23 รู้สึกเหมือนเดิม
ผ้าแพร....
แล้ววันที่ฉันกลัวว่าจะมาถึงมันก็มาจนได้ตอนนี้ทุกคนรวมถึงตัวฉันนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกเว้นแต่พลอยใสที่ไม่ยอมลง อยากจะบอกว่าตั้งแต่วันนั้นไม่มีใครพูดกับฉันเลยสักคนทั้งพ่อแม่และน้องสาวต่างทำราวกับฉันเป็นธาตุอากาศ
"หนูแพรมานั่งข้างๆป้ามาลูก" คุณป้าแม่ของคินเรียกให้ฉันไปนั่งข้างๆท่านเพราะตอนนี้ฉันนั่งอยู่มุมห้องไม่กล้าจะไปนั่งรวมกับทุกคน นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ฉันกับคินน้องนั่งใกล้กันเพราะคุณป้าขยับตัวออกมาแล้วให้ฉันนั่งตรงกลางแขนของเราแตะสัมผัสกันโดยความไม่ตั้งใจพอเขารู้ตัวเขาก็ขยับแขนออกทันทีราวกับรังเกียจฉัน การกระทำของเขาต่างกับตอนที่เขาวิ่งเข้าไปอุ้มพลอยใสที่เป็นลมมานอนบนโซฟา ถ้าให้ฉันเดาเขาคงจะชอบพลอยใสฉันคิดแบบนั้นเพราะพลอยใสน่ะสวยกว่าฉันมากถ้าไปเดินข้างนอกคนอื่นคงไม่รู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันพวกเขาคงคิดว่าฉันเป็นแม่บ้านเป็นคนติดตามรับใช้มากกว่า
"ตกลงว่ายังไงคะข้อเสนอของพี่" คุณป้าเปิดประเด็นเมือ่เห็นว่าพ่อกับแม่ของฉันเงียบ
"จะให้ตกลงว่ายังไงได้ล่ะคะในเมื่อคุณพี่มัดมือชกดิฉันขนาดนี้ยังไงก็คงต้องยอมอยู่แล้วค่ะ" แม่พูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันจนฉันสังเกตุได้ส่วนสายตาของท่านก็มองมาที่ฉันอย่างไม่พอใจเพราะแทนที่จะเป็นพลอยใสที่ถูกสู่ขอกลับกลายเป็นฉัน
"ก็ดีค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะพี่ไม่เอาเปรียบอยู่แล้วเงินที่ยืมก็ส่วนยืมดอกเบี้ยก็เป็นไปตามที่เราตกลงกันส่วนค่าสินสอดก็อีกส่วนนึงคุณน้องจะเรียกเท่าไหร่ก็ว่ามาเลยค่ะ" พอได้ยินแบบนั้นแม่กับพ่อของฉันก็หันมามองหน้ากันทันทีซึ่งฉันหวังว่าทั้งสองคงไม่เรียกร้องอะไรมากมายจนเกินไปเพราะคนอย่างฉันมันไม่ไ่ด้มีค่าอะไร
"ค่าสินสอดน้องขอเป็นเงินสดยี่สิบล้านบาทค่ะ แหวนเพชรอีกแปดกะรัต" ฉันถึงกับพูดไม่ออกเมือ่ได้ยินข้อเรียกร้องของแม่คือมันมากเกินไปจริงๆ และพอฉันหันไปมองคนข้างๆฉันก็เห็นรอยยิ้มหยันของคินที่มองไปทางฉันด้วยสายตาดูถูกเขาคงคิดว่าครอบครัวฉันหิวเงินถึงกล้าเรียกร้องค่าสินสอดมากมายขนาดนี้
"ได้ค่ะไม่มีปัญหา แต่มีข้อแม้นะคะ หลังจากหมั้นกันแล้วหนูแพรต้องไปอยู่ที่บ้านพี่แล้วครอบครัวของน้องก็ห้ามมายุ่งเกี่ยวกับหนูแพรอีกเป็นอันขาดตกลงมั้ยคะ อ่อส่วนเรื่องงานแต่งคงจะต้องรอให้ตาคินเรียนจบก่อน" ฉันไม่คิดว่าคุณป้าจะยอมรับข้อเสนอเพราะเงินไม่มช่น้อยๆไหนจะแหวนอีกที่ถ้าประเมินราคาคงจะหลายล้านบาท ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรคุณป้าถึงกล้ายอมเสียเงินมากมายขนาดนี้เพื่อแลกกับคนอย่างฉัน
เวลาต่อมา....
ตอนนี้ฉันมายืนอยู่ในบ้านของคินซึ่งเป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่บ้านของเขาใหญ่โตราวกับปราสาทซึ่งแน่นอนว่ามันใหญ่กว่าบ้านของฉันหลายสิบเท่า แม่บ้านคนสวนคนขับรถที่นี่แต่งตัวด้วยชุดยูนิฟอร์มเหมือนกันหมดทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อยบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าของที่นี่ต้องเป็นคนเจ้าระเบียบอย่างแน่นอน ต่างจากบ้านของฉันที่ใครจะวางอะไรตรงไหนก็วางโดยเฉพาะพลอยใสที่ชอบโยนอะไรต่อมิอะไรเรี่ยราดไม่เป็นที่และเป็นฉันที่ต้องคอยเก็บให้เข้าที่เข้าทาง
"ทุกคนจ๊ะ ฉันขอแนะนำให้รู้จักนะนี่คือหนูผ้าแพรเธอจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะว่าที่คู่หมั้นของอคินทุกคนต้องเคารพและเชื่อฟังเพราะหนูแพรจะมาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของฉันทุกคนเคารพฉันเคารพคุณท่านเคารพอคินอลินยังไงก็ให้เคารพหนุูแพรแบบเดียวกันเข้าใจไหม"
"ค่ะคุณผู้หญิง/ครับคุณผู้หญิง"
"เอาล่ะไม่มีอะไรแล้วก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของใครของมันได้ละ"
หลังจากทุกคนออกไปกันหมดทั้งห้องก็เหลือแค่ฉัน คุณป้า แล้วก็..อคิน
"ป้าจะพาหนูไปดูห้องนะจ๊ะ ห้องของหนูจะอยู่ชั้นสาม" จากนั้นคุณป้าก็จูงมือฉันเดินไปที่ลิฟต์แก้วที่อยู่ภายในตัวบ้านซึ่งบ้านหลังนี้มีทั้งหมดห้าชั้น ฉันรู้สึกตื่นเต้นจนมือเย็นไปหมดฉันมองไปรอบเห็นถึงความหรูหราอลังการของบ้านหลังนี้ก่อนที่สายตาของฉันจะมองลงไปข้างล่างเป็นจังหวะที่เขาเงยหน้าขึ้นมาพอดีทำให้ฉันกับเขาเราสบตากันแวบหนึ่งจากนั้นเขาก็เดินหายไปจากตรงนั้น คุณป้าพาฉันมาถึงชั้นสามแล้วจูงมือฉันไปถึงประตูห้องๆหนึ่งก่อนจะกดรหัสเข้าห้องและพอประตูเปิดออกฉันก็เห็นภายในห้องนอนที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามคือห้องนอนที่ใหญ่กว่าห้องรับแขกบ้านฉันอีก เตียงนอนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องสามารถนอนได้เกือบสิบคนข้าวของเครื่องใช้ต่างๆดูหรูหราและแพงมากจนฉันคิดว่าตัวเองจะกล้าหยิบมาใช้ไหม
"ชอบมั้ยจ๊ะหนูแพร"
"เอ่อ คุณป้าจะให้แพรอยู่ห้องนี้จริงๆเหรอคะ"
"ใช่สิจ๊ะ ทำไมเหรอหนูแพรไม่ชอบเหรอลูก ห้องนี้ป้าให้คนมาตกแต่งใหม่หมดเลยนะลูกถ้าหนูแพรไม่ชอบจะเปลี่ยนก็ได้นะจ๊ะ" น้ำเสียงอบอุ่นใจดีของท่านถามฉันจนฉันรู้สึกเกรงใจ
"ชอบค่ะชอบมากแต่มันดูไม่เหมาะกับแพรเลยสักนิดคุณป้าให้แพรนอนห้องเล็กๆก็ได้นะคะ"
"ห้องเล็กๆไม่มีหรอกจ๊ะ ทุกห้องในบ้านนี้หลังนี้ขนาดเท่ากันหมด อ่อยกเว้นห้องตาคินที่อาจจะใหญ่กว่าห้องอื่นๆเพราะรายนั้นน่ะเหมายกชั้น ห้องของตาคินจะอยู่ชั้นสองนะ เพราะตาคินไม่ชอบขึ้นลิฟต์สักเท่าไหร่ชอบขึ้นลงบันไดมากกว่า" ฉันพยักหน้ารับรู้จากนั้นท่านก็ให้ฉันได้มีเวลาเป็นส่วนตัว พอได้อยู่คนเดียวได้ใช้ความคิดฉันก็เริ่มคิดว่าตอนนี้มันเป็นความจริงหรือความฝัน ฉันมาอยู่ที่บ้านของคินจริงๆเหรอ แล้วฉันต้องหมั้นและแต่งงานกับเขาจริงๆใช่ไหมมันเหมือนฝันเลยฝันที่ฉันเคยฝันเมื่อนานมาแล้วว่าถ้าฉันกับเขาเรียนจบแล้วเราจะได้แต่งงานกันอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่ามีลูกน่ารักด้วยกันแต่สุดท้ายความฝันของฉันก็ต้องพังลงในเวลาอันรวดเร็ว อยากจะบอกว่าฉันมีสิ่งที่ค้างคาใจจนถึงวันนี้ฉันอยากจะถามเขาว่าที่เมื่อสองปีก่อนตอนที่เ่ขามาขอฉันเป็นแฟนเขาทำไปเพื่ออะไรเขากำลังคิดอะไรอยู่เขาทำไปเพื่ออะไรกันแน่เพราะฉันมั่นใจแล้วว่าเขาไมไ่ด้รักฉันจริงๆอย่างที่ปากเขาพูด ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าฉันไม่ฉันพยายามคำตอบนะฉันคิดหาเหตุผลต่างๆนาๆว่าฉันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า แต่ก็คิดไม่ออก
เวลาต่อมา....
"ทานเยอะๆนะจ๊ะ ป้าสั่งแม่ครัวให้ทำของโปรดของหนูทั้งนั้นเลย" จากนั้นท่านก็คอยตักอาหารมาให้ฉันซึ่งอาหารบนโต๊ะมีเกือบสิบกว่าอย่างแต่ทานกันแค่สองคน ฉันไม่รู้ตอนนี้คินอยู่ไหนแล้วทั้งบ้านมีกันอยู่กี่คน
"ปกติป้าจะทานกับคุณลุงสองคนแต่วันนี้คุณลุงไปประชุมด่วนที่สิงคโปร์น่าจะกลับอาทิตย์หน้า แต่ต่อไปป้าคงไม่เหงากินข้าวคนเดียวแล้วเพราะมีหนูแพรมาทานข้าวเป็นเพื่อน^^"
"ค่ะ"
"ส่วนตาคินน่ะรายนั้นถ้าไม่โทรตามกลับบ้านก็ไม่มาชอบขลุกอยู่ที่คอนโด แต่หนูแพรไม่ต้องห่วงนะลูกถ้าหมั้นกันแล้วยังไงตาคินก็ต้องกลับมาอยู่บ้านถ้าไม่กลับหนูก็ไปอยู่ที่คอนโดกับตาคินเลย"
"คุณป้าคะ..คือหนูเอ่อคือ...."
"คืออะไรจ๊ะ"
"ถ้าหนูไม่หมั้นจะได้มั้ยคะ" ฉันตัดสินใจพูดออกไปตามที่ใจคิด
"ป้ารู้ว่าเพราะอะไร แต่ป้าขอถามหนูแพรข้อนึงได้มั้ยจ๊ะ"
"ค่ะ"
"หนูยังรู้สึกยังรักตาคินเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่าลูก"
"คือแพร...." ฉันไม่รู้จะพูดออกไปดีไหมว่าฉันยังรักเขาอยู่เหมือนเดิมเพราะเขาคือรักแรกของฉันและคงเป็นรักเดียวเพราะฉันคงไม่กล้าไปรักใครอีกแล้วฉันกลัวเจ็บกลัวผิดหวัง ฉันคิดว่าคงไม่มีใครรักฉันจริงหรอกเพราะขนาดพ่อแม่แท้ๆของฉันพวกท่านยังไม่รักฉันเลยแล้วนับประสาอะไรจะไปหวังให้คนอื่นมารัก