13 เปิดอกคุย
“อัยย์ครับ อัยย์”
“คุณชาน์ เช้าแล้วเหรอคะ” ไอรดาปรือตามองในขณะที่ตัวเองยังซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม
“ครับเช้าแล้วผมต้องไปประชุม คุณลุกไหวไหมครับ” เมื่อคืนกว่าเขากับเธอจะหมดแรงก็ถึงสวรรค์กันมารู้กี่รอบต่อกี่รอบ ปิญชาน์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอรดาจะเป็นผู้หญิงที่อึดและเร่าร้อนถึงเพียงนี้ และเขาก็ตามหาผู้หญิงแบบนี้มานานผู้หญิงสวยดูเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่เรื่องบนเตียงนั้นเด็ดจนเขาอยากจะเก็บเธอไว้แบบนี้ตลอดไป
“คิดว่าไหวค่ะ แต่ตอนนี้อัยย์ยังไม่อยากลุกค่ะ”
“ให้ผมสั่งอาหารเช้ามาให้ไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“คุณจะนอนทั้งวันไม่ได้นะครับอัยย์”
“อัยย์ไม่ได้จะนอนทั้งวันสักหน่อย สายๆ อัยย์ก็จะออกไปหาอะไรกินเอง คุณรีบไปเถอะค่ะ”
“วันนี้จะไปเที่ยวไหนบ้างครับ”
“คงไม่มีแรงออกไปเที่ยวแล้วคุณทำอัยย์หมดแรง”
“ก็คุณอยากน่ารักทำไมล่ะ”
“ความผิดของอัยย์ที่ไหน คุณหื่นเองต่างหาก”
“ถ้างั้นขอคนหื่นหอมให้ชื่นใจก่อนไปประชุมได้ไหม” ปิญชาน์นั่งบนเตียงแล้วกดจูบไปบนขมับของไอรดาอย่างรักใคร่
“เดี๋ยวประชุมสายนะคะไปเถอะค่ะ”
“ขอจูบได้ไหมจะได้มีแรงประชุมทั้งวัน”
“อย่าเลยอัยย์ยังไม่ได้แปรงฟัน”
“งั้นติดไว้ก่อนเย็นนี้ค่อยทบต้นทบดอก”
“ไม่พูดด้วยแล้วคุณรีบไปเถอะ อัยย์จะนอนต่อ”
“โอเค ผมไปก็ได้คุณอย่าลืมตื่นมาทานข้าวนะครับ”
“ค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เรื่องกินสำหรับอัยย์แล้วเรื่องใหญ่มาก”
“อย่าลืมกินเยอะๆ นะครับจะได้มีแรง” ชายหนุ่มพูดกลั้วเสียงหัวเราะก่อนจะรีบออกไปจากห้องนอนก่อนที่จะห้ามใจไม่ไหวจับคนขี้เซากดลงบนที่นอนอีกครั้ง
ปิญชาน์กลับมาที่ห้องพักของตัวเองแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงไปประชุมวิชาการซึ่งวันนี้เป็นการประชุมวันสุดท้ายและในตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ขึ้น ซึ่งเขาคิดว่าคงจะไม่เข้าร่วมเพราะไม่อยากเสียเวลาที่จะอยู่กับไอรดา
ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนการประชุมจะเริ่มชายหนุ่มจึงรีบตรงไปยังห้องอาหารของโรงแรมเพราะเมื่อคืนเข้าใช้พลังงานไปมาก ถ้าเช้านี้ไม่ได้ทานอะไรคงเข้าประชุมไม่รู้เรื่องแน่ๆ
บริเวณห้องอาหารในเวลาสายแบบนี้ผู้คนค่อนข้างบางตาเพราะส่วนใหญ่นั้นทานเรียบร้อยและเข้าประชุมกันแล้ว เนื่องจากเป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวคนอื่นเลยมีไม่มากเท่าไหร่
“พี่หมอชาน์คะ ทางนี้ค่ะ” เสียงใสที่เรียกทำให้ปิญชาน์หันไปตามเสียงเขายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังเรียกนั้นเป็นใคร”
“น้องพั้นซ์ มาประชุมกับเขาด้วยเหรอครับ”
“ค่ะ พั้นซ์เพิ่งมาเมื่อวานค่ะ พอดีวันแรกมีเคสที่โรงพยาบาลค่ะ เมื่อวานตอนเย็นพี่หมอที่หน้าโรงแรมว่าจะเข้าไปทักและชวนไปหาอะไรทานแต่พอคุยกับเพื่อเสร็จหันมาอีกทีพี่หมอก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ค่ะ”
“อ๋อ เมื่อวานพี่ออกไปกับเพื่อนครับพอดีว่าเขาพักอยู่อีกที่”
“แล้วเย็นนี้มีงานเลี้ยงพี่หมอจะมาด้วยไหมคะ”
“พี่ยังไม่แน่ใจเลยครับ ถ้ามาก็อาจจะอยู่ได้ไม่นาน”
“จะไปหาเพื่อนอีกเหรอคะ พั้นช์ว่าคงไม่ใช่เพื่อนธรรมดาแล้วมั้งคะ พามาแนะนำให้น้องรู้จักบ้างสิคะ”
“เพื่อนจริงๆ ครับ”
“พูดแบบนี้ก็เลยอดลุ้นเลย เมื่อไหร่พี่หมอจะหาแฟนสักทีคะ น้องละเบื่อพ่อกับแม่มากที่พยายามจับคู่เราอยู่นั่นแหละ”
“พั้นช์ก็รีบหาแฟนสิครับ ท่านจะได้ไม่จับคู่เรา”
“พี่ก็พูดเหมือนว่าแฟนมันหาง่ายนะคะ อาชีพอย่างเราไม่ค่อยมีเวลาด้วยสิ ถ้ามีแฟนพั้นช์ก็กลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจ”
“งั้นก็หาแฟนเป็นหมอสิ”
“พูดเหมือนคุณแม่เลยค่ะว่าให้หาแฟนอาชีพเดียวกัน แต่พั้นช์ว่ามันน่าเบื่อนะคะ ถ้าพั้นช์จะมีแฟนก็อยากได้แฟนที่ไม่ใช่หมอค่ะ อยากได้คนที่มีเวลาให้เรามากๆ”
“นั่นสินะ เราไม่ค่อยมีเวลาก็ต้องหาคนที่มีเวลามากๆ มันจะได้บาลานซ์กัน”
“แล้วเพื่อนพี่หมอล่ะคะทำงานอะไร”
“พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันไม่เคยถามเขาสักที”
คำตอบของหมอรุ่นพี่ทำให้พัณณ์ชิตาค่อนข้างจะแปลกใจว่ารุ่นพี่ของเธอคนนี้คบกับเพื่อนในลักษณะไหน
“ใกล้เวลาเริ่มประชุมแล้วล่ะพั้นช์ พี่ว่าเรารีบไปกันดีกว่านะ” ปิญชาน์รีบตัดบทเพราะไม่อยากให้คุณหมอรุ่นน้องถามอะไรมากไปกว่านี้เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเธอเลย ครั้นจะไปถามสารัชว่าเธอเป็นใคร ทำงานอะไรก็กลัวว่าจะทำให้เธอเดือดร้อน
การประชุมวันสุดท้ายค่อนข้างเข้มข้นช่วงเวลาพักกลางวันปิญชาน์ก็ยังมีข้อสงสัยที่จะถามอาจารย์หมอเขาจึงไม่ได้กลับไปทานอาหารกลางวันกับไอรดา เขาใช้โทรศัพท์อีกเครื่องไลน์ไปถามเธอว่าทานข้าวหรือยัง พอเธอตอบมาว่าทานแล้วเขาก็พูดคุยกับเพื่อนและอาจารย์หมอต่อจนถึงเวลาประชุมในภาคบ่าย
ออกจากห้องประชุมก็รีบตรงดิ่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะอยากจะไปหาไอรดาที่บ้านพักก่อนจะกลับมาที่งานเลี้ยงให้ทันเวลา
“พี่หมอจะรีบไปไหนคะ งานเริ่มตั้งหนึ่งทุ่ม นี่ยังไม่หกโมงเลยค่ะ” พัณณ์ชนิตาทักทายเขาที่หน้าลิฟต์
“ว่าจะแวะไปหาเพื่อนหน่อยครับ”
“ชวนเธอมาด้วยสิคะ พั้นช์อยากรู้จักค่ะ”
“เธอไม่ค่อยสะดวกครับ เอาไว้ถ้าเธอสะดวกพี่จะแนะนำให้พั้นช์รู้จักเป็นคนแรกเลยนะครับ”
“พั้นช์จะรอต้อนรับพี่สะใภ้นะคะ”
“ครับ พี่ไปก่อนนะเจอกันในงานนะครับ”
ปิญชาน์มาถึงบ้านพักก็เป็นเวลาที่ไอรดากลับมาจากข้างนอกพอดี
“คุณชาน์ กินเค้กด้วยกันไหมอัยย์ซื้อมาหลายชิ้นเลย” ไอรดาชูถึงเค้กในมือที่เธอซื้อจากคาแฟ่แห่งหนึ่งกลับมาด้วย เพราะนั่งดื่มกาแฟและทานที่ร้านแล้วถูกใจกับรสชาติจึงซื้อกลับมาด้วย
“ขอบคุณครับ อัยย์กินข้าวเย็นหรือยัง” ปิญชาน์เดินตามเธอเข้ามานั่งในห้องรับแขกโดยมีเจ้าของบ้านนั่งลงข้างๆ
“ยังเลยค่ะ อัยย์เพิ่งกินข้าวกลางวันไปตอนบ่ายสองเองค่ะ คุณล่ะคะจะอยู่ทานด้วยกันไหม”
“ผมต้องไปงานเลี้ยงตอนหนึ่งทุ่มครับ ขอโทษนะครับที่อยู่ทานด้วยไม่ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“แต่ผมรีบกลับมานะครับ พรุ่งนี้เราไปเที่ยวด้วยกันดีไหมผมประชุมเสร็จแล้ว”
“อัยย์นึกว่าประชุมเสร็จคุณจะรีบกลับไปทำงานต่อเสียอีก”
“ผมว่างอีกหนึ่งวันครับ คุณล่ะครับวางแผนจะมาเที่ยวที่นี่อีกกี่วัน”
“ถ้าตามแพลนก็จะอยู่จนถึงวันมะรืนค่ะ”
“ลางานมาเหรอครับ”
“ค่ะ อัยย์ลางานไปฮันนีมูน”
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องคิดถึงเรื่องเก่าๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อัยย์ดีใจที่รู้เรื่องของเขาก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อ คุณชาน์คะ อัยย์ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“ครับ”
“คุณว่าถ้าอัยย์ไม่รู้ความจริง เขาจะนอนกับอัยย์ จะทำเหมือนผู้ชายทำกับผู้หญิงไหมคะ”
“ผมตอบแทนเขาไม่ได้ แต่ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผู้ชายยังไงก็คือผู้ชายตราบใดที่เข้ายังมีไอ้นั่นอยู่เขาก็ทำแบบนั้นกับผู้หญิงได้ครับ”
“ขนลุกเลยค่ะ” ไอรดาคิดแล้วก็ขนลุกซึ่งถ้าหากคืนนั้นเธอไม่รู้เรื่องของเขาเธอก็คงได้กลายเป็นภรรยาของผู้ชายที่เป็นภรรยาของคนอื่น
“อัยย์โชคดีที่รู้เรื่องนี้ก่อนเพราะมีอีกหลายคนที่ไม่รู้เลยว่าสามีตัวเองนั้นนอนได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง” เพราะลักษณะงานที่ทำอยู่เลยพอจะรู้เรื่องภายในครอบครัวของคนไข้อยู่มาก แต่ก็เล่าอะไรให้เธอฟังมากไม่ได้เนื่องจากว่ามันผิดจรรยาบรรณ
“คิดแบบนี้อัยย์ก็สบายใจค่ะ”
“เราอย่าพูดถึงเรื่องของเขาอีกเลยพูดเรื่องของเราดีกว่า”
“เรื่องอะไรคะ”
“ก็เรื่องที่เราจะคบกันไงครับ ผมอยากฟังคำตอบชัดๆ อีกครั้ง”
คุณหมอหนุ่มขยับมาประชิดแล้วกับไอรดาไว้ในอ้อมกอดของตนเอง ใบหน้าหล่ออยู่ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นบนแก้มเนียน
“ขออัยย์คิดอีกนิดได้ไหม”
“ผมจะมาฟังคำตอบคืนนี้นะครับ”
“แต่คุณจะไปงานเลี้ยงนี่คะ”
“ผมจะรีบกลับมา”
“อย่าหมดสนุกเพราะต้องรีบมาหาอัยย์เลยค่ะ เอาเป็นว่างานเลิกค่อยมาหาอัยย์ก็ได้ แต่ถ้ามันดึกเกินไปคุณก็นอนพักที่โรงแรมก่อน ตอนเช้าเราค่อยคุยกันก็ได้”
“ถ้าไม่ได้คุยคงนอนไม่หลับอีกแน่นๆ เอาเป็นว่าดึกแค่ไหนผมก็จะมาหาคุณ”
“ถ้าคุณยืนยันแบบนั้นอัยย์ก็จะรอค่ะ”
“ผมไปล่ะนะ”
“ค่ะ ขอให้สนุกนะคะ”
เขาบอกจะไปแต่ยังนั่งนิ่งจนไอรดาชักสงสัย
“ทำไมไม่ลุกล่ะคะ”
“อยากให้อัยย์หอมแก้มก่อนไป”
จริงๆ แล้วเขาอยากจะจูบเธอมากกว่าแต่ก็กลัวว่าถ้าจูบแล้วจะไม่ได้ออกไปจากบ้านพักแน่ๆ เพราะทุกครั้งที่อยู่ใกล้ไอรดาเขาก็มักจะคุมตัวเองไม่อยู่
ไอรดายิ้มก่อนจะกดจมูกไปบนแก้มของเขาทั้งสองข้างอย่างแผ่วเบา
“รู้สึกดีจังที่มีคนหอมแก้มก่อนออกจากบ้าน” ปิญชาน์ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินออกจากบ้านตรงไปยังห้องจัดเลี้ยงที่โรงแรมในเวลาหนึ่งทุ่มพอดี