บทที่ 3
ฮึก~
ร่างบอบบางเดินสะอื้นไห้จนตัวโยนอยู่ข้างถนนพร้อมกับกระเป๋าสะพายคู่ใจหนึ่งใบ เป้าหมายของเธอคือบ้านของเพื่อนรักที่อยู่ถัดออกไปอีกราวสี่ร้อยไร่
เนื่องจากเส้นทางระหว่างบ้านไร่กมลาศและไร่ส้มรังสรรสวัสดิ์มีทั้งไร่ผลไม้ แปลงผัก และที่ดินรกร้างคั่นระหว่างกลาง แถมถนนทั้งสายยังเป็นถนนดินลูกรัง ส่งผลให้สภาพของกมลชนกในเวลานี้ดูไม่จืดนัก
เธอตัดสินใจเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้ผู้เป็นพ่อและหนีออกจากบ้านมาโดยไม่บอกไม่กล่าว เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับภรรยาใหม่ของพ่อ แม้จะได้รู้เหตุผลของการแต่งงานในครั้งนี้แล้ว แต่กมลชนกก็ยังรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ดี
เด็กสาวคิดแต่เพียงว่าทันทีที่เธอติดต่อผู้เป็นแม่ได้ เธอจะไปอยู่กับท่าน ต่อให้ชีวิตต่อจากนี้จะต้องลำบากสักแค่ไหน มันก็น่าจะดีกว่าทนฝืนใจอยู่กับครอบครัวใหม่ที่ตัวเธอเหมือนเป็นส่วนเกิน
ปรี๊น! ปรี๊นน!
เสียงแตรรถยนต์ที่ขับเข้ามาใกล้ เรียกให้คนที่กำลังเดินร้องไห้ไปตามทางหยุดชะงักและหันไปมองที่มาของเสียงพร้อมกับดวงตาแดงก่ำ
รถยนต์คันเล็กสีดำขลับทั้งคันที่กมลชนกคุ้นตาหยุดลงข้างเธอ ก่อนที่เจ้าของรถจะลดกระจกลงและชะโงกหน้ามาถาม
"เกลมาทำอะไรตรงนี้ แล้วนั่น...ร้องไห้ทำไมน่ะ เกิดอะไรขึ้น" คริษฐ์ ซึ่งเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"เกลกำลังจะไปหาครีมค่ะ พี่เค้ก"
"แล้วทำไมไม่ให้คุณอามาส่ง นี่มันหกโมงเย็นแล้วนะเกล ที่นี่ตอนกลางคืนเปลี่ยวจะตาย ทำไมถึงได้ออกมาเดินร้องไห้คนเดียวแบบนี้ รีบขึ้นรถเร็วเข้า" คริษฐ์รีบชวนเพื่อนน้องสาวขึ้นรถด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ว่านั่นจะสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนสาวของเขาที่นั่งอยู่ข้างกันก็เถอะ
"แพรว่าเค้กส่งน้องเขากลับบ้านดีไหมคะ สภาพนี้คงไม่พ้นทะเลาะกับคนที่บ้านมาแหงๆ แพรไม่อยากให้เค้กมีปัญหา"
"เกลไม่อยากกลับบ้านค่ะ" กมลชนกบอก
"โอเค พี่จะพาเกลไปหาครีม ขึ้นมาสิ"
"เค้ก! " แพรขวัญแหวใส่แฟนหนุ่ม
"ไม่เอาน่าแพร เกลเป็นเพื่อนสนิทครีม เวลานี้ครีมน่าจะปลอบใจเกลได้ดีที่สุด ให้น้องไปอยู่บ้านเค้กก่อนก็ไม่เห็นเป็นไร เห็นคุณย่าเล่าให้ฟังว่าเกลไปนอนค้างที่บ้านกับครีมออกบ่อย คุณอากมลาศกับเค้กก็รู้จักกัน เรื่องนี้เค้กเคลียร์ได้" คริษฐ์อธิบาย
"แต่มันเป็นปัญหาของคนอื่นไงเค้ก"
"เอาน่า เค้กก็เห็นเกลเป็นน้องสาวคนหนึ่ง ให้น้องขึ้นรถมากับเราก็ดีกว่าปล่อยให้เดินไปเรื่อยๆ คนเดียวนะ" เขาบอก
"นี่เค้กกำลังหาเรื่องใส่ตัวอยู่นะ"
"แพรครับ" คริษฐ์ปรามแฟนสาวเสียงทุ้ม
"ก็ได้ๆ แล้วแต่เค้กแล้วกัน"
"ขอบคุณค่ะ คนดี" คนกลัวแฟนโกรธเอ่ยเสียงหวาน แล้วหันมาชวนคนที่ยืนอยู่ข้างรถให้ขึ้นมาอีกครั้ง "รีบขึ้นมาสิเกล"
"เกลเกรงใจพี่เค้กค่ะ"
"ขึ้นมาเถอะ ยังไงก็ต้องไปทางเดียวกันอยู่แล้ว เร็วเข้า"
กมลชนกพยักหน้ารับ และยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของตน
ตลอดระยะทางที่ทั้งสามนั่งรถมาด้วยกัน กมลชนกลอบสังเกตท่าทีพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจของคริษฐ์ที่มีต่อแพรขวัญอยู่หลายครั้งด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบในอก