บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 11 มากไป

ตอนที่ 11 อย่าให้มันมากไป

เวลาผ่านไปถึงช่วงใกล้จะเที่ยงวัน

หลังจากคุณปราณทำความสะอาดร่างกายให้ฉันพอไม่ให้รู้สึกไม่สบายตัวเสร็จสรรพ แถมเคร่งครัดบอกกำชับตลอดเวลาว่าควรกินยาป้องกันด้วย ถึงแม้ฉันจะเข้าใจดีว่ามีหลายเหตุผลทำให้ต้องคุมกำเนิด เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน และถ้าพลาดขึ้นมา

คุณปราณไม่ได้รู้สึกรักฉันเหมือนที่ฉันรักเขา คงอึดอัดแย่ การป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ มันดีสำหรับสองฝ่ายแล้ว หากแต่อีกซีกหนึ่งของหัวใจกลับรู้สึกเจ็บแปลบอย่างบอกไม่ถูก

ฉันรีบสะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านทิ้ง ตอนนี้ฉันควรจะต้องรีบกลับห้องพักของตัวเองไป แอบอาบน้ำแต่งตัว เพื่อไปคัดเลือกนักกีฬาว่ายน้ำในช่วงบ่ายถึงแม้คุณปราณจะไม่เห็นด้วยที่ฉันจะไปว่ายน้ำ ทั้งที่กำลังมีอาการป่วยไข้ ต่อให้ฉันจะป่วยก็ต้องไปให้ได้อยู่ดี และฉันมั่นใจกับศักยภาพร่างกายดีว่ายังพอไหว

อีกฝ่ายกำลังอาบน้ำอยู่ข้างในห้องน้ำของตนเองเช่นกัน ฉันจึงใช้เวลานั้นพยุงตัวลุกขึ้นยืน ค่อย ๆ ก้าวขาที่อ่อนแรงไปหยิบเสื้อผ้าที่ถูกโยนไปคนละทิศคนละทางจากบทรักเร่าร้อนเมื่อคืน

พลันหางตาเหลือบไปเห็นคราบเลือด และคราบขาวจากบางอย่างติดเลอะผ้าปูที่นอนบนเตียงใหญ่ ฉันรีบเบือนหน้าไปอีกทาง เพราะเผลอมีความคิดลามกเข้ามาแทรกในหัว

ขนาดแท่งดิลโดที่ฉันเคยใช้ดูกระจิริดไปเลยเมื่อเปรียบเทียบกับลูกชายคุณปราณ จนช่องทางฉีกขยายได้เลือด แถมจังหวะรักก็ดุดัน ทำเอาจุกหน่วงในท้องน้อยไม่หาย บทรักครั้งนี้ไม่มีทางลืมลงเลยล่ะสำหรับฉันอ่ะนะ

ฟุบ!

"อ๊ะ...โอ๊ย" ฉันเดินตัวเปลือยมาหาเป้าหมายจุดแรก ระหว่างกำลังยอบตัวลง เพื่อจะยื่นมือมาหยิบเอากางเกงในตัวจิ๋วสีเนื้อซึ่งวางแหมะบนพื้นห้อง

ท่อนขาทั้งสองข้างของฉันกลับเกิดอาการอ่อนแรงขึ้นมาฉับพลัน จนเสียหลักล้มคมำลงไปกับพื้นอย่างรุนแรง ฉันเบ้หน้า ร้องเจ็บออกมาทันที

พรึ่บ!

ฉันกุมท้องตัวเองเอาไว้แน่น เจ็บระบมจนน้ำตาเล็ดหางตา เลยไม่ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำที่ถูกผลักออกมาด้วยความรวดเร็วตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้ ก่อนอีกคนจะปรี่ตรงมายังฉันที่ทรุดนั่งอยู่บนพื้นกระเบื้องลายหินอ่อน

ฉันจึงรีบเงยหน้า ใช้ดวงตาพร่าม่านน้ำตามองด้วยเลือนราง คุณปราณโน้มแผงอกเปลือยเปล่าลงมาช้อนอุ้มร่างเล็กกว่าด้วยท่าเจ้าสาวทันที โดยที่ท่อนล่างมีผ้าขนหนูพันรอบเอวสอบ

"ฮึก!" ทำเอาฉันแทบเก็บกลั้นความอ่อนแอเอาไว้ไม่ไหวอีก สะอื้นตัวโยน ปากเบะคว่ำ เสียอย่างนั้น

ปกติฉันไม่ได้อ่อนแอหรอกนะ แต่เพราะอยู่กับคุณปราณ ชายหนุ่มที่ฉันรู้สึกรักด้วย นิด ๆ หน่อย ๆ เลยต้องการความใส่ใจ เรียกร้องบางอย่างจากอีกฝ่าย...

"ลุกขึ้นเดินเองทำไม!" คุณปราณเสียงเข้มขึ้นเมื่อถามฉัน ขณะหลุบสายตามองอย่างเอือมระอา ก่อนจะวางตัวฉันลงที่ปลายเตียงนอนอย่างเบามือ พลอยทำให้ฉันรู้สึกผิดเสียเองที่อ่อนแอ แถมเป็นภาระเรียกร้องอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ จากคุณปราณทั้งที่ไม่มีแม้สถานะต่อกัน

"ลินจะกลับห้องลินค่ะ จะไปแต่งตัวไปมหา'ลัย เลยจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่" ฉันยกแขนปาดน้ำตาบนแก้มออก มันดูน่าสมเพช และงอแงเกินเหตุ คุณปราณยิ่งไม่ชอบเด็กอยู่ด้วย ฉันลืมนึกถึงข้อนี้ไปเลย

"นั่งอยู่นี่แหละ ฉันจะไปหยิบมาให้"

"มะ...ไม่ต้องดีกว่า คะ...คือ..." ฉันกลอกตาไปมา คัดกรองหาคำพูดและเหตุผลดี ๆ มาพูด แต่กลับอึกอักเสียก่อนด้วยความกดดันผ่านดวงตาคมกริบจากอีกฝ่าย

ฉันจะบอกตามตรงได้ยังไงว่าอายที่คุณปราณจะไปหยิบชุดเดรส กับชั้นใน ของใช้ส่วนตัวบนพื้นมาให้ฉันเองล่ะ ขายหน้าชะมัดเลย ขาก็อ่อนแรงกะทันหันเป็นงานไม่ถูกเวลาเลยจริง ๆ แต่ไม่ทันไร ฉันห้ามปรามเอาไว้ไม่ทัน

เขาหมุนตัวเดินกลับไปก้มหยิบเสื้อผ้าบนพื้นมายื่นให้ฉัน บราเซีย และกางเกงชั้นในก็ติดมาด้วย ทว่าอาจารย์หนุ่มกลับไม่แสดงท่าทางเคอะเขินเลยสักนิด

พรึ่บ!

เขาคงมากประสบการณ์เห็นอะไรแบบนี้จนชินชาแล้วล่ะมั้ง กลับเป็นอีกครั้งที่ฉันเหนียมอายตัวบิดไปมา รีบคว้าแย่งชุดจากมือหนาโดยเร็ว จนกระทั่งเพิ่งนึกคิดได้อีกอย่างว่า ตอนนี้ฉันตกอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย แถมพอเริ่มจะรู้ตัวก็รู้สึกได้ว่ากำลังมีดวงตาประกายแวววาวจับจ้องตรงมายังเรือนร่างตัวเอง

"คุณปราณอย่ามองสิคะ!" ฉันรู้สึกเกร็ง ไม่เป็นตัวเอง

"เธอไม่ได้แก้ผ้าต่อหน้าฉันเป็นคนแรกสักหน่อยยังไม่ชินอีกเหรอ"

"คุณปราณ ละ...ลินยังไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนจริง ๆ นะคะ คุณเป็นผู้ชายคนแรก"

นี่อย่าบอกนะเขายังไม่ล้มเลิกความคิดเข้าใจผิดที่หาว่าฉันไม่ได้บริสุทธิ์ตามคำแอบอ้าง

เฮอะ แล้วถ้าไม่ซิงมันทำไมเหรอ เขาถึงขั้นดูถูก เหยียดหยามกันเชียวหรือไง หรือว่าจะมองฉันอย่างด้อยค่ากัน แต่เมื่อจ้องตาชายหนุ่มตรงหน้า

ฉันกลับไม่ได้รับคำตอบที่สงสัยกลับมา แววตาคุณปราณลึกลับ และไม่ไหวติงแสดงความรู้สึกนึกคิดยามนั้น ฉันไม่มีทางรู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

"ช่างมันเถอะ หายามาทาหรือกินแก้อาการอักเสบไว้ก็ดี" เขาตักเตือนก่อนจะกดสายตามองน้องสาวของฉัน นิ่ง ๆ

"คุณปราณไซต์ขนาดเท่าไหร่เหรอคะ"

ส่งเสียงแหบพร่าถาม พลางไขว้ขาชิดกัน เพื่อปิดซ่อนของสงวน ซึ่งเขาจงใจมองมันอย่างคุกคาม และขนาดของเขาที่ใหญ่เกินต้าน

จนถึงขั้นส่งผลทำให้ช่องทางรักของฉันฉีกขาด สภาพยับเยินน่าอนาถใจไม่น้อย ฉันเลยเกิดความสงสัยเต็มไปหมด

ขนาดของเขามันใหญ่มาก จนฉันไม่มั่นใจมากพอที่จะฟันธงเอาเอง ว่ามันไซต์เท่าไหร่กันแน่!

"คงมีขนาดที่ใหญ่กว่าผู้ชายที่เธอเคยผ่านมา..."

"ลินเหนื่อยที่จะอธิบายแล้วล่ะค่ะ คุณปราณไม่เชื่อลินเลย"

อาจารย์หนุ่มที่มีอายุมากกว่าเขาเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นหลักมาแต่ไหนแต่ไร ต่อให้ฉันจะพยายามบอกว่าไม่เคยมีอะไรลึกซึ้งกับผู้ชายคนไหนเลยเขาก็ไม่มีทางโอนเอียงตาม เขาปักใจเชื่อไปแล้วว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์

"ฉันพูดอะไรผิด? ฉันไม่ได้จะดูแคลนเธอเรื่องไม่ซิงหรอก แต่ฉันแค่เปรียบเทียบขนาดของตัวเอง" กลีบปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างช่างใจคิด ฉันโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อยต่อคำตอบจากปากเขา 

"เปล่าหรอกค่ะ ลินผิดเอง ลินไปแล้วนะคะ ต้องรีบแต่งตัวไปมหา'ลัย" ฉันยันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พลางสวมใส่บราเซีย กับแพนตี้ตัวน้อย และสวมชุดเดรสตัวเดิมจนเสร็จสรรพก็หันไปบอกลาคุณปราณด้วยรอยยิ้มหวานผุดพรายบนใบหน้าส่งให้

จะเรียกว่าฉันกำลังอ่อยทางอ้อมก็ได้นะ จริง ๆ ฉันอ่อยเขาทุกครั้งที่มีโอกาสได้ฉกฉวยนั่นแหละ ตราบใดที่คุณปราณไม่ออกปากไล่ฉันไปจากชีวิตของเขา...

"จะขับรถไปเอง?" ฝีเท้าที่กำลังก้าวออกจากห้องคุณปราณชะงัก เมื่อเสียงทุ้มเค้นถาม ฉันเอี้ยวหน้ามองอาจารย์หนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาอย่างร้ายกาจ

แล้วพยักหน้าตอบรับกลับ ท่าทางฉันทะเล้น และหยอดนิด ๆ หน่อย ๆ ตามประสา โดยไม่ได้คาดหวังต่อประโยคคำพูดตัวเองหรอกนะ

"ถามทำไมคะ คุณปราณจะให้ลินไปเป็นตุ๊กตาหน้ารถคุณเหรอ"

"อยากเป็นไหมล่ะสักวัน" ดวงตาฉันลุกวาว ปากอ้าค้าง หลังจากเมื่อครู่ยังนอยด์ที่อีกฝ่ายทำรุนแรงต่อฉันอย่างกับคนหื่นกระหาย

อารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจจึงค่อย ๆ มลายหายไป เพราะฉันรู้สึกใจสั่น ตื่นเต้นที่จะได้เป็นตุ๊กตาหน้ารถคุณปราณอีกครั้งสมใจ

"ตกลงค่ะ" ฉันไม่รั้งรอเวลาฉกฉวยทำแต้มคะแนน ตอบตกลงไปเรียบร้อย ยิ้มแก้มแทบแตกแหนะ แค่เขาให้ติดรถไปมหา'ลัยด้วย ฉันก็คิดจะหาร้านตัดชุดแต่งงานรอแล้วนะ อีกไม่นานหรอกถ้าคุณปราณไม่สร้างกำแพงน้ำแข็งมากั้นเอาไว้อีก

"งั้นก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวซะ"

"ไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ" ฉันลืมความเจ็บปวดตามตัวไปชั่วขณะ กระโดดโหยง ๆ เปี่ยมด้วยความสุขเล็ก ๆ น้อยที่เกิดขึ้นในหัวใจฉัน ก่อนจะต้องรับปากเขา และสงบสติ เพราะเริ่มรู้ตัวว่าร่างกายยังไม่พร้อมที่จะใช้งานหนักหน่วงจนเกินไป

ฟอด!

ฉันเขย่งปลายเท้าเพื่อให้ตัวเองสูงเทียบเท่าคุณปราณ เนื่องจากอีกคนมีส่วนสูงที่มากกว่าฉันมาก แล้วยื่นปากเข้าไปใกล้ จังหวะที่อาจารย์หนุ่มสีหน้าขรึมจะเสหลบ ฉันก็จุ๊บลงบนแก้มสากของเขาหนึ่งฟอด

"ลิลิน!" คนตัวโตตะเบ็งเสียงใส่คล้ายจะรู้สึกไม่ชอบใจที่ไปทำการรุ่มร่ามกับเขามากเกินไป จนฉันสะดุ้งตกใจ ก้มหน้างุดหลบสายตาคมกริบดุดัน แถมไม่เป็นมิตรต่อฉันเอาเสียเลย

ก่นด่าตัวเองย้ำ ๆ ทำปากขมุบขมิบแผ่วเบาให้แก่ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ซึ่งเกิดจากความตั้งใจจะหอมแก้มชายหนุ่มตรงหน้าของฉันเอง...

ในเมื่อจูบก็เคย มีอะไรกันบนเตียงยังทำมาแล้ว นับประสาอะไรกับหอมแก้มล่ะ ว่าแล้วฉันก็รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ แฮะ

"คุณปราณไม่ชอบให้ลินหอมแก้มเหรอคะ"

"ฉันจะต้องพูดคำว่าช่างมันเถอะกับเธออีกกี่ครั้งถึงจะเข้าใจสักที" ฉันยิ่งมึนงงโคลงหัวใคร่สงสัยไปมา เขาหมายถึงอะไรกันแน่

แต่เพราะสายตาฉันมันซุกซนเป็นทุนเดิม ชอบสำรวจมองแผงอกกำยำเป็นลอนเรียงสวย และแขนแข็งแรงเป็นมัดกล้ามบึกบึน ไล่มองลงต่ำ ทำให้ฉันหยุดชะงักโฟกัสบางอย่างที่บริเวณท่อนล่างของอีกฝ่าย

"ปลุกตื่นง่ายจัง คุณปราณอย่าเป็นแบบนี้กับใครนะ เป็นกับลินคนเดียวก็พอ" สิ่งแข็งแกร่งเท่าแขนจากหน้าขาของคุณปราณ เกิดการตั้งตรงพยายามดันผ่านผ้าขนหนูออกมาสู่ภายนอก ฉันเบิกตากว้างต่อสิ่งที่ได้เห็นตอนนี้ เขามีอารมณ์ได้ง่ายจนฉันต้องกำชับเสียงจริงจัง ถ้าเขาแสดงความหื่นกับฉัน มันย่อมไม่มีปัญหา

แต่หากไปทำแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่น ฉันเสียใจแย่แน่ ๆ ทว่าถึงจะออกปากห้ามไป มันเป็นสิทธิ์ของคุณปราณ เขาไม่จำเป็นต้องทำตามที่ฉันต้องการก็ได้ในเมื่อพวกเราเป็นแค่คู่ขาบนเตียงนี่ เป็นแค่พี่น้อง (ไม่แท้) ท้องชนกัน

"เด็กลามก" คุณปราณเอื้อมมือมาลูบกลุ่มผมฉัน สัมผัสช่วยทำให้ฉันอ่อนไหวในใจมากเป็นเท่าตัว จึงเอียงหัวตอวรับโดยง่าย

ฉันกรีดร้องในใจหลายครั้งหลายคราว 'โอ๊ย...ฉันไม่ไหวแล้วนะ ใจเจ้ากรรมเต้นแรง ตัวร้อน แก้มแดงไม่เกินจริงเลย คุณปราณเวอร์ชันหื่นมันดีต่อใจมาก แต่ไม่ดีต่อช่วงล่างเท่านั้นแหละ'

"คุณปราณก็หื่น!"

หลังจากนั้นฉันจึงกลับมาที่ห้องตัวเอง จัดการแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา เลยรู้อีกอย่างว่าตัวฉันแดงเป็นปื้นขนาดไหน คุณปราณนะคุณปราณ หิวกระหายไม่ปรานีฉันเลย

ฉันจะต้องไปมหา'ลัยในช่วงบ่าย แต่ไม่ได้มีชั่วโมงเรียนใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนมากคณะบริหารธุรกิจจะมีเรียนหนักแค่ช่วงเช้ามากกว่า

ซึ่งถ้าหากไม่มีการนัดหมายจากรุ่นพี่ชมรมว่ายน้ำ กำชับให้เด็กปีหนึ่งอย่างฉันไปทดสอบความสามารถ ก่อนคัดเข้าชมรม

ฉันคงไม่หอบสังขารอันขี้เกียจ แถมเมื่อยล้าไปหรอก ระหวางแต่งตัวหน้ากระจก หางตาก็เหลือบไปเห็นขาตั้งกล้อง และมุมโปรดที่เตรียมไว้ถ่ายวิดีโอ ฉันลืมงานอดิเรกอีกอย่างที่ตัวเองชอบไปได้ยังไงเนี่ย

คราวนี้หายไปนาน จนแฟนคลับบนแอปพิเคชันนกสีฟ้าทวงคลิปใหม่แล้วล่ะมั้ง แต่ช่วงนี้ฉันไม่ว่างนี่นา จึงเอาไว้ทีหลังก่อนแล้วกัน ฉันควรโฟกัสเรื่องเรียนก่อนเป็นหลักตามที่เคยสัญญาไว้กับคุณแม่

แอด~

เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จฉันเดินออกมาจากห้อง ตรงมาห้องข้าง ๆ มือที่กำลังกดออดเรียกคนด้านในกลับชะงัก คุณปราณเปิดประตูออกมาพอดี...

เขาอยู่ในชุดสูทสีเข้มโทนทึบเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดปลายรองเท้าหนังแบรนด์ดัง ผมหยักศกถูกเซ็ตเปิดหน้าผากคม

เมื่ออาจารย์หนุ่มแต่งตัวด้วยแบบนี้ เขาดูมีความเป็นผู้ใหญ่น่าเกรงขามเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว ไม่ว่าจะแบบไหนก็ทำฉันหลงรักได้ไม่ยาก

"หล่อจังเลยค่ะ"

"หึ ไม่งั้นเธอจะมาเสนอตัวให้ฉันถึงห้องหรือ" คำพูดจากปากหยักช่างเราะร้ายทำใจฉันเจ็บแปลบ และหลงตัวเอง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นความจริงเลยทีเดียว

"เราไปกันเถอะค่ะ"

ขณะคุณปราณกำลังเดินตรงไปยังลิฟต์ ฉันรีบก้าวขายาว ๆ ตามมา ก่อนจะถือวิสาสะควงแขนเขา คุณปราณหยุดเดิน ท่อนขาชะงัก เมื่อหันหน้านิ่ง ๆ มามองที่ฉัน ราวกับไม่พอใจอะไรบางอย่าง ฉันรีบปล่อยมือห่างทันที

"อย่าไปทำแบบนี้ให้ใครเห็นก็พอ แต่ตอนนี้ไม่มีจะควงแขนฉันก็ควงดี ๆ อย่ามาทำตาละห้อยมันน่ารำคาญ" ฉันตาลุกวาวเปล่งประกายความสมหวัง กลับมาควงแขนคุณปราณอีกครั้งทันที

ถึงเขาจะชอบพูดจาร้าย ๆ ปากหนักไปบ้าง แต่การกระทำกลับสวนทางกัน อย่างที่ว่านั่นแหละ ไม่ใช่ว่าที่แฟนควงแขนไม่ได้นะ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel