20 หมั้น
กลับมาที่ปัจจุบัน....
ฉันยืนนิ่งเหมือนไม่หายใจเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ใช่เขาจริงๆด้วยรักแรกของฉันแฟนคนแรกของฉันเป็นเขาจริงๆสินะทำไมโลกถึงกลมขนาดนี้
"นี่หนูแพรลูกสาวคนโตใช่มั้ยคะ ไม่เจอกันเลยตั้งแต่คราวที่มาเยี่ยมคุณน้องตอนคลอดหนูพลอยใส สวัสดีจ้ะหนูแพรจำป้าได้มั้ยจ๊ะ" หญิงวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐานบ่งบอกถึงฐานะท่านมีใบหน้าอ่อนกว่าวัยมากซึ่งน่าจะเป็นแม่ของคินเอ่ยทักฉัน ท่านพูดเหมือนกับว่าท่านเคยมาที่บ้านแต่ฉันจำไม่ได้จริงๆ
"คงจำไมได้หรอกค่ะคุณพี่ยัยแพรน่ะสมองช้าจำอะไรไม่ค่อยได้เรียนก็ไม่เก่งน้องก็เลยให้เรียนจบแค่มอหกแล้วให้มาช่วยดูแลบ้านแทน ยัยแพรน่ะไม่เก่งไม่ฉลาดเหมือนยัยพลอย รายนี้น่ะทั้งเก่งทั้งฉลาดสอบเข้ามหาลัยที่ดีที่สุดได้แถมทางมหาลัยก็ขอให้เป็นตัวแทนไปประกวดอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะจนรางวัลเต็มบ้านน้องนะคะภูมิใจในตัวยัยพลอยยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ยัยแพรน่ะเก่งได้ไม่เสี้ยวของยัยพลอยเลยค่ะคุณพี่" แม่ตอบพร้อมกับชื่นชมยัยพลอยต่อหน้าแม่ของคินรวมถึงคินด้วยที่ฉันลอบมองเห็นเขาเอาแต่มองหน้ายัยพลอยส่วนยัยพลอยก็ยิ้มหวานส่งไปให้ราวกับว่าทั้งสองคนมีใจให้กัน ทำไมฉันต้องรู้สึกเจ็บด้วยนะ ทั้งที่เราก็เลิกกันมานานสองปีกว่าแล้ว
"หนูแพรจำป้าไม่ได้จริงเหรอลูก" แม่ของคินท่านยังไม่วายถามฉันว่าจำท่านได้ไหมซึ่งฉันจำท่านไม่ได้จริงๆ
"เอ่อแพรขอโทษนะคะแพรจำไม่ได้จริงๆค่ะ" ฉันตอบไปตามความจริง
"อืมม นั่นสินะหนูจะจำป้าได้ยังไงเพราะตอนนั้นหนูแพรอายุแค่ไม่กี่ขวบเองก็เหมือนกับตาคินนั่นแล่ะ คินจำได้มั้ยว่าเคยให้อะไรหนูแพร"
"จำไมไ่ด้ครับแล้วก็ไม่คิดที่จะจำด้วย" นั่นคือคำตอบของเขาที่พอได้ยินแบบนั้นพลอยใสก็ยิ้มอย่างพอใจฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาหน้าคนที่ทำให้ฉันรู้จักความรักเขาก็มองมาทางฉันด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ส่วนยัยพลอยก็มองฉันราวกับไม่พอใจที่เห็นแม่ของคินเอาแต่สนใจถามฉัน
"น้องพลอยครับพาพี่เดินชมบ้านหน่อยสิอยู่ในนี้มันรู้สึกอุดอู้ยังไงไม่รู้"
"ได้ค่ะพี่อคิน ไปค่ะเดี๋ยวพลอยจะพาไปเดินเล่นนะคะ" พลอยใสเอ่ยอย่างดีใจ
"คุณน้าครับผมขออนุญาตนะครับ" คินพูดกับทุกคนยกเว้นฉันซึ่งฉันก็พยายามทำเป็นไม่รู้สึกอะไรทั้งที่รู้สึกน้อยใจอย่างบอกไม่ถูก
"ได้จ๊ะเชิญตามสบายเลย ลูกพลอยพาพี่เค้าไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้านเราก็ได้นะลูกที่นั่นบรรยากาศกำลังดีร่มรื่น^^"
"ค่ะคุณแม่" แม่ของฉันดูจะพอใจที่เห็นยัยพลอยออกไปเดินเล่นกับคินส่วนฉันทำได้แค่มองตามหลังเท่านั้น
"ส่วนแกยัยแพรมีอะไรก็ไปทำซะไปผู้ใหญ่เค้าจะคุยกัน"
"ค่ะ" พอถูกไล่ฉันก็ไหว้ลาแม่ของคินเพราะฉันคงไม่ได้ออกไปส่งท่าน จากนั้นฉันก็เดินออกมาในครัวเพื่อช่วยแม่บ้านล้างจาน
"คุณแพรหิวหรือยังคะทานข้าวก่อนมั้ย" ป้าผ่องถามฉันเมื่อเห็นว่าฉันยืนล้างจานอยู่
"แพรไม่ค่อยหิวค่ะ"
"แต่นี่มันก็เย็นมากแล้วนะคะเดี๋ยวก็ปวดท้องอีกหรอก"
"เดี๋ยวล้างจานเสร็จแพรจะทานนะคะ"
"ไม่เดี๋ยวแล้วค่ะทานตอนนี้เลย" ป้าผ่องเดินมาจูงมือฉันไปนั่งแล้วก็ยกอาหารมาวางที่โต๊ะแล้วก็บังคับให้ฉันทานข้าว ฉันมองป้าผ่องที่จัดแจงตักโน่นตักนี่ให้ฉันเต็มจาน
"ทานเยอะๆนะคะ นี่ค่ะปลาทอดของโปรดคุณแพรป้าแกะก้างให้นะคะ" ฉันมองป้าผ่องที่บรรจงแกะเนื้อปลาใส่จานให้ฉัน ฉันรู้สึกจุกในอกอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นความรักความเอาใจใส่ของป้าผ่องที่มีให้ฉันมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตจนฉันอดที่จะร้องไห้ไม่ได้ถึงแม้ว่าป้าผ่องจะเป็นแม่ครัวแต่สำหรับฉันแกเป็นมากกว่านั้นแกเป็นเหมือนแม่คนที่สองของฉันเลยก็ว่าได้
"คุณแพรร้องไห้ทำไมคะ" แ้าผ่องถามฉันด้วยความตกใจแกคงเห็นว่าฉันร้องไห้
"แพรดีใจที่ป้าผ่องรักแล้วก็ห่วงแพร แพรไม่เคยได้รับความรักความเอาใจใส่จากพ่อกับแม่เลย ฮึก ฮึก"
"โถแม่คุณของป้า ไม่ร้องนะคะคนเก่ง ใครไม่รักก็ไม่เป็นไรค่ะขอแค่คุณแพรรู้เอาไว้ว่าป้ารักคุณแพรที่สุดก็พอแล้ว"
"ขอบคุณนะคะที่ดีกับแพรมาตลอดถ้าไม่มีป้าแพรคงแย่แพรคงรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้" ฉันพูดพร้อมกับเอามือเช็ดน้ำตาตัวเองก่อนทานอาหารตรงหน้า
เวลาต่อมา...
อคิน....
หลังจากส่งแม่กลับบ้านผมก็ขับรถกลับคอนโดตัวเอง อ่อผมลืมบอกไปว่าตอนนี้อลินไมไ่ด้อยู่ที่ไทยเพราะแม่กับพ่อพอรู้ว่าอลินอาการไม่ดีขึ้นท่านก็พาอลินไปรักษากับหมอด้านจิตใจที่เมืองนอกซึ่งตอนนี้เธอก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากแถมยังมีแฟนใหม่แล้วด้วยเป็นหนุ่มลูกครึ่งลูกชายหุ้นส่วนของครอบครัวผมเองและมีแพลนจะแต่งงานกันในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ผมดีใจที่พี่สาวของผมลืมไอ้เหี้ยพีทไปได้เสียที พอนึกถึงไอ้เหี้ยพีทผมก็นึกถึงอีกคนที่ผมเพิ่งไปเจอมาวันนี้ คนที่ผมไม่ได้เจอมาสองปีเต็มๆ ก็จะใครซะอีกล่ะถ้าไม่ใช่ผ้าแพรแฟนเก่าของผมเอง และเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าบอกเลิกผม ถามว่าตอนนั้นผมรู้สึกยังไงที่ผ้าแพรมาบอกเลิก บอกเลยว่าผมไมไ่ด้รู้สึกอะไรเลยสักนิดเพราะผมไมไ่ด้รู้สึกรักหรือชอบยัยนี่ตั้งแต่แรกที่เข้าหาก็เพราะอยากแก้แค้นให้อลินเท่นนั้นแต่แผนยังไม่ทันถึงไหนเธอก็มาขอเลิกผมเสียก่อน ก็ดีแล้วครับเพระาผมก็ไม่อยากทนคบกับยัยนั่นนานบอกตามตรงว่าผมถูกเพื่อนที่รู้จักแซวหนักมากเมือ่เรื่องที่ผมมีแฟนรู้ไปถึงหูพวกมันถึงแม้จะอยู่ต่างโรงเรียนก็เหอะ พวกแม่งเอาแต่หัวเราะเยาะผมว่าหาแฟนทั้งทีหาที่ดีกว่านี้ไมไ่ด้แล้วเหรอ แต่ก็นั่นแล่ะครับเรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว
วันต่อมา...
"คินมาหาแม่ที่บริษัทแม่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย"
"เรื่องอะไรครับ"
"ไว้มาถึงแม่จะบอก"
พอเลิกเรียนผมก็ขับรถมาหาแม่ที่บริษัททันทีเพราะอยากรู้ว่าแม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผมซึ่งมันน่าจะสำคัญมากๆ
"แม่มีเรื่องอะไรสำคัญก็บอกผมมาเลยครับ" พอเข้ามาในห้องทำงานของแม่ผมก็เปิดประเด็นทันที
"เรื่องหมั้น"
"หมั้น??ใครหมั้นครับ"
"แล้วแม่คุยกับใครอยู่ล่ะ"
"นี่อย่าบอกนะว่าแม่จะให้ผมหมั้น"
"ก็ใช่ไง"
"แต่ผมไม่อยากหมั้น ผมเรียนยังไม่จบเลยนะครับแม่ แล้วอีกอย่างเดี๋ยวนี้มันไม่มีแล้วเรื่องจับหมั้นคลุมถุงชน"
"ถือว่าแม่ขอนะคินแม่ขอแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวแม่จะไม่ขอไม่บังคับอะไรคินอีกเลยนะครับ ทำให้แม่หน่อยนะ คินก็รู้ว่าแม่ไม่ค่อยแข็งแรงจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้" พอแม่พูดแบบนี้ผมก็ถึงกับพูดไม่ออก คือแม่เพิ่งบอกผมเมื่อไม่นานมานี้ว่าท่านป่วยไม่สบายมานานหลายปีแต่ไม่กล้าบอกผมเพราะกลัวผมจะไม่เป็นอันเรียนจนกระทั่งเมื่อเดือนก่อนแม่เรียกผมไปคุยพร้อมกับบอกความจริงกับผมว่าท่านเป็นโรคมะเร็งอาจจะอยู่ได้ไม่นานผมได้ยินผมถึงกับช็อกจนทำอะไรไม่ถูก แม่ของผมท่านแข็งแรงมาตลอดไม่เคยแสดงอาการอะไรเลยว่าป่วยส่วนพ่อผมท่านก็ไม่มีท่าทีวิตกกังวลอะไรยังทำตัวปกติเหมือนเดิมซึ่งพอมาคิดดูท่านอาจจะไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจก็ได้ เพราะแบบนี้ผมถึงเลิกเกเรเลิกเที่ยวเพื่อดูแลท่าน ท่านอยากไปไหนมาไหนผมก็จะตามใจเหมือนกับเรื่องที่ท่านชวนผมไปบ้านผ้าแพรวันก่อนถ้าท่านไม่ชวนผมก็ไม่คิดที่จะไป ถามว่าผมรู้ไหมว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านของผ้าแพร ผมรู้ดิเพราะผมเคยมาหาไปเหี้ยพีทเพื่อเอาเรื่องมันแล้วผมก็มาเจอผ้าแพรที่วิ่งอุ้มแมวมาหาไอ้พีทที่บ้านมันทำให้ผมรู้ว่าผ้าแพรอยู่บ้านติดกับไอ้เหี้ยพีทและผมยิ่งอึ้งหนักเมื่อรู้ว่าแม่รู้จักบ้านของผ้าแพรมาก่อน อะไรจะโลกกลมขนาดนี้วะ
"คินหมั้นกับคนที่แม่เลือกได้ไหมครับทำเพือแม่สักครั้ง"
"แม่ไม่ได้อำผมเล่นใช่ป่ะ"
"อำที่ไหนแม่พูดจริงที่แม่ชวนเราไปบ้านเพื่อนแม่วันก่อนก็เพราะว่าแม่อยากให้เราเจอหน้าว่าที่ภรรยาในอนาคต"
"แม่หมายถึงคนไหนล่ะครับบ้านโน้นมาลูกสาวตั้งสองคน" ซึ่งคนนึงก็เคยเป็นแฟนเก่าของผมที่แม่คงไม่น่ารู้
"แล้วลูกคิดว่าใคร"