ตอนที่ 5 ห่างเหินกัน
ตอนที่ 5 ห่างเหินกัน
วันต่อมา
ช่วงเช้าเสียงสมาร์ตโฟนดังขึ้นปลุกฉันให้ตื่นจากห้วงความฝันแสนหวาน ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นคุณลุงคนขับรถคนเก่าแก่ของที่บ้านฉันเอง คุณลุงโทร.มาแจ้งฉันว่าได้ขับรถของฉันที่จอดเอาไว้บ้านมะปราง มาให้ถึงคอนโดมิเนียมแห่งใหม่เรียบร้อยแล้ว ฉันจึงขอบคุณไป
คุณลุงก็น่ารักมากตามใจฉันตลอด ยังอวยพรส่งท้ายขอให้ฉันเรียนจบได้เกรดดี ๆ อีก แต่คุณลุงจะโทร.มาซะเช้าขนาดนี้ไม่ได้นะ!
ฝันหวาน ๆ มโนว่าหมอนข้างตัวหนานุ่มเป็นคุณปราณ ได้สลายหายไปเพียงชั่วพริบตา เฮ้อ
เมื่อตัดสายคุณลุง ฉันบ่นอุบอิบไปตามประสาได้ไม่นาน จึงเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อจัดการธุระส่วนตัว เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสุดท้ายที่ฉันจะมีเวลาพักผ่อนเต็มที่ เพราะหลังจากวันต่อ ๆ ไปจะเข้าสู่การเรียนอย่างเต็มตัว สำหรับนักศึกษาสาวคณะบริหารปี 1
เมื่ออาบน้ำเสร็จ ฉันกลับออกมาด้วยเสื้อสายเดี่ยวตัวบางสีขาว คอทรงสามเหลี่ยมลึก จนเห็นหน้าอกหน้าใจล้นทะลักขอบเสื้อใน และกางเกงยีนขาสั้นตัวจิ๋ว ผมเผ้าถูกมัดรวบแบบลวก ๆ เป็นหางม้าไว้ด้านหลัง เพราะไม่ได้มีนัดจะออกข้างนอก เลยเลือกแต่งตัวสบาย ๆ
อยู่ในห้องของตัวเอง ใช้ชีวิตตามปกติ ดูซีรีส์ เล่นแอปพิเคชั่นสัญญลักษณ์นกสีฟ้าบ้างล่ะ ทั้งวันก็ทำอยู่เช่นนั้นแต่กลับไม่มีเบื่อ
ตะ...แต่ว่า หางสายตาฉันแอบเห็นเงาของใครบางคนแว็บ ๆ ผ่านกระจกใสบริเวณริมระเบียงหน้าต่างของห้องพัก และถัดจากฉันไป แถมจำได้แม้นว่าเป็นห้องของใคร อาจจะเป็นเขาก็ได้
ฉันไม่ชักช้ารีบเดินออกไปเปิดหน้าต่างบานยาวหน้าระเบียง เพื่อจะชะโงกหน้าส่องดูว่าใช่แบบที่คิดไว้ไหมนะ...ฉันอยากเจอจังหวะเจอหน้าสบตาแล้วเขาตกหลุมรักฉันเหมือนพระนางในซีรีส์เกาหลีดูบ้าง
"เธอเป็นโรคจิตหรือไง!"
เพล้ง!
หน้าฉันแตกแบบไม่มีอะไรกั้น มันไม่ใช่จังหวะตกหลุมรักอย่างที่คิดเอาไว้เลยด้วยซ้ำ คุณปราณมองฉันด้วยแววตาเอือมระอา ส่ายหัวไปมา พร้อมบอกว่าฉันเป็นโรคจิต แถมตอนนี้ฉันชะเง้อคอยาว ๆ ไปฝั่งห้องของเขา...ไม่แปลกเลยที่เขาจะคิดเช่นนั้น
"เปล่าสักหน่อย แค่คิดว่าขโมยเข้าห้องคุณปราณต่างหาก" ฉันริอ่านปั้นเรื่องโกหกคำโต
ฉันจะบอกได้ยังไงล่ะว่าจงใจเดินออกมาแอบดูผู้ชายยืนหล่อ ๆ ดื่มกาแฟในยามเช้า แม้แต่เวลาที่เขายกถ้วยกาแฟในมือหนาขึ้นจิบเล็กน้อย ลูกกระเดือกก็เคลื่อนไหวตาม เมื่อกลืนรสขมปร่าลงสู่ลำคอ ทำให้ฉันมองเขาตาไม่กะพริบ เผลอยื่นหน้าเข้าไปใกล้หมายจะสูดดมความหล่อเหลา
เอ๊ย! ฉันหมายถึงสูดจมูกรับกลิ่นหอมกรุ่นจากกาแฟต่างหาก
"เพ้อเจ้อ ไปโกหกเด็กประถมเขาก็ไม่เชื่อที่เธอพูดหรอก" ผละถ้วยกาแฟห่างจากปาก พลางถือเอาไว้ในมือ ขณะตวัดสายตามาตำหนิฉัน
เกิดเป็นฉันมันผิดขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงโดนคุณปราณดุตลอดเลย ฉันกลับไม่ลดละความพยายาม มองตามการเขยื้อนตัวของอีกฝ่ายไม่คาดสายตา...พึมพำออกมาคนเดียวเบา ๆ เขาหล่อทุกองศา หล่อทุกการกระทำจริง ๆ
"ปากร้ายจังเลยค่ะ"
"หึ!" เสียงทุ้มแค่นหัวเราะต่ำในลำคออย่างเยาะหยัน จนฉันเกิดความไม่มั่นใจ ไม่กล้าแม้แต่สู้หน้าฉับพลัน หรือเขาจะเกลียดฉันไปแล้ว เพราะเรื่องรวมหัวกับมะปรางหนีเที่ยวเมื่อคืน
"คุณปราณเกลียดลินหรือเปล่า" ไม่รู้ว่าสีหน้าฉันแสดงความรู้สึกผิดแค่ไหน เขาถึงปรายตามองฉันอีกครั้ง ถอนหายใจพรืดใหญ่
"กลับเข้าห้องของเธอไปซะ" เขาบอกปัดคล้ายไม่อยากเอ่ยถึงมันแล้ว แต่เป็นฉันเองที่เซ้าซี้อยากรู้ ไม่อย่างนั้นคงไม่สบายใจอยู่แบบนี้ไง เขาเอาแต่ผลักไสไล่ส่งเมื่อเจอหน้าฉัน มันอดให้คิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้จริง ๆ นะ
ระ...หรือว่า...
"คุณปราณตอบไม่ตรงคำถามเลยนะคะ หรือเจอหน้าลินแล้วทำให้คุณปราณหวั่นไหวใช่ไหม ถึงพยายามผลักไสลินตลอดเลย" ฉันพูดไปตัวก็บิดส่ายไป แสดงอาการเขินอายอย่างไม่มีปกปิด
"ดูกิริยาของเธอตอนนี้สิ ฉันกินแต่กาแฟไม่ชอบกินนมเด็ก!"
"อุ๊ย!" ฉันร้องอุ๊ยออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ คุณปราณตอบกลับฟาดหน้าฉันมาด้วยถ้อยคำที่แข็งกระด้าง และสร้างความเจ็บจี้ด ๆ บริเวณหัวนม ไม่ใช่สิ...ตรงกลางใจ นี่แหละฉันมันตลกเกินไปไม่ดูสถานการณ์เล๊ย
ฉันเจ็บระบมไปทั้งหัวใจ เพราะคุณปราณสบประมาทเต้าคัพโอเวอร์ไซต์ของฉันที่ได้ยื่นไปข้างหน้าติดราวระเบียงห้องคุณปราณ ซึ่งเชื่อมติดกับห้องฉันพอดิบพอดี เขาบอกว่าไม่กินนมเด็ก ฮึก เจ็บชะมัดเลย
"ถ้าคุณปราณไม่มองคงไม่เห็นหรอกค่ะ"
แถมฉันยังโน้มตัวไปข้างหน้า จนเสื้อสายเดี่ยวร่นลงมาเห็นความขาวสว่างบริเวณเนินหน้าอก และเห็นไปถึงไหนต่อไหนอีกครั้ง อีกฝ่ายรีบเบือนหน้าหนีไปทิศทางอื่น ราวกับกระดากอายที่จะเห็น ฉันไม่ได้ตั้งใจจะอ่อยเขาเลยนะ แค่หยอกล้อเท่านั้นเอง
"เธอนี่มัน! ฉันมองเธอเอาไว้ไม่มีผิดหรอก"
อ้าว ไหงเขาเข้าใจฉันผิดเข้าไปใหญ่กว่าเดิมล่ะ งานเข้าอีกแล้วสิยัยลิลิน!
ปึง ปึง!
"คะ...คุณปราณเดี๋ยวก่อนซิคะ ไม่ใช่แบบที่คุณคิดหรอกนะ!" คุณปราณคล้ายจะหัวเสียมากกว่าเก่ากับการแสดงออกไม่ค่อยน่ารักของฉันเมื่อกี๊นี้ เขาเดินปึงปังกลับเข้าห้องตัวเองไป
หนำซ้ำยังจัดการล็อกหน้าต่าง ใช้ผ้าม่านปิดทับเอาไว้อีก จนไม่สามารถมองเห็นคนด้านในได้แม้แต่เงา ไอ้ผ้าม่านผืนหนากลายเป็นมารเส้นทางความรักของฉันกับคุณปราณโดยปริยาย
ฉันแค่ทำเพราะคิดว่าเป็นเรื่องสนุกขบขันไม่ได้คิดให้ดีก่อน ว่าในสายตาเขามันจะเป็นการทำตัวแย่ และไม่เหมาะสมขนาดไหน
ฉันทำพลาดไปอีกครั้งแล้วสินะ
คะแนนจีบที่ตั้งไว้จากหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ลดฮวบ เหลือแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่ยังพอมีโอกาส หรืออาจจะน้อยกว่านี้แล้วล่ะมั้ง
2 วันต่อมา
มหาวิทยาลัย
เปิดเรียนวันแรกไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นไปมากกว่าอาจารย์คนใหม่ ซึ่งเป็นถึงลูกชายของผู้บริหารสถานศึกษาชั้นนำของประเทศ หรือหากจะเรียกอีกอย่างว่า เป็นถึงลูกชายผู้อำนวยการของทางมหา'ลัย
ฉันรู้อยู่แล้วแหละว่าอาจารย์คนใหม่เป็นใคร และตอนนี้เขาได้ยืนอยู่หน้าชั้นเรียนของห้องเรียนนักศึกษาคณะบริหาร ปี1 เพื่อแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
เนื่องจากได้รับหน้าที่สอนพวกเด็กรุ่นใหม่ หน้าใหม่ ฉันคงจะรู้สึกตื่นเต้น กระปี๋กะเป่าอยากเรียนกับคุณปราณมากกว่านี้ ถ้าไม่มีคู่แข่งหัวใจตัวฉกาจอย่างแก๊งเด็กใหม่ที่เคยเป็นคู่อริเก่า ฉันกับมะปรางจากโรงเรียนชั้นมัธยมปลาย!
"ฉันได้ยินมาว่าอาจารย์คนใหม่เป็นพี่ชายยัยปรางนะแก แกจะชอบพี่ชายคู่อริงั้นเหรอ"
หนึ่งคนในสามสาวที่นั่งโต๊ะเรียนข้าง ๆ ฉันซุบซิบกัน แต่เสียงสนทนาเหล่านั้นมันก็ดังมากพอจนฉันได้ยินด้วย รวมถึงตัวน้องสาวคุณปราณที่นั่งเรียนอยู่โต๊ะด้านหลังฉัน
"แล้วยังไง ฉันอยากได้ก็ต้องได้ ต้องสนยัยปรางด้วยเหรอ" ยัยลีอาหัวหน้าแก๊งพูดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ นางมองไปยังหน้าชั้นเรียนด้วยแววตาสนใจคุณปราณโดยไม่ปกปิดความอยากได้
ถ้าไม่ใช่ว่าพ่อแม่นางมีฐานะร่ำรวย คงไม่ได้มานั่งชูคอในมหา'ลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศหรอก และที่ฉันกับนางไม่ถูกขี้หน้ากันสักเท่าไหร่
เพราะนางชอบหาว่าฉันไม่มีพ่อ ล้อว่ากำพร้าบ้างล่ะ ฉันไม่ได้ให้ค่ากับถ้อยคำของยัยลีอาเลยสักนิด แต่รู้สึกสมเพชนางมากกว่าที่มีครอบครัว ฐานะที่สมบูรณ์แบบ แต่ยังมีทัศนคติย่ำแย่อยู่เหมือนเดิม โดนที่บ้านตามใจจนติดนิสัย ยังไม่รวมถึงใช้เงินซื้อเพื่อนด้วย
"พูดอะไรก็หัดเกรงใจน้องสาวเขาบ้าง" ฉันทนไม่ไหวอีกแล้ว!
"แกเกี่ยวอะไรด้วยนังลินไม่มีพ่อ!" ยัยน้ำหวานรีบออกตัวรับแทนเพื่อนสนิทอย่างยัยลีอาทันที จนทั้งสามสาวที่เอาแต่ทำตัวไม่มีแก่นสารไปวัน ๆ พร้อมใจกันหันขวับมองมายังฉัน พร้อมส่งแววตาไม่เป็นมิตร
แต่ฉันไม่เคยเกรงกลัวหรอก ฉันสู้กลับไม่มีถอย
"ฉันเห็นพวกแกพูดถึงพี่ชายเพื่อนสนิทของฉันหนิ อยากได้คุณปราณจนตัวสั่นเลยสินะ แต่ฉันจะบอกให้แล้วกัน คุณปราณเขามีสมอง เขาไม่สนใจแกหรอก"
ใช่...คุณปราณเขาเลือกเยอะ เขาเองก็ไม่เลือกฉันด้วย พูดแล้วแทบจะปาดน้ำตา หาน้ำใบบัวบกมากินแก้ช้ำใน
"แกคอยดูแล้วกัน อาจารย์คนใหม่เขาจะต้องเขาจะต้องสนใจฉัน!" ยัยลีอาขึ้นเสียงใส่หน้าฉัน ก่อนจะตั้งท่าลุกขึ้นหมายจะเข้ามาทำร้ายฉันให้ได้ แต่ยัยน้ำหวานกับแซนก็รีบดึงเพื่อนตัวเองให้กลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมทันที
"มั่นใจจังเลยนะ!" เหยียดยิ้มมุมปากเมื่อเอ่ยขึ้นอย่างเยาะเย้ยความมั่นใจของนาง ฉันไม่ได้ให้ความสนใจยัยลีอาหรอก ตอนนี้ฉันเอาแต่กอดอกเชิดหน้าเชิงท้าทายพวกนาง จนเริ่มเกิดอาการโมโห ปรี๊ดแตก
ทำให้อาจารย์คนใหม่ที่ฉันจ้องเขาก่อนหน้านี้ และตลอดเวลา เขาเริ่มกวาดสายตาคมดุดันมองมาทางนี้แล้วด้วย ก่อนสุ่มเสียงทุ้มทรงอำนาจจะเอ่ยขึ้น
"นักศึกษาที่นั่งอยู่กลางห้องตรงนั้นมีเรื่องอะไรกัน!"
ส่งผลให้นิสิตนักศึกษาทั้งห้องเงียบปาก บรรยากาศสงบ จนยัยลีอาถึงกับผีออกจากร่าง สงบเสงี่ยมทันที พวกนางไม่กล้าตอบคำถามอาจารย์หนุ่ม จึงกลายเป็นฉันที่ค่อย ๆ หยัดตัวลุกยืน ทำตัวเป็นผู้นำกล้ารับแทน
"เปล่าค่ะคุณปราณ แค่มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย" ฉันแสดงความสนิทสนมด้วยการเรียกชื่อเล่นสั้น ๆ ของเขา แต่อีกฝ่ายน่าจะไม่พอใจล่ะมั้ง สืบเท้าเข้ามาหาฉันซึ่งยืนตัวแข็งทื่อท่ามกลางห้องเรียน เพราะสายตาคุณปราณสื่อถึงความดุร้ายเพียงใด
"อยู่มหา'ลัยห้ามเรียกอาจารย์แบบนั้นอีก ให้เกียรติกันด้วยนะนักศึกษา!"
คุณปราณหยุดยืนประจันหน้าฉัน พร้อมเอ่ยตักเตือนเสียงขึงขัง แววตาห่างเหินอย่างกับคนละคนกับวันก่อน ๆ หลุบมองฉัน
กลีบปากบนและล่างเม้มเข้าหากันแน่นเป็นเส้นตรง ลมหายใจฉันถึงกับหยุดชะงัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ
"ขะ...ขอโทษค่ะอาจารย์"
รู้สึกเจ็บจุกอกอย่างแปลกประหลาด เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของฉัน และเกิดการกล่าวโทษตัวเองมากมาย ฉันทำอะไรก็ผิดไปเสียทุกอย่าง ไม่เคยเป็นเด็กดีในสายตาคุณปราณเลยสักครั้ง
ฉันกล้ำกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเอื้อนเอ่ยรับปากเขาอย่างลำบากใจ ถึงแม้ก้อนเนื้อด้านซ้ายจะเจ็บ ฝ่ามือเรียวสองข้างกลับเผลอกำหมัดแน่น จนแขนสั่นเทา เมื่อแก๊งสามสาวมารร้ายนั่น หัวเราะเยาะฉัน!
สำหรับฉันถือคติ เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด!