ตอนที่ 12 คำขอ
ตอนที่ 12 คำขอของลิลิน
ระหว่างเดินทางมายังมหา'ลัย คุณปราณเลยจอดรถ แวะร้านขายยาแถวละแวกใกล้ทางไปเรียน เพื่อให้ฉันซื้อยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน น้ำเปล่าอีกหนึ่งขวด และฉันได้กินป้องกันตัวเองเอาไว้แล้วเรียบร้อย
แต่ช่วงที่เข้าไปซื้อยาในร้าน ฉันลืมหยิบยาประเภททาช่วงล่างแก้เรื่องการอักเสบมาด้วย...ดันเอ๋ออีกแล้วสิ ระหว่างทางพวกเราไม่ได้พูดคุยกันมากนัก
จนกระทั่งรถสปอร์ตขับมาถึงมหา'ลัย คนขับดับเครื่องยนต์หน้าตึกชมรมว่ายน้ำ แต่ตัวกลับไม่ลงไปจากรถ ฉันที่หันไปมองเขาพอดี ทำให้ไม่ยอมลงตามลงไปด้วยเช่นเดียวกัน
"คุณปราณไม่ลงไปด้วยเหรอคะ"
"ไม่ล่ะ ไว้ฉันจะแวะมาดูพวกเธอซ้อมทีหลัง ฉันมีสอนนักศึกษา"
"คุณปราณต้องมาให้ได้นะ ลินจะซ้อมรอ"
"ทำไมถึงอยากให้ฉันมา"
"คุณปราณคือกำลังใจสำคัญของลินไงคะ"
ฉันยิ้มร่า พร้อมตอบด้วยความสุขรอบที่ล้านของวัน โดยเฉพาะตอนอยู่ในลิฟต์ด้วยกัน เขายอมให้ฉันควงแขนด้วย (ถึงแม้จะเพียงชั่วคราวก็ตาม)
"ยังเจ็บตัวอยู่เลยนี่ จะลงว่ายน้ำได้เหรอ" สายตาคมถามพลางกดสายตามองต่ำลงมายังระหว่างหน้าตักของฉันที่มีมือสองข้างวางประสานไว้ด้านบนอย่างเอียงอาย คำถามจากเขาทำเอาตัวฉันร้อนรุ่มส่ายหน้าเบา ๆ
"มะ...ไม่เป็นไรมากค่ะ แค่นี้เองลินไหว"
"เกิดเป็นอะไรระหว่างว่ายน้ำ มันอันตราย มานี่ฉันจะเช็กดูก่อน" เสียงทุ้มสั่งอีกครั้ง คราวนี้ฉันกลอกตาเลิ่กลั่กไม่เข้าใจ
เขาหมายถึงอะไร จะทำอย่างไรกับฉันอีก ตั้งแต่มีอะไรกันวันเดียว ฉันกลับหวาดระแวงชะมัดเลย เพราะรู้สึกแปลก ๆ คล้ายกับว่ากำลังโดนคุณปราณหาช่องว่างแต๊ะอั๋งบ่อยขึ้น
"อ๊ะ...คุณปราณอย่า!" ฉันสะดุ้งตกใจ หลุดออกจากพะวงความคิดที่จมดิ่งอยู่กับตัวเอง อาจารย์หนุ่มดึงแขนฉันเข้าไปหา จนถลาเข้าไปชิดเขา เกือบจะขึ้นไปนั่งตักเขาซึ่งอยู่อีกฝั่งซะแล้ว ดีที่ฉันฉุดตัวเองเอาไว้ได้เสียก่อน
"เงียบ ไม่งั้นฉันจะดุเธอ! มานั่งนี่มา" เสียงเขาเข้มขึ้น แถมขู่กันอีก แน่นอนว่าฉันรู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่คนอายุมากกว่าเอ็ดใส่หน้า เผลอเม้มปากแน่นเพื่อขบคิดชั่งใจ
ฉันอยากนั่งตักคุณปราณอันนี้ยอมรับ แต่จะให้นั่งทำอะไรในรถเหรอ หรือยังไง ฉันไม่เข้าใจ แถมคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องลามกเท่านั้น
พรึ่บ!
ทว่าท้ายที่สุดฉันก็ขยับตัว ปีนขึ้นมานั่งทับตักแกร่ง โดยหันหน้า และป่ายขาเรียวยาวเบี่ยงออกไปทางด้านกระจกข้างของตัวรถยนต์ ซึ่งพื้นที่ในรถค่อนข้างคับแคบ ทำให้ร่างกายพวกเราแนบชิดกัน เขยื้อนตัวเปลี่ยนท่าได้ยาก
จนกระโปรงทรงเอ ตัวสั้นจิ๋วของฉันร่นขึ้นสูงเสมอแก้มก้นขาว นอกจากนั้น ฉันยังรับรู้ได้ถึงความผ่าวร้อนจากลมหายใจคนด้านหลังพ่นออกมาเป่ารดบริเวณลำคอระหง แถมปลายจมูกคุณปราณโน้มลงมาให้ฉันมาก ๆ
"ยังแดงอยู่" ฉันรีบหนีบขาเข้าหากัน เมื่อคุณปราณถกกระโปรงฉันขึ้นมากองเหนือเอวคอด แล้วเบี่ยงกางเกงชั้นในตัวเล็กด้วยปลายนิ้วแกร่งเพียงหนึ่งไว้ด้านข้าง ฉันไม่ดื้ออีก เพราะเขาส่งสายตาตำหนิส่งมา และจำเป็นต้องขยับขาห่างเพื่อให้เขาสำรวจมันได้ชัดขึ้น
จากนั้นใบหน้าคมก้มต่ำมองน้องสาวของฉันที่ยังคงบวมแดง ฉันยังรู้สึกขัดเคืองไม่หาย พร้อมพึมพำเสียงทุ้มต่ำออกมาผ่านปากหยักเบา ๆ
"คุณปราณอย่ามองค่ะ"
รู้สึกอายด้วยความไม่เคยชินที่ถูกจ้องมองอย่างละเอียดเกินไป แถมเขาตรวจดูมันนานเกินไป มือเล็กพยายามดันหน้าเขาห่าง หากแต่คุณปราณกลับใช้มืออีกข้างล้วงเข้ามาบุกรุกพื้นที่ลึกลับมากกว่าเก่า
"ทำไม" เขาถามเสียงขรึมเข้ม
"อ๊ะ อย่าเขี่ยมันด้วยค่ะ" ราวกับจะแกล้งเล่นความว้าวุ่นให้แก่ตัวฉัน ปลายนิ้วแกร่งเขี่ยกลีบดอกไม้สองข้างไปมา ด้วยจังหวะค่อนข้างหนักหน่วง ทำเอาอารมณ์ฉันกระพือสูงได้ไม่ยาก
"รู้สึกง่ายขนาดนั้นเชียว?"
มือหนาถอยออกห่าง รีบหนีขาอีกระลอก อีกฝ่ายดึงกระโปรงของฉันลงมาปกปิดหน้าขาอ่อนเรียวขาวเอาไว้ จนเรียบร้อย
คุณปราณมองมาที่ฉันพอดีที่ฉันประสานสายตากับเขา ใจฉันสั่นไหวครั้งแล้วครั้งเล่า คุณปราณถนัดสุดพวกเรื่องที่แกล้งฉัน สามารถทำให้อายจนตัวบิดเนี่ย!
"กระโปรงเธอสั้นเกินไปนะ"
"คนอื่นเขาก็ใส่กันแบบนี้นี่คะ" เถียงอาจารย์หนุ่มอย่างไม่ยอม และเห็นต่าง เพราะฉันเห็นจริง ๆ ตามที่พูดไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ หรือเพื่อนรุ่นเดียวกัน ใส่สั้นกว่าฉันยังมีให้เห็นเลย ทำไมคุณปราณต้องหาเรื่องมาดุว่าราวกับเป็นผู้ปกครองฉันด้วย...
"ฉันมองแล้วไม่สบายตา"
"คุณปราณก็อย่ามองสิคะ"
"ถ้าคราวหลังยังเห็นเธอเอาผ้าขี้ริ้วใส่มาเรียน เราจะได้เห็นดีกัน" น้ำเสียงทุ้มเข้มจากอาจารย์หนุ่มสื่อไปทางที่เปี่ยมด้วยแววความจริงจัง ขึงขังมากเป็นเท่าตัว
จนฉันรู้สึกเสียวสันหลัง ขนอ่อนลุกซู่ซ่า เกิดคำถามเข้ามาในหัว 'เขามีปัญหาเพราะกระโปรงตัวนี้เนี่ยนะ!' แถมหาว่ากระโปรงทรงเอยี่ห้อดังบนตัวฉันเป็นผ้าขี้ริ้ว
"ทำไมล่ะคะ ถ้าไม่บอกเหตุผลที่น่าฟังลินก็ไม่ยอมเปลี่ยนเพื่อใครหรอกนะ ถึงคุณปราณจะเป็นคนที่ลินชอบก็ตาม"
"กระโปรงสั้น ๆ เสื้อรัด ๆ แบบนี้เก็บไว้ใส่ให้ฉันดูที่ห้องเถอะ"
"หะ...หึงลินเหรอคะ" ยิ้มดีใจออกมา เพราะการกระทำ ข้อห้ามจากคนตัวโตอดไม่ได้ที่ฉันจะหลงตัวเอง แต่เขากลับแค่นเสียงหัวเราะออกมา
"หึ...ฉันกลัวว่าคนอื่นเห็นแล้วคงลำบากใจที่จะมองต่างหาก"
"ชิ คุณปราณรีบไปสอนหนังสือเลยค่ะ ลินจะไปคัดเลือกนักกีฬาว่ายน้ำแล้ว" ฉันรีบไล่เขาด้วยความงอน โดยไม่ได้หวังจะให้คนเย็นชาอย่างเขามาง้อหรอกนะ มันเป็นไปได้ยาก และแทบไม่มีทางเป็นไปได้ คุณปราณไม่ง้อฉันหรอก
"อืม ลงไปซะสิ" พูดตัดพ้อไม่ทันขาดคำ อาจารย์หนุ่มก็พยักพเยิดหน้าเป็นเชิงสั่งให้ฉันก้าวขาลงไปจากรถเขาเสียที
"รู้แล้วค่ะ" มองต้อนเจ้าของตัวแกร่ง ก่อนจะเอื้อมไปคว้าเอากระเป๋าสะพายไหล่ ซึ่งข้างในนั้นบรรจุทั้งเสื้อผ้า และชุดสำหรับสวมใส่ตอนว่ายน้ำแบบส่วนตัวเตรียมมาเองด้วย
พรึ่บ!
ฉันเปิดประตูรถยนต์ แล้ววาดท่อนขาก้าวจากประตูฝั่งคนขับออกมา ก่อนจะหมุนตัวมองคุณปราณตาละห้อย ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางหวานคลี่ยิ้มบางเบา
ฉันกลับรู้สึกว่า เวลาอยู่สองต่อสองช่างน้อยนิดนัก แต่เพราะต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ของตัวเอง ฉันจึงจำใจเดินแยกหายเข้าไปในตึกใหญ่ของทางชมรมว่ายน้ำ พอหันกลับไปมองด้านหลังซึ่งเดินจากมา คุณปราณก็ขับรถตรงไปที่ตึกคณะบริหารแล้วด้วย
ช่วงเย็นโพล้เพล้ของวันเดียวกัน
ข่าวดีของวันนี้คือฉันได้เป็นตำแหน่งสำรองนักกีฬาว่ายน้ำตัวแทนของมหา'ลัย และถูกเลือกเข้าชมรม ไม่ผิดกับที่คาดหวังนักหรอก เพราะสภาพร่างกายของฉันมันไม่สมบูรณ์แข็งแรงเท่าที่ควร
ได้รับตำแหน่งซึ่งเป็นถึงตัวสำรอง ฉันก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองแล้วล่ะ แต่เรื่องที่กำลังผิดหวัง เนื่องจากคาดหวังเอาไว้สูง คงเป็นการรอคุณปราณมาดูฉันซ้อมตามที่เขาได้รับปากไว้ต่างหาก อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงชมรมก็จะปิดอีกด้วย
คุณปราณน่าจะสอนนักศึกษาเสร็จตั้งแต่ช่วงบ่ายไม่ใช่เหรอ จะขยันไปไหนนะ นี่มันถึงเวลาเลิกงานแล้ว คนรออย่างฉันเมื่อรู้สึกว่าไม่ได้สำคัญขนาดนั้นก็ค่อย ๆ ส่ายหัวไล่อารมณ์งี่เง่าทิ้งไป ฉันไม่มีสิทธิ์น้อยใจ ถึงแม้เขาจะไม่มาตามที่พูด
ฉันนั่งตีขาไปมาข้างขอบสระว่ายน้ำ เพื่อระบายความรู้สึกขุ่นมัว ปั้นหน้าบูดบึ้งอย่างไม่สามารถกักเก็บอารมณ์เหล่านี้เอาไว้ในใจได้ คนมันน้อยใจไปแล้วนี่
คนอื่นเขาทยอยกันเข้าไปเปลี่ยนชุดกลับบ้านกันเกือบจะทั้งหมดแล้ว แต่ฉันไม่สนยังคงนั่งทำหน้าหงอย ในสภาพชุดว่ายน้ำกางเกงตัวสั้น ๆ ชุดด้านหลัง คอเสื้อเว้าลึก และเปียกปอนทั้งตัว
"ทำไมไม่เปลี่ยนชุด เดี๋ยวก็ไม่สบาย" เสียงใครบางคนถามดังขึ้นมาจากทางด้านหลังฉัน ทำให้คนจดจำน้ำเสียงเขาได้ดีอย่างฉันหูผึ่ง รีบหันขวับกลับไปมองด้วยรอยยิ้มแก้มปริ คนมาใหม่สืบเท้าตรงมาหา พร้อมยอบกายนั่งย่อตัวเทียบเท่ากับฉัน
"ลินคิดว่าคุณปราณจะไม่มาแล้วซะอีก ทำไมมาช้าละคะ" เพราะตอนนี้ไม่มีนักศึกษาอยู่ในบริเวณตามพื้นสระว่ายน้ำมากนัก บางคนไม่ได้เบี่ยงความสนใจมาที่พวกเรา ฉันเลยคิดว่าเรียกชื่อคนตัวโตได้ตามความถนัดก็ไม่ผิดอะไร
"เคลียร์งานนิดหน่อยจริงเหรอคะ"
"ทำไมถามเซ้าซี้" น้ำเสียงเข้มขรึมมากเป็นเท่าตัว จนฉันไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาถึงลำบากที่จะตอบคำถามของฉันขนาดนี้ด้วย ก่อนมือหนาจะยกขึ้นมาคลายเนกไทบนลำคอตัวเองไว้หลวม ๆ สีหน้าคุณปราณนิ่งมากจนฉันใจหาย
"ลินบอกคุณปราณแล้วนะ ว่าลินรู้สึกไม่ดีเลยที่คุณห่างเหินกับลิน"
"ฉันไม่ได้ต้องการให้เธอรู้สึกดีเสียหน่อย เลิกงี่เง่ากับสถานะที่ไม่มีสิทธิ์กับฉันได้แล้ว" ขณะเขาเอียงคอไปอีกข้าง ฉันจึงสังเกตได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง รีบยื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ เพื่อความมั่นใจ ฉันจำกลิ่นน้ำหอมคุณปราณได้ดีมาก
ตะ...แต่ตอนนี้มันมีกลิ่นน้ำหอมไม่คุ้นเคยติดมาด้วย ถ้าฉันมองในแง่ดีคงคิดว่าเขาเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอม แต่มันไม่ใช่ไง ในเมื่อตอนเช้าเขายังใช้กลิ่นดังเดิมอยู่เลยนะ มีบางอย่างปกปิดฉันแน่ ๆ
"คุณปราณ ทำไมคอมีรอยเหมือนถูกเล็บจิกละคะ" ฉันเห็นเป็นรอยเล็บยาว ๆ จิกลง เมื่อทักท้วงอีกฝ่ายชะงักอย่างเห็นได้ชัด คล้ายเพิ่งนึกขึ้นได้ เขาจึงรีบผูกเนกไทให้แน่นตามเดิม แปลกมาก ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติ
"รอยเล็บของเธอเมื่อคืนนี้ไง"
"ใช่เหรอคะ ลินไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับคอคุณปราณเลยนะ ถ้าว่าเป็นตามแผ่นหลังก็ว่าไปอย่าง"
ถึงแม้เมื่อคืนศึกรักของพวกเราจะทำให้ฉันสติพร่าเลือน แต่ก็ไม่ปักใจเชื่อว่าฉันจะกรีดเล็บลงตามที่ไม่ลับของเขา
"เลิกทำตัวเป็นเมียตามจับผิดผัวได้แล้ว รีบไปเปลี่ยนชุดซะ เดี๋ยวน้องสาวฉันจะตามมาที่นี่ คงต้องกลับพร้อมกัน"
"ก็ได้ค่ะ แต่มีข้อแม้นะ" พยักหน้ารับ
แต่ไม่วายมีข้อแม้ ฉันไม่ได้โง่จนตามเล่ห์เหลี่ยมผู้ชายไม่ทันเสียหน่อย โดยเฉพาะคุณปราณผู้ชายที่เปรียบเสมือนเสือ ภายนอกเขาเรียบนิ่ง แต่กลับซ่อนความร้ายกาจ และประสบการณ์โชกโชนมากมายเอาไว้ข้างใน ไม่ต่างจากเป็นคนมีสองบุคลิก
"อะไรของเธออีก"
อีกฝ่ายพ่นลมหายใจฮึดฮัดใส่ ฉันไม่สนหรอก คุณปราณบอกฉันเองนะ ว่าไม่ใช่คนมีอะไรกับใครพร่ำเพรื่อ เขาก็ไม่ควรกลับคำ หรือมีท่าทางที่ทำให้ฉันสงสัยแบบนี้สิ
"กลับไปถึงคอนโดแล้ว คุณปราณอย่าเพิ่งอาบน้ำได้ไหม"
"ทำไม"
"วันนี้ลินจะไปหา เดี๋ยวอาบน้ำให้ค่ะ" อย่างน้อยถ้าเป็นอย่างที่ฉันคิดเอาไว้ ความผิดปกติบนร่างกายของเขาที่ไม่ใช่ฝีมือฉันทำเอาไว้ ฉันก็ต้องรู้ต้องเห็น ไม่มีทางเล็ดลอดสายตาไปได้แน่นอน
คืนนี้ฉันต้องได้ข้อมูลอะไรบ้างล่ะ แต่รู้แล้วยังไง...ฉันควรจะรู้สึกอย่างไร เรียกร้องอะไรจากคุณปราณไม่ได้สักอย่างเลยด้วยซ้ำ
"งานถนัดของเธอคือการเอาใจผู้ชายหรือไง"
"พิเศษเฉพาะคุณปราณเลยนะ" ฉันไม่ใส่ใจต่อถ้อยคำเยาะหยันจากอีกฝ่าย เพราะค่ำคืนนี้ฉันมีภาระที่ต้องล้วงรู้ความสงสัยนี้ให้ได้
"อืม"
"โอเคนะคะถือว่าคุณปราณอนุญาตแล้ว"