ตอนที่ 13 เรี่ยราด
ตอนที่ 13 ทำอะไรเรี่ยราด
"พี่ปราณบอกฉันว่ารถแกเสียพอดี เลยรับแกติดมามหา'ลัยด้วย" พอฉันเข้ามานั่งเบาะด้านหลังของรถสปอร์ตรุ่นสี่ประตู มะปรางเพื่อนสนิทจึงรีบเอี้ยวหน้ามาถามฉันด้วยสายตาประกายหวังสื่อถึงความคลุมเครือบางอย่างทันที และระหว่างนั้นคุณปราณที่เป็นคนขับก็บึ่งรถกลับคอนโดมิเนียม
"อืม รถเสียกะทันหันน่ะ" ฉันเออออไปตามที่คุณปราณนัดแนะเอาไว้ เพราะทราบดีว่าเขาไม่ต้องการให้คนอื่นรับรู้ถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินเลยมากไปกว่านักศึกษากับอาจารย์ โดยเฉพาะน้องสาวเขาที่เป็นถึงเพื่อนฉัน ไม่ควรรู้เรื่องเข้าเด็ดขาด
"จริงสิ แกทดสอบเข้าชมรมว่ายน้ำได้ไหม"
"ระดับฉันแล้วไม่มีพลาดหรอก"
"ค่ะ แม่คนเก่ง แม่คนเลิศหรู" นางกลอกตาเอือม ๆ กัดฟันพูดประชดประชันด้วยความทะเล้นขบขัน จนฉันหัวเราะออกมา นางมีพลังชีวิตที่เต็มเปี่ยม ถ้าจะเปรียบเปรยมะปรางก็คงราวกับน้ำเต็มแก้วอย่างไรอย่างนั้น ส่วนฉันน่ะเหรอ บางวันยิ้ม บางวันคิดมาก ไม่ได้ครึ่งความสดใสเหมือนเพื่อนสนิทหรอก
"เอ่อ...พี่ปราณคะ ปรางอยากให้ลินติดรถมาด้วยทุกวันจัง ยังไงเราก็มาทางเดียวกันนะ" เมื่อทุกคนเงียบภายในรถยนต์จึงตกอยู่กับบรรยากาศอึมครึม
มะปรางที่ฉันสังเกตเห็นทางท่าลุกลี้ลุกลนของนางเข้า ราวกับต้องการจะพูดบางอย่างต่อพี่ชาย แต่ฉันไม่ได้ทักท้วงอะไร จนกระทั่งนางเอ่ยจุดประเด็นขึ้นมาท้ายที่สุด พร้อมความลนลาน เพราะคุณปราณปรายหางตาคมราบเรียบไร้ความรู้สึกมามอง
"แล้วแต่เจ้าตัวเขาสิ พี่ไม่ได้ว่าอะไร"
คำตอบอนุญาตจากคุณปราณส่งผลถึงหัวใจฉันได้อย่างร้ายกาจ มันเต้นแรงโครมครามราวกับรัวกลองยาว ไม่อาจหักห้ามความรู้สึกถลำลึกให้หยุดเพียงแค่นี้ได้ อาจารย์หนุ่มปรายมองมายังฉันอีกครั้ง คราวนี้ความประหม่าเกิดขึ้นจนไม่กล้ามองกลับ ฉันก้มงุดลงมองปลายรองเท้าของตัวเองแทน
"แกได้ยินแล้วนะ จะติดรถไปเรียนด้วยหรือไปเองก็ตัดสินใจเอาเอง" มะปรางบอกพร้อมยิ้มทะเล้น ซึ่งฉันอมยิ้มตามได้ไม่ยาก ในเมื่อมันเป็นความต้องการที่ฉันคาดหวังอยู่เช่นกัน นางรู้ใจฉันชนิดที่รีบจัดการให้ฉันแบบข้ามขั้นเลยก็ว่าได้
"แกก็รู้ว่าฉันจะตัดสินใจยังไง คิกคิก"
แต่ถ้ามะปรางรู้เรื่องฉันกับคุณปราณที่มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วละก็...คงไม่เห็นด้วยแน่ ๆ บางครั้งการที่นางเชียร์ฉันกับคุณปราณ เป็นเพียงแค่การสนับสนุนไม่จริงจัง แค่หยอกเย้าฉันเท่านั้น ฉันจึงไม่ควรบอกความสัมพันธ์ที่มันมากไปกว่านั้นกับพี่ชายนาง
คอนโดมิเนียม S
หลังจากเดินทางมาถึงที่พัก พวกเราทั้งสามได้แยกกลับห้องของตัวเองทันที เห็นมะปรางแอบกระซิบฉัน ว่าวันนี้นางจะถ่ายคลิปลงแอคเคาท์บนแอปพิเคชันนกสีฟ้าของตัวเอง เพราะหายมานาน ส่วนคุณปราณรายนั้น คงทำงานเอกสารจากมหา'ลัยนิดหน่อย เพื่อรอฉันไปอาบน้ำให้ตามที่ฉันร้องขอ
แค่คิดฉันก็ยิ้มไม่หุบแล้ว...ทำแบบนี้บ่อย ๆ ใช่ว่าจะชิน ฉันยังรู้สึกประหม่าเสมอเมื่ออยู่กับเขาสองต่อสอง แต่เป็นความประหม่าที่อยากให้เกิดขึ้นบ่อย ๆ มันสร้างความเร้าใจให้แก่ฉันได้ดีเชียวล่ะ
รอบบ่ายวันนี้ ฉันงดอัดวิดีโอลงช่องทางอินเทอร์เน็ตของตัวเอง เลยจัดการอาบน้ำ พรมน้ำหอมตามร่างกาย พร้อมสวมใส่ชุดนอนลายลูกไม้สีแดงตัวบาง ๆ สบายตัว แต่ด้านในฉันไม่ใส่เพียงบราปลีกนก หรือกางเกงชั้นในเลยสักชิ้น เพราะจงใจทำไปยั่วยวนคุณปราณโดยเฉพาะ ก่อนจะเดินมาเพื่อกดออดเรียกเจ้าของห้องข้าง ๆ กัน
กริ่ง กริ่ง!
รอไม่นานประตูก็ถูกผลักเปิด ร่างหนาหลีกทางเพื่อให้ฉันเดินแทรกตัวเข้าไปภายในห้องของเขา ฉันสังเกตช่วงเวลานั้น จึงเห็นว่าเขายังไม่ได้อาบน้ำ หรือถอดชุดเสื้อผ้าตัวเดิมทิ้ง ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาดึกดื่น
พรึ่บ!
"ทำอะไร"
"คิดถึงไงคะ"
ฉันยิ้มร่าตอบเขาอย่างออดอ้อน เมื่อยกแขนกอดลำคอแกร่งเอาไว้ พลางเขย่งเท้าขึ้นสูงกว่านี้นิดหน่อย แล้วโน้มใบหน้าเขาลงมาจุมพิตเบา ๆ หลาย ๆ รอบ แต่คนตัวโตกว่าก็ดันไหล่เล็กออกห่าง ทำให้คลายแขนจากลำคอหนา ยืนมองเขานิ่งอย่างไม่เข้าใจ
"ทำไมคะ เบื่อกันแล้วเหรอ"
"วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์" เขาบอกเสียงนิ่งแล้วหมุนตัวเข้าไปในห้องทำงาน ซึ่งฉันสืบเท้าตามเข้าไปด้วยไม่ห่าง อาจารย์หนุ่มเลื่อนเก้าอี้ออกก่อนจะหย่อนสะโพกนั่งเก้าอี้ตัวทำงาน
ขณะใบหน้าเคร่งขรึมมองจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า ไม่ปรายตามาให้ความสนใจฉันที่เอาแต่ยืนมึนงง กลายเป็นเพียงธาตุอากาศไม่มีตัวตนสำหรับเขา
คนเราจะมีอารมณ์ หรือไม่มีมันบอกกันได้ด้วยเหรอ ปกติแล้วคุณปราณจุดติดง่ายจะตาย เอะอะแข็งตัว เอะอะจับตัวหน่อย ๆ ก็กระตุ้นต่อมความกระสันเขาได้แล้วนะ
"คุณปราณเป็นอะไรคะ"
"วันนี้ฉันมีงานยุ่ง"
"ระ...เราจะไม่ทำ..." ฉันเอ่ยเสียงอ้อมแอ้ม กลอกตามองรอบห้องเมื่อเอ่ยถึงประโยคหน้าไม่อาย แต่ไม่ทันพูดจบอีกฝ่ายกลับพูดแทรกขึ้นเสียก่อน
"วันนี้ไม่"
"แต่คุณปราณตกลงกับลินไว้แล้วนี่นา" ฉันเดินเข้าไปใกล้คนตัวโต หยุดยืนมองอีกฝ่ายผ่านแผ่นหลังกว้างแกร่ง ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปอีกแล้ว ทำเอาฉันตามไม่ทันกันเลยทีเดียว ไม่มีแม้สัญญาณเตือนอีกด้วย
"ไว้วันหลังเถอะ" ดวงตาคมตวัดมองมายังฉันเมื่อก้มตัวลงมา ซบแก้มข้างหนึ่งลงลาดไหล่ผึ่งผายของคุณปราณ จากทางด้านหลัง อย่างเอาอกเอาใจ
นี่ฉันพยายามใจเย็น นิ่งสงบไม่ไหวติงดั่งสายน้ำแล้วนะ ทั้ง ๆ ที่เห็นถึงความผิดปกติของเขา แถมยังเห็นรอยบนลำคอนั่นอีก ความสงสัยยังไม่หายไป ฉันไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ง่าย ๆ หรอก
"ลินทำเองก็ได้นะ" ฉันร้องขอไปอย่างนั้นแหละถึงแม้ตัวเองจะประสีประสา ไม่เก่งเรื่องบนเตียงมากหากเทียบกับคุณปราณ ขณะเอ่ยพูดเสียงหวาน
มือไม้ทั้งสองข้างก็เคลื่อนไหวอย่างซุกซน ลูบไล้แผงอกกำยำผ่านเสื้อเชิ้ต ฉันค่อย ๆ คลายเนกไทบนลำคอหนา แล้วถอดมันวางไว้บนโต๊ะทำงานตรงหน้า เพื่อไม่ให้เขารู้สึกอัดอึด
แต่อีกอย่างคือฉันต้องการพิสูจน์สิ่งที่ค้างคาใจตัวเอง เสี้ยวใบหน้าคมจึงเอี้ยวหันมา เขาละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องแพง หัวคิ้วเข้มขมวดมุ่นคล้ายกำลังขุ่นเคือง ต่อการกระทำของฉัน และเป็นเชิงบอกอีกว่า 'หยุดได้แล้ว ก่อนจะโดนดุ!' ซึ่งถึงทีฉันจะรั้นก็หัวดื้อไม่ฟังใครมากจริง ๆ จึงไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้น
"คุณปราณ ลินอยากลองอีกจังเลยค่ะ" ช้อนสายตาแป๋วออดอ้อนอีกครั้ง คราวนี้มือเล็กเลื่อนลงมากุมตรงเป้ากางเกงผ้ายืดของคุณปราณ ฉันลูบคลำมันเบา ๆ มันกลับพองตัวทักทายเสียอย่างนั้น
แล้วที่เขาบอกว่าวันนี้ไม่มีอารมณ์ล่ะ เหตุผลต่าง ๆ เริ่มทำให้ฉันเอะใจมากขึ้น แต่ยังเก็บงำความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ ก่อนจะเสียแผน
"ฉันยังไม่อาบน้ำ" อาจารย์หนุ่มบ่ายเบี่ยงปัดมือฉันออกห่างจากเป้ากางเกงนูนเป็นรูปทรงกระบอกขนาดใหญ่
"ลินไม่รังเกียจเลย" ฉันบอกอย่างดื้อรั้น และนั่นทำให้คุณปราณจนมุม เขาเงียบ พร้อมกระแทกลมหายใจหงุดหงิดออกมา ตอนนี้แก่นกายลูกชายเขาคงปวดหนึบไม่น้อยเลยทีเดียว พอไม่ยอมอนุญาต ฉันรีบรบเร้าหนักขึ้น
"ได้ไหมคะ นะคะคุณปราณ ลินขอนะ"
พรึ่บ!
ฉันไม่รั้งรอให้เป็นการเสียเวลา ระหว่างทีเผลอรีบดันเก้าอี้ตัวที่เขานั่งเคลื่อนห่างออกมาจากโต๊ะทำงาน แทรกตัวเข้ามาคุกเข่าลงตรงหว่างขาแกร่งของอีกฝ่าย
มือฉันเอื้อมมาจับหัวเข็มขัดหนังราคาแพง พร้อมช้อนมองอีกครั้งด้วยแววตาสั่นระริก ถึงจะไม่กล้า ตอนนี้ฉันก็ต้องข่มใจความหมั่นเอาไว้ ฮึดฮัดสู้ เพื่ออยากล่วงรู้ว่าเขาได้ไปทำอะไรเรี่ยราดกับคนอื่น นอกจากฉันหรือเปล่า?
"ลินขอนะ" ฉันเอ่ยขอเสียงยั่วยวน แล้วถอดหัวเข็มขัดระหว่างเอวสอบออก จากนั้นจึงรูดซิปกางเกงยีนตัวสีดำ เลิกมันมากองไว้หน้าท่อนขาแกร่ง โดยที่คุณปราณยกสะโพกขึ้น เพื่อที่ฉันจะได้ถอดกางเกงเขาคล่องขึ้น
"คุณปราณยังไม่อาบน้ำใช่ไหมคะ"
"อืม ยัง" น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าตอบกลับซึ่งบ่งบอกให้รู้ว่าเขากำลังเคลิบเคลิ้มมีอารมณ์ร่วมมากเพียงใด ฉันลอบยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะถอดกางเกงในของเขากองไว้บนหน้าตักตาม ๆ กัน
ความเป็นเขาดีดผงาดออกมาตรงหน้าฉัน ท่อนเอ็นแข็งขึง ปลายหยักกลับปริ่มน้ำเชื้อ และคราบแห้งที่แสดงถึงการปลดปล่อยติดเลอะตามทางยาวของมัน คล้ายกับไม่นานมานี้เขาเพิ่งเสร็จกิจกรรมอย่างว่า
"คุณปราณช่วยตัวเองเหรอคะ"
ส่งผลให้ฉันขมวดคิ้วมุ่น สงสัยอีกเรื่อง...แล้วเขามีอะไรกับใคร หรือสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองหรือไง แต่แน่นอนว่าฉันเอนเอียงไปทางกายนอกกาย ไปมีอะไรกับคนอื่น...กับใคร?
"ไม่ ฉันไม่ได้ช่วยตัวเองบ่อยขนาดนั้น ส่วนมากฉันจะหาที่ลงด้วยวิธีอื่น"
"วันนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรมันเลยเหรอคะ" ฉันพยายามถามหว่านล้อมหาความจริง โดยที่รู้อยู่เต็มอก ถ้าฉันเข้าใจอะไรมากขึ้นมันจะทำให้ตัวเองเจ็บ แต่ยังอยากจะล่วงรู้ให้ได้
"ทำไม พอเถอะ ฉันทำงานมาเหนื่อยคงไม่มีอารมณ์ร่วม" ฉันยกยิ้มฝืน ๆ ต่อการบ่ายเบี่ยงเลี่ยงพิรุธ
"แต่เจ้านี่เป็นคำตอบได้ดีเลยนะคะ ว่ามันต้องการให้ลินช่วย"
ท้ายที่สุดเจ้าแท่งแข็งชี้ตรงก็ถูกฉันกอบกุมเอาไว้จนเต็มมือ พลางชักรูดขึ้นลง ช้า ๆ เนิบนาบ ถึงแม้ความเป็นคุณปราณจะฉ่ำแฉะเมือกใสบางอย่างปะปนน้ำหล่อลื่นบริเวณหัวเห็นแดง
ซึ่งฉันรู้ดีว่ามันผิดปกติ...แค่ไม่มีสิทธิ์พูด จุกเจ็บอยู่ในอกคนเดียว เขาไม่น่าบอกฉันเลย ไม่น่าพูดให้ความหวังฉันด้วยซ้ำ ในเมื่อสุดท้ายร่างกายเขาก็ไม่ได้ซื่อสัตย์เหมือนคำพูดที่เอื้อนเอ่ย
"ลินอยากนั่งตักคุณปราณค่ะ" เพราะฉันไม่สามารถมองชิมความเป็นเขาที่มีของเหลวจากใครสักคนปะปนมาด้วยได้ลง
"ขึ้นมานั่งให้ไว ฉันจะได้ทำงานต่อ!" ฝ่ามือหนาตบลงตักตนเองปุบ ๆ ท่าทางเขาเคร่งเครียดอีกครั้งเมื่อเบนสายตากลับไปสนใจงานตรงหน้า
"ลินอ่อยขนาดนี้ ยั่วจนไม่รู้จะยั่วยังไงแล้วนะ ทำไมเมินกันได้" ฉันพยายามกลบเกลื่อนอาการเจ็บหน่วงในใจ ปีนขึ้นมานั่งคร่อมหน้าขาแข็งแรงของอีกฝ่าย พร้อมแขนสองข้างคล้องคอคุณปราณ
ใบหน้าฉันคลอเคลียตามสันกรามคม ลงต่ำเรื่อย ๆ จนได้กลิ่นน้ำหอมตามเสื้อผ้าเขา ซึ่งมีน้ำหอมแปลกปลอมจากใครบางคนติดมาด้วย ฉันนิ่งค้าง ชะงักการกระทำ อาจารย์หนุ่มที่เอาแต่ทำงานคงเห็นความไม่ปกติ
หมับ!
ฉันสัมผัสได้ถึงอ้อมแขนกำยำหนึ่งข้างตวัดโอบเอวฉันไว้หละหลวม...เจ็บเท่าไหร่ไม่เคยจำ ยังยืนยันจะรัก และความรู้สึกที่พร้อมถล้ำลึกก็ค่อย ๆ มีมากขึ้น ฉันมันไม่เข็ดหลาบจริง ๆ ในเมื่อรักครั้งแรก ฉันคาดหวังเอาไว้สูง
รู้ทั้งรู้ว่าเขานอกกายมีอะไรกับคนอื่น หลักฐานค่อย ๆ ปรากฏ จนเด่นชัด ฉันกลับดึงดันจะไปต่อกับความสัมพันธ์ฉาบฉวย โดยคุณปราณค่อนข้างเห็นแก่ตัว ขณะที่ฉันมีแค่เขา อีกฝ่ายกลับสุขสมโชคโชนรสสวาทกับใครต่อใครได้สบายใจเฉิบ ถ้าฉันคิดจะทำเช่นนั้นบ้างล่ะ?
"คุณปราณ ถะ...ถ้าวันหนึ่งลินมีคนอื่น คุณจะทำยังไงคะ"
"ทำไม เธอมีแฟนหรือกำลังคุยกับใครอยู่หรือ" น้ำเสียงทุ้มถามกลับอย่างไม่ยี่หระ จนฉันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเก่า
ยิ่งถามก็ไม่ต่างจากกำลังตอกย้ำตัวเองซ้ำแผลเดิมที่บาดเจ็บเลยสักนิด
"ไม่เชิงแบบนั้นค่ะ ลินแค่อยากรู้เผื่อวันข้างหน้าไงคะ" ความกดดันปกคลุมร่างกาย จนฉันเผลอกำคอเสื้ออีกคนแน่น และเกิดผ้ายับยู่ยี่
"ถ้าเธอมีแฟน หรือคนคุย ยังไงก็บอกฉันแล้วกัน ฉันจะได้ไม่กลายเป็นคนแอบลักแอบกินของคนอื่น ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใครซะด้วยสิ!"
"ไม่รั้งลินหน่อยเหรอคะ"
"มันไม่ใช่นิสัยฉันน่ะสิ"