26 ไม่ได้รัก
ผ้าแพร...
"ผมว่าก่อนที่แม่จะหาผู้ชายดีๆมาให้คนของแม่ผมว่าแม่ควรจะพิจารณาดูรูปร่างหน้าตาคนของแม่ก่อนจะดีกว่านะครับหน้าตาแบบนี้ผู้ชายดีๆที่ไหนจะมามอง ผมจะบอกให้นะครับว่าผู้ชายที่เค้ามีโปรไฟล์ดีๆหน้าที่การงานดีๆเค้าก็ต้องหาผู้หญิงที่คู่ควรกับเค้าไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ฐานะทางสังคมหรือแม้แต่การศึกษาเพราะมันจะเชิดหน้าชูตาวงค์ตระกูลของเค้าไม่ใช่ว่าจะไปคว้าเอาผู้หญิงที่ไหนมาก็ได้" ฉันรู้ว่าเขาหมายถึงฉันเพราะขณะที่เขาพูดเขาใช้สายตามองมาทางฉันตลอดเวลาเหมือนกับจะบอกให้ฉันรับรู้และสำนึกตัวเองว่าคนอย่างฉันไม่มีผู้ชายดีๆที่ไหนมาสนใจ แต่ถ้ามองในหลักความเป็นจริงแล้วมันก็จริงอย่างที่เขาพูดนั่นแล่ะเขาพูดถูกทุกอย่างไม่มีใครสนใจผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลยอย่างฉันหรอกจริงไหม
"ถึงหนูแพรจะไม่ได้สวยเลิศเลอเพอร์เฟคเหมือนคนอื่นหรือสาวๆที่เราเคยควงแต่แม่ก็ยังเชื่อว่าบนโลกใบนี้ยังมีผู้ชายดีๆที่เค้าไม่ได้มองผู้หญิงที่เปลือกนอก ผู้ชายที่เค้ามองข้ามเรื่องพวกนี้แล้วมองที่ความดีภายในจิตใจแม่ว่ายังมีอีกเยอะ ผู้ชายแบบนี้น่ะเหมาะที่จะเป็นสามีที่ดีเป็นพ่อที่ดีของลูก และแม่เชื่อว่าอย่างหนูแพรน่ะถ้าใครได้ไปเป็นภรรยาไปเป็นแม่ของลูกแม่มั่นใจว่าผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก ไม่เชื่อคินก็คอยดู"
"เอาเป็นว่าผมจะคอยดูอยู่ห่างๆละกันนะครับ แต่ยังไงผมก็ขอขอบคุณแม่นะที่ไม่บังคับฝืนใจผมให้หมั้นกับคนที่ผม...ไม่ได้รัก" เขาเน้นสามคำสุดท้ายแล้วหันมาทางฉันอีกครั้งก่อนที่เขาจะดึงมือเมนี่ให้ลุกออกจากโต๊ะอาหารแล้วพาขึ้นไปข้างบน ส่วนฉันก็ทำได้เพียงแค่ก้มหน้าเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกมา ถามว่าคำพูดของเขาเมื่อครู่มันทำร้ายฉันได้ไหม ได้สิทำไมจะไมไ่ด้มันเหมือนเขากำลังย้ำว่าเขาไม่เคยรักฉันเลย ซ้ำยังดูถูกฉันว่าคนอย่างฉันคงไม่มีผู้ชายไหนมองหรือมาสนใจ เอาจริงๆเรื่องแบบนี้ฉันไม่เคยสนใจว่าจะมีใครมองหรือเปล่าฉันอยู่ของฉันแบบทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้วฉันไม่อยากเอาหัวใจตัวเองไปผูกติดอยู่กับใครอีกเพราะที่ผ่านมาฉันก็เจ็บปวดมากพอแล้วคนอย่างฉันมันคงจะเหมาะกับการที่จะต้องอยู่คนเดียวมากกว่า
อคิน....
หลังจากขึ้นมาข้างบนผมก็ผมนอนไถมือถือไปเรื่อยแต่มันไม่มีอะไรน่าสนใจก็เลยโยนมันลงบนเตียงก่อนจะเดินไปหยิบบุหรี่มาสูบนอกหน้าต่าง คือผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรมันรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกผมถึงต้องหาตัวช่วยนั้นก็คือสูบบุหรี่ คือถ้าผมมีเรื่องกวนใจไม่สบายใจไม่โอเคผมจะสูบบุหรี่เพื่อคลายเครียดแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้มันไม่หายสักที
"คินเป็นอะไรเครียดเหรอ
"เปล่าหนิ"
"เปล่าอะไรก็เห็นอยู่ว่ากำลังเครียดอารมณ์ไม่ดี หรือว่าไม่พอใจที่คุณลุงคุณป้ายกเลิกเรื่องหมั้นกับผ้าแพร"
"เหอะ ฉันควรจะต้องดีใจหรือเปล่าที่ไม่ต้องหมั้นกับยัยนั่น"
"แน่ใจเหรอที่พูด"
"ทำไมต้องถามว่าแน่ใจไม่แน่ใจ"
"ก็เมนี่เห็นคินทำท่าทางไม่พอใจเหมือนโกรธใครตั้งแต่นั่งที่โต๊ะอาหารแล้วตอนที่คุณป้าบอกคินไม่ต้องหมั้น เมนี่ก็นึกว่าคินเครียดที่ไม่ได้หมั้น"
"ฉันเครียดเรื่องสอบ..มั้งช่วงนี้สอบก็เลยเครียดไม่เกี่ยวกับยัยนั่นซะหน่อย"
"คินเมนี่ขอถามอะไรหน่อยสิเรื่องผ้าแพรน่ะ"
"ถามอะไร"
"คินเคยคบกับผ้าแพรจริงๆเหรอ"
"อืม ทำไม ไม่เชื่อที่ฉันเคยบอกเหรอ" คือผมพูดให้เมนี่ฟังเรื่องผมกับผ้าแพรก่อนจะมาบ้านแต่ก็ไม่ได้เล่าทั้งหมดเพราะถ้าเล่าก็คงจะยาวก็เลยเล่าแค่นิดหน่อย
"ก็ผ้าแพร เอ่อ"
"ไม่สวยใช่ไหม"
"ก็ไม่เชิงว่าไม่สวยนะผ้าแพรเธอก็น่ารักดีแล่ะแต่ดูๆแล้วไม่ใช่สเป๊กของคินเลยอ่ะเพราะที่รู้จักคินมาสาวๆแต่ละคนที่คินคบสวยๆระดับดาวมหาลัยระดับนางแบบนางเอกแถวหน้าทั้งนั้นของวงการทั้งนั้นแต่ผ้าแพรเธอไม่ใช่เลย มันไปกันคนละทางเลยเมนี่ก็เลยสงสัยว่าคินเคยคบกับผ้าแพรจริงๆเหรอ"
"เอาเป็นว่าฉันเคยคบแต่ไม่เคยเอาเคลียร์ไหม"
"ห๊ะ จริงดิ คนอย่างคินนี่นะจะไม่เอ่อไม่มีอะไรกับแฟนตัวเอง"
"เธอก็เห็นอยูว่ายัยนั่นหน้าตาเป็นยังไงใครจะเอาลงวะ"
"พูดเกินไปหรือเปล่าคิน"
"ฉันขี้เกียจพูดกับเธอละ เดี๋ยวฉันจะให้คนขับรถที่บ้านไปส่งนะ ฉันอยากอาบน้ำนอน" พูดจบผมก็เดินหลับมาในห้องแล้วก็หยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ
เวลาต่อมา....
"แม่งมาหิวอะไรตอนนี้วะ" ผมตื่นมากลางดึกเพราะความหิว คือเมื่อเย็นผมยังไม่ทันได้กินอะไรเลยมัวแต่เถียงกับแม่ก็ขึ้นมาข้างบนซะก่อนก็เลยมาหิวเอาตอนนี้ ผมเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อลงไปหาอะไรทานในครัว
กุก กุก กัก กัก
"เสียงอะไรวะ" ผมหยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่ดังมาจากในครัว จะว่าเป็นผีก็คงไม่น่าจะใช่เพราะเห็นเปิดไฟอยู่ ผมค่อยๆเดินเข้าไปแล้วส่องดูว่าใครมาทำอะไรดึกๆดื่นๆตอนตีสองแบบนี้ปรากฏว่าเป็นผ้าแพรที่ไม่รู้กำลังทำอะไรอยู่หน้าเตา
"ทำอะไรของเธอ" ผมถามออกไปท่ามกลางความเงียบพอยัยนั่นได้ยินเสียงผมก็ถึงกับสะดุ้งตกใจจนทำให้หม้อน้ำร้อนที่ถืออยู่ลวกใส่มือ
"ว๊ายยย โอ๊ยยย ร้อนๆ"
"เห้ย!!!" ผมตกใจรีบวิ่งเข้าไปดูทันที
"ฮึก ฮึก แสบ"
"โง่ว่ะถือยังไงวะให้น้ำร้อนลวกมือ" ผมดึงมือยัยนั่นไปที่ก๊อกน้ำแล้วเปิดน้ำเย็นราดมือจากนั้นผมก็เดินไปหยิบผ้าสะอาดมาชุบน้ำเย็นจัดแล้วประคบไปที่รอยแดง
"ฮึก ขอบใจนะ"
"อืม ประคบไว้ไม่ต้องเอาออก" ผมบอกผ้าแพรที่เอามือจับผ้าเย็นที่ผมเอามาประคบให้ ก่อนจะตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยวะผมไม่ได้เป็นคนทำให้ยัยนี่เจ็บสักหน่อยยัยนี่ทำน้ำลวกตัวเองแท้ๆ
"นี่เธอกำลังจะทำอะไร ต้มมาม่า??" ผมถามเพราะเห็นยัยนั่นเปิดถ้วยมาม่าไว้บนโต๊ะ สงสัยกำลังจะเอาน้ำร้อนใส่ถ้วยแต่มันดันลวกมือซะก่อน
"อื้ม"
"ทำไม หิวเหรอถึงลงมาต้มมาม่าตอนตีสอง"
"คือเมื่อเย็นเรากินอะไรไม่ค่อยลงน่ะ"
"ที่กินไม่ลงเพราะมัวแต่ดีใจที่แม่ของฉันจะหาผัวรวยๆให้ล่ะสิ"
"เปล่านะ เราไม่เคยคิดแบบนั้น คินอย่าเข้าใจผิด"
"จะเข้าใจผิดหรือถูกมันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับฉันหรอก"
"นั่นสินะ เราจะเป็นยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับคินอยู่แล้วนี่เนอะ" จากนั้นทั้งผมทั้งยัยนั่นต่างพากันเงียบจนผมรู้สึกอึดอัด
"มาม่ามีอยู่ไหม"
"คินก็หิวเหมือนกันเหรอ"
"เออดิ"
"งั้นเดี๋ยวเราต้มน้ำให้นะ"
"ไม่แสบมือแล้วหรือไงถึงจะไปต้มน้ำ"
"ดีขึ้นแล้วล่ะขอบคุณนะที่เป็นห่วง"
"........" ผมเงียบไม่ตอบ จากนั้นผมก็นั่งรอน้ำร้อนผมมองผ้าแพรที่เดินหยิบโน่นหยิบนี่มาใส่ในถ้วยมาม่าของผมมีทั้งผักทั้งหมูท้้งไข่
"ใส่อะไรเยอะแยะวะ"
"ก็มาม่ามันไม่ได้มีสารอาหารครบถ้วน เราต้องเติมผักเติมเนื้อสัตว์ลงไปเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร"
"แล้วของเธอไม่ใส่หมูใส่ไข่ล่ะทำไมใส่แต่ผัก??"
"เราชอบกินแบบนี้"
"หึกินง่ายดีนะ"
หลังจากนั้นทั้งผมทั้งผัาแพรก็นั่งกินมาม่ากันในครัวท่ามกลางความเงียบ หลายครั้งที่ผมเผลอมองหน้าผ้าแพรโดยไม่รู้ตัว