กและโยนช่อดอกไม้เมื่อเสร็จพิธีก็ถึงเวลาเข้าหอ ญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็ร่วมอวยพร

“ลุงฝากน้องด้วยนะคุณติ หนักนิดเบาหน่อยให้อภัยกัน”

“ครับ”

“ส่วนป้าก็อยากให้ทั้งสองคนรักกันใหมากๆ จะทำอะไรก็ขอให้นึกถึงวันนี้ที่ทั้งสองคนมีความสุข”

“ครับคุณลุงคุณป้า” อติรุจน์รับคำ

“พ่ออยากหนูอัยย์กับติมีหลานให้พ่ออุ้มเร็วๆ ” บิดาของเจ้าบ่าวอวยพร

“แม่ก็ขอให้หนูอัยย์มีความสุขกับชีวิตคู่นะลูก”

“ขอบคุณค่ะแม่ “ไอรดากล่าวขอบคุณมารดาของสามี

“ส่วนพี่ไม่ขออะไรมาก ขอให้รักน้องสาวของพี่ให้มากๆ ก็พอ”

จากนั้นทุกคนก็ออกไปจากห้องนอน ไอรดารู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่อยู่กันตามลำพังกับอติรุจน์ แม้ว่าจะคบกันมานาน แต่ทั้งสองก็ไม่เคยทำมากกว่าการจับมือเลย

อติรุจน์ไม่เคยล่วงเกินเธอสักครั้งเพราะอยากรอให้ถึงวันนี้วันที่ทั้งสองแต่งงานกันอย่างถูกต้อง และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไอรดารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโชคดีที่สุดคนหนึ่ง

“เหนื่อยไหมครับ”

“ค่ะ อัยย์ไม่คิดเลยว่าจะเหนื่อยจนแทบหมดแรงแบบนี้ เหนื่อยกว่าขึ้นเวรที่โรงพยาบาลอีกค่ะ พี่ติล่ะคะเหนื่อยไหม”

“ครับ พี่เป็นผู้ชายยังเหนื่อยขนาดนี้ แต่เดี๋ยวนอนพักก็คงหายเหนื่อย”

“พี่ติยังไม่บอกเลยว่าจะพาอัยย์ไปฮันนีมูนที่ไหน”

“พรุ่งนี้เจ้าจะบอกครับ รับรองว่าอัยย์ต้องชอบ แต่ตอนนี้พี่ว่าอัยย์ไปอาบน้ำก่อนดีไหมครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ให้พี่ช่วยถอดชุดให้ไหม”

“ไม่เป็นไรค่ะ อัยย์ถอดเองได้”

“ไม่เห็นต้องอายเลยเราแต่งงานกันแล้ว

“ไม่ได้อายสักหน่อย”

“งั้นหันหลังมานะครับเดี๋ยวพี่รูดซิปให้”

ไอรดาหันหลังให้เขาอย่างว่าง่าย หัวใจเธอเต้นแรงเมื่อชุดถูกรูดลงไปกองอยู่กับพื้น หญิงสาวรีบความผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่มาพันรอบกายอย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่ยืนอยู่ด้านหลังได้แต่หัวเราะด้วยความเอ็นดู

“เอาล่ะ อัยย์ไปอาบได้แล้ว เดี๋ยวพี่จะออกไปอาบห้องน้ำแขกนะครับจะได้รีบเข้านอนพร้อมกัน”

“ค่ะพี่ติ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel