บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 งานของลิลิน

ตอนที่ 3 งานของลิลิน NC++

ฉันขนของเข้ามาอยู่ห้องใหม่ภายในวันเดียวจนเสร็จสิ้นภารกิจลง โดยที่ฉันไปแอบได้ยินผู้ใหญ่คุยเรื่องห้องพักมาอีกที ข้าวของคุณปราณจะมีพนักงานตามเอามาให้อีกที

เพราะความเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมที่นี่ ทุกคนจึงปฏิบัติกับเขาเป็นพิเศษ ทางด้านมะปรางได้ย้ายเข้ามาทดลองอยู่ก่อนใครแล้ว นางจึงไม่ได้ยุ่งยากเหมือนคนอื่นเท่าไหร่นัก

วันนี้เป็นวันแรกของฉันที่ต้องออกจากบ้านมาสวมบทเด็กมหา'ลัยอยู่ห้องอย่างโดดเดี่ยว ใช้ชีวิตเอาตัวรอดเพียงลำพังครั้งแรกในชีวิต แต่ยังโชคดีอยู่บ้างเพราะมีฝ่ายสนับสนุนการเงินอย่างคุณแม่

คุณแม่พร้อมเปย์สิ่งที่ฉันขาดเหลือหรืออยากได้ตลอด แต่แลกกับสัญญาของท่านซึ่งเคยตักเตือนก่อนฉันจะออกจากบ้านมาว่า ถึงจะเกเรแค่ไหนก็ห้ามทิ้งการเรียน ต้องเรียนให้จบ คุณแม่เข้าใจชีวิตของวัยรุ่นเป็นอย่างดี เพราะท่านเองก็เคยผ่านช่วงเวลานั้นมา

นอกเหนือจากนั้นท่านตามใจ ให้อิสระฉันเต็มที่ และต่างจากทางบ้านของเพื่อนสนิทที่เคร่งครัดกับมะปราง จนนางเริ่มจะแสดงอาการปฏิกิริยาต่อต้านออกมาอยู่บ่อยครั้ง ถึงแบบนี้ไงล่ะ ฉันจึงไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอะไรในชีวิต และคุณพ่อถึงแม้ท่านจะจากไปแล้ว ก็อยู่ในใจฉันกับคุณแม่เสมอ

"คืนนี้ไปเที่ยวแก้เซ็งกันไหม" เมื่ออยู่กันสองคนในห้องนอนของฉัน ภายหลังที่คุณปราณสนทนากับพนักงาน เดินหายออกไปพร้อมกัน แถมไม่รู้ว่าเขาไปไหน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องของเด็กอย่างฉันจะเข้าไปก้าวก่าย จึงเอี้ยวหน้ากลับมาสนใจคำชักชวนจากปากเพื่อนสาวแทน

"ไปเที่ยวที่ไหน แกไม่กลัวคุณปราณจับได้หรือไง" ฉันมองค้อนอย่างเอาเรื่องกับนาง เพราะต่อให้จะโดนดุโดนว่าอีกสักกี่ครั้ง มะปรางก็ยังเป็นมะปรางคนเดิม นางไม่เคยเข็ดราบ จนบางครั้งฉันที่เป็นฝ่ายห้ามก็เริ่มจะเหนื่อยหน่ายใจ ไม่ใช่ว่าฉันเป็นคนเรียบร้อยหรอกนะ แต่เป็นพวกดื้อเงียบต่างหาก ต่างจากนางที่ดื้อแบบเห็น ๆ

"แอบไปดื่มผับใกล้ ๆ มหาลัยนี่เอง พี่ปราณถึงจะฉลาดแต่คงไม่มีหูตาเหมือนสับปะรด รู้การเคลื่อนไหวของพวกเราหรอก อีกอย่างนะ พี่ปราณออกไปหาเพื่อนแล้ว" ได้โอกาสเมื่อไม่มีพี่ชายอยู่ภายในห้องด้วยนางก็บ่นอุบกับฉันทันที

"แกแน่ใจนะว่าเขาจะจับไม่ได้"

"แน่ใจสิ ตกลงแกจะไปไหม" คนถามอย่างร้อนใจ และรบเร้า ฉันกับมะปรางตัวติดกันยิ่งกว่าตังเม ไม่เคยห่างกันนานเลยสักด้วยซ้ำ มีนางที่ไหนที่นั่นย่อมมีฉัน และมีฉันที่ไหนที่นั่นก็ต้องมีนาง โดยฉันเองไม่เคยปฏิเสธเมื่อถูกชักชวน รวมถึงคราวนี้ด้วย

"ไปก็ได้...แต่ไปดื่มได้ไม่นานนะ พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดท้ายแล้วด้วย ฉันอยากถ่ายคลิปลงแอคเคาท์ในแอปนกสีฟ้าสักหน่อย กลัวแฟนคลับจะคิดถึง"

หลังจากพรุ่งนี้ไป ฉันคงต้องโฟกัสกับเรื่องเรียนมากขึ้น ช่องทางทวิตเตอร์ ประเภทคลิปเชิญชวนคนดูให้รู้สึกใจสั่นตามก็คงต้องลงน้อยกว่าเดิม ไม่เหมือนช่วงหนึ่งปีแรกที่เพิ่งเริ่มทำ

"โอเค ฉันกลับห้องตัวเอง ไม่กวนแกแล้วดีกว่า เดี๋ยวช่วงสองทุ่มฉันจะมากดออดเรียก แต่งตัวรอไว้เลยล่ะ อย่าลืมนะ!" จัดแจงแผนการด้วยเสียงใสเข้มเสร็จสรรพ มะปรางก็โบกไม้โบกมือลา ผลุนผลันเดินหายออกจากห้องไปไว ๆ

ทิ้งให้ฉันยืนเคว้งมองรอบห้องสี่เหลี่ยมด้วยความมึนงง ช่วงเวลานี้ฉันยังพอมีเวลาว่าง ทำให้คิดหาอะไรทำคลายเหงา แถมฉันเป็นพวกที่ไม่ค่อยอยู่นิ่ง ๆ ซะด้วยสิ จึงเลือกทำงานอดิเรกที่ตัวเองชอบ

พรึ่บ!

"ใส่ชุดไหนดีนะ" ฉันยอบตัวนั่งคุกเข่าลงปลายเตียง ซึ่งมีกระเป๋าสองถึงสามใบข้างในบรรจุชุดเสื้อผ้าวางเอาไว้เบื้องหน้า ฉันจัดการรูดซิปลง คลี่เปิดกระเป๋าใบใหญ่ที่สุด และฉันเองก็ให้ความสนใจมันมากเป็นพิเศษ เนื่องจากกระเป๋าใบนี้ซ่อนเก็บรสนิยมลับ ๆ ของฉันเอาไว้

มือเล็กทั้งสองข้างคุ้ยชุดคอสเพลย์หลากหลายแบบในกระเป๋าใบใหญ่ ปากเล็กขมุบขมิบบ่นอะไรเรื่อยเปื่อยตามประสา พลางค้นหาชุดตัวโปรด ก่อนมุมปากฉันจะค่อย ๆ ขยับยิ้มกริ่ม

เมื่อพบชุดเมดตัวโปรดรับบทแม่บ้านสาวจำเป็นสักคลิป ฉันหายเข้าไปห้องน้ำ เพื่อเปลี่ยนชุด แล้วออกมาเตรียมอุปกรณ์อัดวิดีโอ ใช้ขาตั้งกล้องสูงกว่าเตียงนอนเล็กน้อย นิ้วจิ้มหน้าจอสมาร์ตโฟนเครื่องแพงตรงหน้า เมื่อพร้อมจะถ่ายทำบทต่อไป

แสงแดดสีแสดจากกระจกยาวริมระเบียงยามโพล้เพล้ เป็นตัวกลางช่วยทำให้มุมกล้องมีมิติ ฉันค่อนข้างพึงพอใจ เป็นครั้งแรกในใช้สถานที่ใหม่ถ่ายทำคลิป โลเคชั่นตั้งกล้องคนละมุม จากคลิปเดิม ๆ เลยสร้างความประหม่าแก่ฉันนิดหน่อย

หลังจากระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ฉันใช้เพียงห้องนอนที่บ้านของตัวเองเท่านั้น จนแฟนคลับบางคนเริ่มออกปากว่าเบื่อ บางคนก็บอกว่าฉันชอบลงแต่อะไรเดิม ๆ ซ้ำซาก ซึ่งคราวนี้ฉันหวังว่าคลิปล่าสุดจะถูกใจคนเหล่านั้น

ฉันวาดขาขึ้นมาบนเตียงขนาดใหญ่ เอนแผ่นหลังบางนอนราบไปกับผ้าปูที่นอนนุ่ม ลำตัวอยู่ตรงกลางระหว่างจุดตั้งกล้อง ท่อนขาสองข้างยกขึ้นตั้งฉาก เผยกลีบดอกไม้งามที่แย้มบาน

จนฉันมั่นใจว่าการกระทำของตัวเองเผยให้เห็นอะไรต่อมิอะไรอย่างเด่นชัดระดับHD จึงเคลื่อนไหวทำขั้นตอนต่อไปโดยมุมกล้องจะเห็นได้เพียงสัดส่วนของร่างกาย เพราะฉันไม่ยินยอมเปิดเผยใบหน้า

ฉันไม่ได้รู้สึกเขินอายเมื่อของสงวนถูกโชว์ต่อหน้ากล้อง แต่อาจจะมีอาการตื่นเต้นบ้างเล็กน้อย อาจจะเพราะทำมาเป็นเวลาหนึ่งปี จนเกิดความเคยชินแล้วล่ะมั้ง

มือข้างที่ถือแท่งสีเนื้อเข้มสั่นระริก ชุดเมดของฉันมีรูปทรงไม่ต่างจากบิกินนี่ แต่ที่พิเศษกว่านั้นน่าจะเป็นตรงกลางระหว่างสาวกลับไม่มีเนื้อผ้าปกปิด อวดติ่งเกสรสีชมพูระเรื่อ และดอกไม้งามฉ่ำน้ำหล่อลื่น ที่เริ่มหลั่งไหลออกมามากกว่าเดิม ไม่ขาดสายเมื่อเริ่มจินตนาการวาดฝันถึงผู้ชายหุ่นล่ำ กล้ามแน่น ปลุกเร้าอารมณ์ตนเอง

"อื้อ อ้า!" จากนั้นจึงค่อย ๆ สอดแท่งเนื้อแหวกผ่านเข้ามาอย่างเนิบนาบ เบิกช่องทางกลีบดอกไม้จนขยายได้ที่ เสียงหวานเปล่งครางเครือผะแผ่วผ่านลำคอ เอวบางกระดกรับความกระสันเร่า ๆ ขณะกล้องเบื้องหน้าได้บันทึกทุกการเคลื่อนไหวของฉัน

ฉันควบคุมจังหวะแท่งนำพาความสุขอย่างช้าเนิบ หน้าอกใหญ่เต่งตึงซึ่งสวมใส่เพียงบราเซียลูกไม้สีขาวตัวบาง ๆ ปกปิดยอดอกพอหมิ่นเหม่ก็กระเพื่อมไหวขึ้นตามจังหวะการหอบหายใจ

"อ๊า!" ก่อนจะเร่งขยับดุ้นขนาดห้าสิบสองผลุบหายเข้าออกร่องรักถี่รัว ฉันพยายามตั้งสติเอาไว้ก่อนจะทำอะไรเตลิดไปไกลจนกว่าจะปฏิบัติงานสิ้นสุดลง ฟันคมกัดกลีบปากตัวเองแน่น ครางกระเส่าอย่างเย้ายวน ร่างกายบิดเร้าทรมาน

สายตาคู่หวานปรือมองเพดานห้องพร่าเบลอ ด้วยความเวิ้งว้าง อารมณ์ในกายกลับแล่นพล่าน เต็มไปด้วยตัณหาราคะ ร่องสาวบีบรัดเป็นพัลวัน ลำตัวแอ่นรับไม่หยุดหย่อน...กระทั่งได้เวลาสิ้นสุดการถ่ายคลิป

ฉันถอนแท่งสีเนื้อออกมา คลานเข่าเข้าไปใกล้พื้นที่ตั้งกล้อง นิ้วเรียวกดบันทึกวิดีโอบนจอสมาร์ตโฟนเรียบร้อย จึงกลับมานอนแผ่หลาบนเตียงเฉกเช่นเดิม แน่นอนว่าความรู้สึกฉันมันยังไม่สิ้นสุดง่าย ๆ คว้าแท่งสำเร็จความใคร่สำหรับผู้หญิง เพื่อชักพาให้ตัวเองถึงฝั่งฝันอีกระลอก...

ฉันไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย ไม่ได้เสียซิงครั้งแรกให้ใคร นอกซะจากแท่งสีเนื้อในมือตอนนี้ และมีคนรวยหลายคน อาเสี่ยหื่นกาม จนรวมไปถึงเหล่าคนดังพยายามซื้อความบริสุทธิ์ของฉันด้วยเงิน ซึ่งฉันไม่ได้มีความลำบาก หรือจำเป็นต้องใช้จ่ายขนาดนั้นจึงปฏิเสธไม่รับ

บางครั้งบางคราวก็มีบ้างที่แอคเคาท์ลับอื่น ๆ ชักชวนให้ฉันหาพาร์ทเนอร์สักคน เพื่อทำคอนเทนต์ฟิลล์แฟน ซึ่งฉันก็ต้องปฏิเสธไปอีกครั้ง...ไม่รู้สิ ฉันชื่นชอบถ่ายคลิปแบบเดี่ยวไม่มีคู่ขามากกว่า 

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

หลังจากจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จสรรพ ฉันกลับออกมาจากห้องน้ำ หย่อนก้นนั่งปลายเตียงนอนเพื่อรอมะปรางมากดออดหน้าห้องพักเรียก ออกไปนั่งดื่มเหล้าแก้เซ็งด้วยกันที่ผับ พร้อมถือสมาร์ตโฟนเครื่องแพงติดมือมาด้วย

ฉันใช้นิ้วปัดหน้าจอเปิดขึ้น เกิดแสงสว่างวาบ จึงจิ้มเข้าไปแอปพิเคชั่นที่เรียกได้ว่าฮิตมาก แต่จำกัดผู้เข้าชมคลิปต้องอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไปเท่านั้น

แอคเคาท์ของฉันมีชื่อว่า Pailin ซึ่งเป็นแค่นามแฝง มีแค่แฟนคลับเฉพาะในกลุ่มที่ชอบอะไรเหมือนกัน จะรู้จักฉันในชื่อ 'ไพลิน' ดี

เมื่อแน่ใจว่าวิดีโอไม่ถึงหนึ่งนาทีไม่มีข้อบกพร่อง และรอบคอบดีแล้ว ฉันก็ตัดสินใจโพสต์เผยแพร่แคปชั่น แนบคลิปที่เพิ่งอัดเมื่อครู่

Pailin ได้โพสต์ลงสื่อ (ไพลินกลับมาแล้วนะ พร้อมกับความเผ็ดร้อนบนเตียงมาอ้อนแฟน ๆ ของเขา หวังว่าจะชอบตรีมชุดเมดสาวนะ!"

แสดงความคิดเห็น 990 คอมเมนต์ 2,250 แชร์โพสต์

ยัยแซ่บ56 : ปังมากยัยเธอ

แฟนคลับของไพลิน : อยากเป็นผีในห้องจัง...ว่าแต่ไพลินเปลี่ยนโลเคชั่นใหม่แล้วเหรอเนี่ย?

Prangtib : ขี้อ่อยอะ!

TY : ห้องของเธอคุ้น ๆ นะ เหมือนไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ผมอยู่

ฉันนั่งตีขาไปมาด้วยความอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ขณะสายตาไล่อ่านความคิดเห็นจากแฟนคลับ เพื่อนบนโลกอินเทอร์เน็ต ทั้งแซว หยอกเย้า บ้างชื่นชมหุ่นฉัน แถมมีบางคนเอ่ยถึงประเด็นห้องพักแห่งใหม่ด้วย

จนมาสะดุดกับแอคเคาท์ที่มีชื่อว่า 'TY' ริมฝีปากฉันอมยิ้มออกมา เพราะเขามักจะแสดงความคิดเห็นโพสต์ของฉันทุกคลิป ตั้งแต่ช่วงแรกที่ฉันเพิ่งเริ่มทำช่อง มีคนติดตามไม่ถึงร้อย

จนถึงปัจจุบันผู้ติดตามฉันพุ่งแตะหลักห้าหมื่น แต่ฉันกลับจำแฟนคลับคนนี้ได้ดี และทุกครั้งที่ลงคลิปใหม่ ๆ สายตาของฉันก็จะกวาดหาความเห็นจากเขา คล้ายกับเฝ้ารอคนคนเดียวมาตลอด บางครั้งฉันก็เผลอคิดเล่น ๆ ว่าอยากรู้จักตัวตนแท้จริงของแฟนคลับลับ ๆ คนนี้ซะด้วยซ้ำ...เขาเป็นใครกันแน่?

กริ่ง กริ่ง!

เนิ่นนานเวลาผ่านพ้นไป จนถึงสองทุ่มตรง ออดหน้าห้องพักก็แผดเสียงดัง ฉันที่เขี่ยหน้าจอสมาร์ตโฟน จนรู้สึกเบื่อหน่าย จึงเก็บมันโยนลงกระเป๋าแบรนด์หรูราคาแพง เอี้ยวหน้ามองต้นเหตุของเสียงออด แล้วรีบเดินไปเปิดประตูหน้าห้อง ไม่ลืมคว้าสายกระเป๋ามาสะพายข้าง

"แกลงคลิปใหม่แล้ว แซ่บมากเพื่อนรัก ฉันเห็นน้า" นั่นเป็นคำทักทายแรกเมื่อมะปรางเห็นฉันชะโงกหน้าผ่านประตูออกไป เมื่อก่อนฉันคงเขินอายจนตัวบิดเพราะไม่ชิน แต่ปัจจุบันฉันกลับเฉย ๆ

"แกก็แซ่บนี่ลงคลิปทุกวัน แม่สาวปรางทิพย์!" แหย่นางกลับทันที ใช่ค่ะ...แอคเคาท์ 'Prangtib' เป็นของเพื่อนสาว ที่มักคอมเมนต์คลิปหาว่าฉันอ่อยเมื่อมื้อเย็นที่ผ่านมานั่นเอง

"เออจริงสิ วันนี้รถฉันยังจอดอยู่ที่บ้านแก แถมแกไม่มีรถ เราจะไปกันยังไง" ฉันลืมนึกคิดเรื่องนี้ไปเลย

มิหนำซ้ำมะปรางไม่มีรถยนต์ส่วนตัว คุณปราณไม่อนุญาตให้น้องสาวใช้รถขับไปไหนมาไหนเอง ส่วนรถของฉันก็จอดอยู่ที่บ้านเขา แถมฉันคงไม่ได้กลับไปที่นั่นอีกแล้ว

ฉันจะโทร.เรียกคุณลุงขับรถของทางบ้านฉันไปขับกลับมาให้ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งหมายความว่าพวกฉันไม่มีรถที่จะใช้เดินทาง

"มันจะไปยากอะไรยัยลิน!" มะปรางตบเข่าตัวเองดังเพี๊ย ไม่ได้มีความกังวลหรือคิดมากเลย ราวกับหาวิธีไปร้านเหล้าเอาไว้แล้ว ก่อนนางจะพูดด้วยท่าทีทะเล้น

"เรียกแท็กซี่สิ ถ้าฉันเมาแกก็เมา ชีวิตเราจะได้ฝากไว้กับแท็กซี่ไง คิกคิก" นั่นแหละทำให้ฉันกับนางเลยมาถึงผับได้ด้วยรถแท็กซี่

ผับหรูหลังมหา'ลัย

"สั่งอะไรเบา ๆ ซ้อมคอก่อนดีกว่า"

"อย่าห้าวให้มากถ้าพี่ชายแกรู้เข้า เราขำไม่ออกแน่ ๆ" ฉันตักเตือนเพื่อนสาวคนสนิท หมั่นไส้ความเริงร่าอย่างออกนอกหน้าของนาง ปกติพวกฉันจะมาแก้เซ็งกันห้าวันต่อหนึ่งสัปดาห์ กลายเป็นลูกค้าอายุยังน้อยประจำของร้านผับร้านเหล้าละแวกใกล้บ้านไปแล้วด้วยซ้ำ

แต่พอเปลี่ยนผับ บรรยากาศก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ผับแห่งใหม่ที่มาล้วนให้ความรู้สึกอันตรายเสียมากกว่า แถมลูกค้าจะเยอะมากกว่า ส่วนมากฉันคาดเดาเองว่าน่าจะเป็นพวกนิสิตนักศึกษามหา'ลัยเดียวที่ฉันสอบติดล่ะมั้ง

"ฉันขอค็อกเทลที่หนึ่งค่ะ"

เมื่อทิ้งสะโพกนั่งเก้าอี้ข้างเคาน์เตอร์ตำแหน่งตรงข้ามกันกับพนักงานชงเครื่องดื่ม ฉันดึงสายตากลับมาสั่งพนักงานชายหนุ่ม มะปรางทำท่าครุ่นคิด จนท้ายที่สุดนางก็ออกปากสั่งตาม

"ฉันเอาไวน์...ไวน์องุ่นดองนะ" จากนั้นพนักงานหนุ่มก็หงึกหน้ารับคำสั่ง หมุนตัวกลับไปทำงานของตัวเอง

ระหว่างรอเครื่องดื่มตกถึงท้อง แสงไฟสลัวและเสียงเพลงกระหึ่ม ทำให้ฉันกับเพื่อนสาวไม่สามารถนั่งซึมอยู่นิ่ง ๆ ได้ มาเที่ยวทั้งทีสำหรับฉันต้องสุดเหวี่ยง ไปให้หลุดโลกเลยสิ

ร่างผอมหุ่นเพรียวดันตัวลุกจากเก้าอี้ที่นั่ง ขยับตัวออกมาเล็กน้อยเพื่อโยกย้ายส่ายสะโพกตามเสียงเพลง มะปรางกับฉันระบายยิ้มเมื่อมองจ้องหน้ากันขณะช่วงเวลาหนึ่ง คล้ายจะอ่านใจอ่านความกันออก

จากที่เต้นด้วยจังหวะเบา ๆ ฉันก็เริ่มบิดส่ายสะโพกแรงขึ้น ขยับมือไม้อย่างเย้ายวนใจ ชุดเดรสเกาะอกสีดำสั้นรัดรูปจึงสั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ แทบจะเห็นแก้มก้น

ฉันยิ่งพึงพอใจ สนุกสนานต่อการขยับเขยื้อนตัว สายตาเฉี่ยวคมปรายมองชายหนุ่มเสือผู้หญิงรอบข้างที่หันมาสนใจฉันอย่างเปิดเผย...ตัวตนของฉันก็เป็นแบบนี้ อาจจะดูแรง ๆ ยั่วให้ผู้ชายที่หวังจะล่อลวงตายใจ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยคิดจะไปต่อกับผู้ชายคนไหนสักครั้ง

ดวงตาฉันกวาดมองรอบข้างบริเวณ ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่านลุกขึ้นจากโต๊ะนั่งดื่ม ออกมาโยกย้ายส่ายสะโพกตามเพลง ถึงแม้แสงสี ไฟสลัวกะพริบถี่ ๆ จะทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจนเท่าเวลาปกติ สายตากลับสะดุดอยู่กับร่างสูงใหญ่สวมใส่ชุดสูทสีกรมท่า โดดเด่นท่ามกลางผู้คนในยามค่ำคืน

เจ้าของใบหน้าเรียบขรึม แววตาดุดันจ้องเขม็งมาทางมะปราง ก่อนจะตวัดตรงถึงตัวฉัน เขาสืบเท้าแกร่งย้ำเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ

จนฉันต้องหยุดเต้น เผลอกลั้นหายใจชั่วขณะ ยกมือขยี้ตาระรัวเพราะคิดว่าตาฝาด ปลอบใจตัวเองไปเท่านั้น...อาจจะเป็นแค่คนหน้าเหมือน แถมหุ่นก็เหมือนกันเป๊ะ ๆ แต่มะปรางไม่ทันเห็นพี่ชายของเจ้าตัว หมุนตัวกลับไปคล้องคอผู้ชายแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้ แล้วบดเบียดร่างกายอ่อยชายหนุ่มเหมือนหลายครั้งที่นางชอบทำ

"คะ...คุณปราณ"

น่ะ....นั่นพี่ชายมะปรางตัวจริงเสียงจริง ฉันจำได้ไม่มีผิดแน่ และไม่ใช่แค่ตัวประกอบด้วย นี่มันคุณปราณตัวจริง คนจริง ๆ ไม่ใช้ตัวประกอบเป็นตัวแทนกัน!

"หนีออกมาสนุกกันพอหรือยัง!" น้ำเสียงของคุณปราณเย็นยะเยือกจับใจคนฟัง ทำเอาก้อนหัวใจดวงน้อยสั่นสะท้านไม่ต่างจากลำตัวที่เริ่มแสดงอาการสั่นเทา เขาไม่เหมือนคุณปราณคนเดิมของฉัน

ตะ...ตอนนี้น่ากลัวราวกับซาตานร้ายตัวฉกาจในร่างคน แถมฉันยังสัมผัสได้ถึงกระแสอันตรายบางอย่างแผ่หลา ไอผ่าวร้อนกระจายรอบตัวคนอายุมากกว่า เมื่อเขากำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์ฉุนเฉียวมากเพียงใด ที่รู้ว่าน้องสาวเขา กับฉันรวมหัวพากันหนีเที่ยว

ตายแน่ ๆ อกลิลินจะแตก!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel