ตอนที่ 8 ต้องการ
ตอนที่ 8 ต้องการ NC++
"ละ...ลินขอโทษค่ะ ลินทำเกินเหตุไปแล้ว" ฉันจงใจจูบกับเขา มันไม่ใช่แค่อุบัติเหตุไม่คาดคิด
ถ้าคุณปราณจะโกรธถึงขั้นพ่นถ้อยคำไม่ถนอมน้ำใจฉันออกมาได้ มันไม่แปลกนักหรอก แต่กลับส่งผลทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก
"ลงไปซะ ถึงตึกชมรมแล้ว"
"คุณปราณ ลินขอโทษ" อาจารย์หนุ่มไล่ฉันลงจากรถของเขา มือหนาเอื้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับแง้มไว้ พลางดันตัวฉันออกห่างด้วยท่าทางรังเกียจ
สิ่งที่ฉันทำมันไม่น่าให้อภัย แต่ฉันก็ยังฝืนเอ่ยพูดคำขอโทษซ้ำ ๆ อยู่เช่นนั้น โดยที่อีกฝ่ายไม่อยากรับฟัง
"ลงไปซะ แล้วอย่ามายุ่งกับฉันอีก"
เขาลืมไปหรือเปล่า ครั้งนี้ตัวเองเป็นคนจอดรถเรียกฉันก่อนนะ
"ลินไม่ลง!" ฉันจะไม่ยอมลงจากรถเด็ดขาด ถ้ายังเคลียร์ทำความเข้าใจกันไม่จบด้วยดี แขนเล็กคล้องลำคอแกร่งของอาจารย์หนุ่มเอาไว้แน่น
ดูซิเขาจะทำยังไงกับฉัน ขณะเขากำลังผลักไสร่างเล็กห่างจากเขาคล้ายไม่อยากแตะต้องตัวอีก ฉันก็กอดเขาเอาไว้แน่น ถ้าคุณปราณไม่หายโกรธ ฉันคงกินไม่ได้นอนไม่หลับแน่ ๆ
"อย่าให้ฉันต้องขยะแขยงเธอมากไปกว่านี้เลยลิลิน!"
เสียงคุณปราณเข้มขึงขังมากขึ้น จนฉันหวั่นใจ คนจริงจังอย่างเขาสามารถทำได้ตามที่พูดแน่นอน ซึ่งฉันไม่อยากให้เขาต้องเกลียดฉันไปมากกว่านี้
พรึ่บ!
จึงค่อย ๆ ปล่อยมือจากลำคอหนา ฉันมองเขาอีกครั้งอย่างอ้อนวอนขอความเห็นใจ ถึงฉันจะผิดไปแล้วอย่างไม่น่าให้อภัยก็ตาม ก่อนจะปีนลงจากหน้าตักเขา
ปึง!
ทันทีที่ฉันก้าวขาออกมาพ้นประตูรถสปอร์ต ยังไม่ทันได้รีบหมุนตัวกลับไปพูดกับอาจารย์หนุ่ม เสียงประตูถูกปิดลงดังปังด้วยความรุนแรง
ถึงแม้หน้าต่างของกระจกจะมืดทึบจนไม่สามารถมองเห็นสีหน้าคนข้างในได้ แต่การปิดประตูที่เสียงดัง รุนแรงขนาดนั้นกลับบ่งบอกถึงอารมณ์ของคนขับได้เป็นอย่างดีแล้วล่ะ
"เฮ้อ ฉันมันน่ารังเกียจจริง ๆ!" ฉันไม่มีโอกาสได้แก้ไขอะไรอีก เพราะเขาขับรถออกไปจากตรงนั้นแล้ว ทิ้งให้ฉันยืนอ้างว้างโดดเดี่ยว รู้สึกผิดอย่างไม่อาจสะบัดออกจากหัวได้
ยังไงฉันก็ควรจะหาโอกาสไปขอโทษ หรือปรับความเข้าใจกับเขา ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้ฉันเองก็อึดอัด และทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน วันนี้เป็นการเปิดเรียนที่เกิดเรื่องเฮงซวยกับฉันตลอดทั้งวันเลยก็ว่าได้ ทำเอาเหนื่อยแทบเป็นบ้า
ช่วงเย็น
ฉันกลับมาถึงคอนโดมิเนียม S หลังจากได้กรอกใบสมัครคัดเลือกคุณสมบัตินักกีฬา เพื่อหวังจะเข้าชมรมว่ายน้ำเรียบร้อย แต่ยังไม่ได้ลงสระทดสอบความสามารถภาคปฏิบัติ เพราะเวลาล่วงเลยจนค่ำเสียก่อน ประธานชมรมว่ายน้ำจึงเห็นว่าทุกคนควรแยกย้ายกันกลับบ้านก่อน
ส่วนนักศึกษาที่ยังไม่ได้ทดสอบศักยภาพ หรือถูกคัดเลือก ค่อยมารวมตัวกันอีกครั้งในพรุ่งนี้ ช่วงบ่ายเหมือนเคย
ฉันจึงเดินทางกลับที่พักทันที เมื่อกลับเข้ามาฉันก็เดินคอตก หย่อนตัวนั่งที่บริเวณปลายเตียงนอน ตลอดทางเอาแต่คิดเรื่องของคุณปราณ ฉันรู้ตัวว่าได้ทำผิดครั้งใหญ่จริง ๆ
แถมมันสายเกินกว่าจะแก้ไขอะไรให้ดีขึ้นแล้วล่ะ ฉันกลับคิดว่าเป็นจูบที่สมยอมกันทั้งคู่ ในเมื่อคุณปราณก็ตอบรับสัมผัส แต่ไหงไม่เห็นรู้สึกดีใจเลยล่ะเมื่อได้ทำอะไรแบบนั้นกับคนที่ชอบ
มิหนำซ้ำ ฉันยังขอช่วยปลดปล่อยความปวดหนึบกับส่วนแท่งของเขาอย่างไม่อาย กลับเก่งกล้าออกปากจะช่วยเขาอีก คุณปราณคงโกรธคำพูดละลาบละล้วงของฉันแน่ ๆ แต่ในตอนนั้นฉันคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุปลุกปั่นคุณปราณ จนเจ้าแท่งยักษ์ตื่นขึ้นมานี่นา...
ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่เคยช่วยเหลือใครด้วยวิธีแผลง ๆ แบบนั้นมาก่อน แม้ว่าฉันจะทำงานด้านมืดลับ ๆ อย่างถ่ายคลิปสำเร็จความใคร่ ซึ่งเห็นส่วนเหล่านั้นบ่อยครั้งแล้วก็ตาม
ยิ่งครุ่นคิดฉันยิ่งนั่งไม่ติดเตียง คุณปราณไม่รับคำขอโทษ และไม่อยากเห็นหน้าฉัน นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เขาต้องการ และเป็นสิ่งเดียวที่ฉันไม่อาจทำตามเขาได้แน่นอน
ฉันรีบหยิบเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋าสะพายข้าง ๆ ตัวออกมา ก่อนจะปัดหน้าจอสี่เหลี่ยม เลื่อนหาเบอร์ของเพื่อนสนิทอย่างมะปราง
แต่มือของฉันก็ชะงักเอาไว้ซะก่อน ยังไม่ได้กดโทร.ออกไปหานาง เพราะฉันตั้งใจจะชวนมะปรางไปดื่มคลายเครียดสักหน่อย และอยากระบายสิ่งที่ได้ทำลงไปกับพี่ชายของนาง
ฉันเกือบลืมไปเลยว่ามะปรางถูกกักบริเวณ เนื่องจากหนีเที่ยววันนั้นกับฉัน นางจึงโดนสั่งห้ามออกไปไหน หากไม่ได้ไปกับคุณปราณ คราวนี้ที่บ้านค่อนข้างจะจริงจังกับนาง
พรึ่บ ฉันพ่นลมหายใจออกมาอย่างจนปัญญา ไม่อยากให้ประวัติต้องซ้ำรอย ตัวต้นเหตุซึ่งเป็นเพราะฉันอีกครั้ง จึงเลือกที่จะไม่ต่อสายตรงไปหานาง จึงเก็บมือถือเข้ากระเป๋าแบรนด์เนมตามเดิม
ถ้ามะปรางรู้เรื่องที่ฉันจูบพี่ชายสุดทวงของนาง และคำพูดกระดากหูที่เอ่ยบอกคุณปราณ มีหวังต้องมีการโกรธเคืองฉันบ้างล่ะ ท้ายที่สุดฉันก็เก็บเรื่องนี้เอาไว้คนเดียว และจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวฉันเอง
5 ทุ่มครึ่ง
เมื่อแต่งตัวเสร็จ ฉันก็ขับรถยนต์ส่วนตัวตรงมายังผับหรูหลังมหา'ลัยคนเดียวโดยทันที นั่งดื่มเพียงลำพังบริเวณหน้าเคาน์เตอร์บาร์ กระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านไป จนดึกดื่น
เหล้าหลายแก้วถูกฉันยกขึ้นกระดกดื่มจนพร่องแก้ว รสชาติขมปร่าไม่สามารถลบรสจูบหวานละม่อมจากกลีบปากนุ่มหยุ่นของใครบางคนได้ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ค่อย ๆ กล่อมเกลาสติของฉันไปทีละนิด อย่างใจเย็นและเชื่องช้า
"คุณปราณไม่ชอบหรอกเหรอ หรือรังเกียจฉันเพราะอะไร ฉันไม่สวยเหรอ ทำไมไม่เห็นสนใจ ลองมองมาที่ฉันบ้าง"
ฉันคิดผิดมาโดยตลอด คิดว่าการเมาจะช่วยให้ลืมเรื่องราวทุกอย่างไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เปล่าเลย สำหรับฉัน พอดื่มมากเท่าไร สมองยิ่งคิดฟุ้งซ่าน ใจเต้นระรัวแรง สับสนต่อความรู้สึกตัวเอง เรื่องค้างคาใจถูกพึมพำผ่านริมฝีปากออกมาคนเดียวแผ่วเบา ฉันพรั่งพรูความน้อยเนื้อต่ำใจไม่หยุด...
ฉันสงสัยไปหมดต่อการกระทำหมางเมินของเขา ฉันไม่น่าสนใจ ไม่น่ามองเลยเหรอ ทำไมเขาถึงไม่ลองหันมามองที่ฉันเลย ทั้ง ๆ ที่ห้องอยู่ใกล้กันเพียงแค่ฉากกั้น กลับมีโอกาสเจอหน้าเขาได้น้อยมาก เหมือนกับเขาพยายามหลบหน้าฉันยังไงอย่างนั้น
ระ...หรือว่า? ฉันเริ่มคิดมโนไปเองอย่างไม่อาจห้ามความคิดได้ คุณปราณอยู่ที่ประเทศอังกฤษมาหลายปี สเปคของเขาอาจจะเป็นคนต่างชาติ ไม่ใช่แบบฉันที่เป็นไทยแท้หรือเปล่านะ ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ ยัยลีอา ลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย มีสิทธิ์มากขึ้นที่คุณปราณจะสนใจนางน่ะสิ
ฉันยอมไม่ได้แน่ ๆ ฉันชอบคุณปราณก่อนนะ จะไม่ยอมให้ใครมาชิงเอาไปต่อหน้าต่อตาหรอก ยิ่งเป็นยัยลีอาคู่อริเก่า ยิ่งยอมกันไม่ได้!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉันรีบลุกจากเก้าอี้ที่นั่ง หยิบธนบัตรแบงค์สีเทาจากในกระเป๋าวางไว้ให้พนักงานบนเคาน์เตอร์ ก่อนจะรีบเดินออกมาจากผับด้วยอาการเมา แถมโชคดีที่ร่างกายฉันยังพอไหว บังคับรถมาจนถึงคอนโดมิเนียม S
ติ้ง! จนขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นบนสุดของทางคอนโดมิเนียม ฉันไม่ได้เดินเลี้ยวเข้าห้องตัวเองไปแต่อย่างใด เป้าหมายฉันเป็นห้องของคุณปราณ ซึ่งอยู่ข้างห้องฉันต่างหาก
พร้อมหยุดฝีเท้า ยืนช่างใจที่หน้าประตูห้อง พลางคิดหนัก จะทำยังไงดี ฉันควรเคาะเรียกเขาออกมาคุยให้รู้แล้วรู้รอดเลยดีไหม เขาทำอะไรอยู่ ว่างคุยกับฉันหรือเปล่า ทำตัวแบบนี้จะน่ารำคาญในสายตาเขาไหม?
ฉันกำลังกลุ้มใจ คิดมากไปหมด แถมนิสัยฉันไม่ใช่พวกประเภทที่จะทำท่าทีเฉยชา กลบเกลื่อนความรู้สึกนึกคิดตัวเองได้ รู้สึกยังไงฉันแสดงออกมา ตอนนี้ก็กำลังตกอยู่ในสภาวะนั้น
กริ๊ง กริ๊ง!
มือเล็กยกขึ้นมากดออดบานประตูที่เป็นฉากกั้นสองสามครั้ง ฉันถึงกลับกลั้นหายใจอย่างกดดัน และลุ้นระทึกไม่ต่างจากตอนกำลังนั่งดูซีรีส์สยองขวัญ
อีกใจหนึ่งกลับกลัวว่าเขาจะไม่เปิดประตูให้ถ้ารู้ว่าเป็นฉัน ดึกดื่นป่านนี้คุณปราณอาจจะนอนหลับแล้วก็ได้ ฉันพยายามปลอบใจตัวเองเมื่อไม่มีวี่แววของเจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมาเจอหน้า
แอด! ทว่าฉันคิดผิด ขณะกำลังหมุนตัว เดินโซซัดโซเซกลับห้องพักตัวเองไป ประตูห้องของคุณปราณก็เปิดออก ฉันเอี้ยวหน้ามองด้วยรอยยิ้มจาง ๆ คิดว่าเขาจะใจร้ายต่อกันซะอีก
"มีอะไร รู้หรือเปล่าว่ามันกี่โมงกี่ยาม!" เสียงทุ้มเข้มถามทันทีอย่างฉุนเฉียวไม่น้อย เมื่อเขาขยับแทรกออกมาจากประตู เพื่อยืนสนทนากับฉัน
"ละ...ลินรู้สึกกับคุณปราณมาก จนเผลอทำเรื่องไม่ดีกับคุณไป..." สมองกำลังประมวนผล ควรเอ่ยพูดยังไงดี
ขณะสายตากลับไล่มองสัดส่วนร่างกายชายหนุ่มตรงหน้า ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เผลอกลืนน้ำลายกระหายลงคออึกใหญ่ เพราะคุณปราณอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยคล้ายเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จมาหมาด ๆ
ท่อนบนแผงอกกำยำอุดมด้วยมัดกล้ามไม่มีเสื้อผ้าช่วยปกปิด ส่วนข้างล่างมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวพันรอบเอวสอบเอาไว้แบบหมิ่นเหม่ ซึ่งทำให้ฉันเห็นถึงขนอ่อนระหว่างหน้าท้องแกร่งของเขา
หยดน้ำจากกลุ่มผมหยดผุดพรมตามร่างกายเขา แต่กลัวคุณปราณจะไม่พอใจ จึงเบนสายตาหนีไปอีกทางอย่างนึกเสียดาย
"เธอไปดื่มมา?" อาจารย์หนุ่มเลิกคิ้วถามนิ่ง ๆ เขาน่าจะได้กลิ่นแอลกอฮอล์บนตัวฉัน
"ดื่มนิดหน่อยค่ะ พอดีลินมีเรื่องเครียด เรื่องคุณปราณที่ต้องคิด"
"กลับไปซะ คุยกับคนเมาตอนนี้ก็ไม่ได้อะไร"
"ลินไม่ได้เมานะ!"
"คนเมามักจะไม่ยอมรับว่าตัวเองเมาเธอรู้หรือเปล่า"
"ลินไม่ยอมรับเพราะลินไม่เมามากค่ะ" ตอบอย่างมั่นคง แต่คุณปราณกำลังจะปิดประตูใส่หน้าฉัน ทำให้ต้องรีบเอาตัวเองสอดผ่านช่องประตูห้องเขาแคบ ๆ เข้าไปอย่างถือวิสาสะ
พรึ่บ!
เพราะขนาดตัวฉันที่ผอมบาง จึงไม่ใช่เรื่องยากในการแทรกตัวเข้ามา และฉันจะไม่ออกไปถ้าปัญหานี้ไม่จบ ต่อให้จะถูกไล่ตะเพิดอีกกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ตาม
"ลิลิน!!" ฉันจัดการปิดประตูห้อง ดึงคนตัวโตเข้ามาด้านในด้วยความเร็วเมื่อเขาสบถเสียงดัง จนเกรงว่าเสียงเล็ดลอดจะดังเข้าไปถึงห้องตรงข้าม ของมะปรางที่อาศัยอยู่ร่วมกันบนคอนโด
"คุณปราณทำเหมือนกำลังหลบหน้าลิน" ฉันหันกลับมาประจันหน้ากับเขาอีกครั้ง คราวนี้เริ่มจริงจังกว่าเมื่อครู่
"ฉันบอกให้ต่างคนต่างอยู่ เธอควรจะสนใจเรื่องเรียนด้วยซ้ำ เอาเวลาคิดถึงเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ไปทำอย่างอื่นเถอะ!"
"เพราะลินเด็กเหรอคะถึงไม่ให้โอกาส" ฉันเริ่มจับทางที่เขาต้องการจะสื่อได้แล้วแหละ ว่าเป็นเพราะอะไร
"อืม" ยามตอบคิ้วเข้มกลับขมวดมุ่นคล้ายขบคิดถึงบางอย่าง การยอมรับจากเขา มันพลอยทำให้ใจฉันห่อเหี่ยวลง
"คุณปราณรังเกียจลินหรือเปล่าคะ"
"ฉันไม่ได้รังเกียจเธอ แต่ฉันแค่ไม่ชอบเด็ก ไม่คิดจะมองเด็ก หรือมีความรักอะไรทั้งนั้น"
"คุณปราณไม่ต้องชอบเด็กทุกคนก็ได้ แค่ยกเว้นลินไว้ไม่ได้เหรอ" ฉันกลั้นหายใจ ขยับเท้าเข้าไปอีกก้าว จนตัวชิดกับเขาในระยะเผาขน ถ้าเขาเต็มใจ ฉันก็พร้อมลองบทเรียนรักครั้งแรกในชีวิตเช่นกัน
"เธอจะทำอะไร"
"ลินจะทำให้คุณปราณไม่มองว่าลินเป็นเด็ก"
"ต่อให้เธอทำ สถานะของเรามันก็ไม่สามารถเลื่อนขั้นเป็นคนรักได้ในทันทีหรอกนะ เธอคิดดีแล้วเหรอ"
ฉันหลุบสายตามองท่อนล่างที่มีเพียงผ้าขนหนูปกปิดส่วนที่ฉันหมายจะครอบครอง ก่อนจะใช้มือค่อย ๆ ดึงผ้าขาวออกจากกายใหญ่ ฉันคิดดีแล้ว ถึงแม้สถานะของฉันกับเขาจะไม่ได้รัก หรือคบหากันโดยทันที แต่ฉันเชื่อว่าถ้าเขาให้โอกาส เขาจะรักฉันได้ไม่ยากใช่ไหม?
"คุณปราณเต็มใจไหมคะ ลินอยากฟังเสียงจากคุณ" ฉันไม่อยากรู้สึกผิดอีก ถ้ามันจะเลยเถิดก็ขอถามความเห็นจากเขาด้วยจะดีกว่า พลางช้อนสายตามองเขาอย่างอ้อนวอนขอคำตอบที่พึงพอใจ
พรึ่บ!
บัดนี้ผ้าขนหนูตกลงไปกองร่นที่ปลายเท้าแล้วเรียบร้อย ส่วนแข็งแกร่งของเขาถูกฉันกอบกุมเอาไว้ด้วยสองมือ ถึงอย่างนั้นฉันกลับไม่สามารถกุมความใหญ่โตล้อมรอบได้ทั้งหมด
มันใหญ่มหึมา แข็งขึงจนน่าหวั่นใจเกินไปแล้ว แค่จะถอยก็ไม่ทัน ฉันยังคงเงยหน้าจ้องมองคนตัวสูงเพื่อคอยคำตอบ ก่อนจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
"ทำแบบนี้แล้วอย่าเสียใจทีหลังล่ะ เพราะเธอมาเสนอให้ฉันถึงที่เอง" ฉันคลี่ยิ้มรับต่อเจ้าของใบหน้าคมเย็นชาไม่มีเปลี่ยนเอ่ยเตือนฉันอีกระลอก
เสียงคุณปราณแตกพร่าตามอารมณ์ความรู้สึก เมื่อฉันได้ฟังถ้อยคำดั่งการบอกเชิงอนุญาตกลาย ๆ จึงไม่ชักช้าพลาดโอกาสเดียว
เริ่มขยับมือนุ่ม ๆ รูดรั้งเจ้าแท่งยักษ์ขึ้นลงด้วยจังหวะช้าเนิบ ปลุกปั่นจนมันตั้งตรง ปูดโปนด้วยเส้นเลือดใหญ่ น้ำหล่อลื่นปริมาณมากมายปริ่มออกมาบริเวณปลายหัวเห็ดแดงก่ำ
ทำเอาฉันกลับเกิดอาการประหม่า ความใจกล้าที่สะสมมาค่อย ๆ มลายหายไป แอลกอฮอล์ในร่างกายกลับสูบฉีดจนเนื้อตัวร้อนรุ่ม ผลักดันให้ฉันอย่าหยุดความคิดที่จะทำ...เสียครั้งแรกมันทำอะไรไม่ถูกจริง ๆ นะ
"ทำไมออกมาเยอะจังค่ะ คุณปราณขาดเรื่องอย่างว่าไปนานแค่ไหนแล้ว หรือไม่เคย"
"ปีกว่า" เขาตอบอย่างไม่ยี่หระ เชิดหน้าขึ้น พลางซี้ดปากเสียวขณะฉันขยับมือเร็วขึ้น
"ลินอยากเอาใจคุณปราณ..."
"หืม?"
"ชะ...ชิมได้ไหมคะ" ฉันต้องการให้บทรักครั้งแรกของสองเราน่าจดจำ และรู้สึกประทับใจ จนไม่อาจลืม
ฉันทรุดตัวนั่งคุกเข่าลงบนพื้นห้อง เพื่อก้มไปหาบางอย่าง และหมายจะกลืนกินมัน ซึ่งมีขนาดใหญ่เทียบเท่าท่อนแขนกำยำของอาจารย์หนุ่ม มากกว่านั้นมันกำลังชี้โด่ตรงหน้าฉัน
"ถ้ามันเข้าปากเธอได้ก็ลองดู!"
"ใหญ่แค่ไหนก็เล็กกว่าปากค่ะ"