บท
ตั้งค่า

ตอนที่5 ไปส่ง

ยี่สิบนาทีผ่านไป...

พี่ว้ากสั่งเลิกแถว เพราะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ พวกปี1 จึงพากันแยกย้าย สามสาวเดินมาหาสองหนุ่มพอดี

“อ้าว พวกเธอกลับกันไง” จั๊มพ์ถามสามสาวก่อน

“ฉันกลับแท็กซี่” แพรวตอบ

“ฉันก็แท็กซี่” ลูก้าตอบ

“ฉันนั่งรถเมล์”

ขวับ!

ทุกสายตาหันไปมองสมายด์ เธอทำหน้าฉงนกวาดสายตามองเพื่อน ๆ กลับ

“ทำไมพวกเธอทำหน้าอย่างงั้น”

“บ้านเธออยู่แถวไหน” แพรวถาม

“เขตบางซ่อน”

“โหววว ไกลจากนี้มากนะ”

“อืม นั่งรถเมล์สองต่อเอง ฉันกลับก่อนดีกว่า กว่าจะถึงบ้านอีกตั้งหลายชั่วโมง”

“งั้นโชคดีนะสมายด์”

ร่ำลากันเสร็จเรียบร้อย สมายด์ก็จ้ำอ้าวไปทางประตูใหญ่ ในกลุ่มเลยหันมาสนทนากันต่อ มีแต่ปาร์ตี้เท่านั้นที่กำลังมองแผ่นหลังบาง ห่างไปเรื่อย ๆ

“ไอ้ตี้มึงกลับแท็กซี่ใช่ไหม กูขอไปลงกลางทางด้วย ขี้เกียจเสียเงินเพิ่ม” จั๊มพ์กอดคอเพื่อนรัก แต่แทนที่เขาจะหันไปตอบ กลับปัดแขนเพื่อนทิ้ง แล้วเอ่ยในขณะที่สายตากำลังมองแผ่นหลังสมายด์ออกประตูใหญ่ไปแล้ว

“กูกลับก่อนก็แล้วกัน”

ปาร์ตี้ไม่รอคำตอบจากใคร รีบวิ่งตามสมายด์ออกไปอย่างไว ความเร็วมีเท่านั้นเขาใส่ไม่ยั้ง จนทันสมายด์พอดี

“สมายด์ ๆ รอด้วย”

เจ้าของชื่อหันขวับกลับมา “มีอะไรเหรอตี้”

“กลับรถเมล์ใช่ไหม”

“อื้ม”

“กลับด้วยดิ”

“เอ๊ะ!”

“บ้านกูอยู่ทางนั้นพอดี”

จริง ๆ บ้านปาร์ตี้อยู่คนละฟากกันเลย แต่ใจมันอยากไปส่งเธอ ก็เลยอ้างออกไปแบบนั้น

“จริงดิ งั้นรีบเลยเดี๋ยวรถเมล์มาจะขึ้นไม่ทัน” เธอเอ่ยจบก็วิ่งนำไป

แล้วไหนบอกไม่ชอบวิ่งวะ...วิ่งเร็วฉิบหาย เออ! แล้ววันนี้กูก็วิ่งทั้งวันด้วยนะ เฮ้อชีวิต...

ปาร์ตี้บ่นในใจ แล้วก็วิ่งตามหลังคนตัวเล็กไป จนถึงหน้าปากซอย เขายังไม่ทันพักหายเหนื่อย รถเมล์คันสีแดงก็มาพอดี

“ไปตี้!”

รถจอดปุ๊บ เธอก็อาศัยว่าตัวเองตัวเล็กแทรกกลุ่มคนที่กำลังรอขึ้นรถไปก่อน ทิ้งปาร์ตี้ให้เงอะงะอยู่ด้านหลัง จะบอกว่าเป็นสิบ ๆ ปีแล้วมั้งที่ปาร์ตี้ไม่ได้ขึ้นรถเมล์...

รถเมล์แออัดมากเต็มไปด้วยนักศึกษากับคนทำงาน ปาร์ตี้ชะโงกหาคนตัวเล็ก โน้น ๆ เธอนั่งอยู่บนเบาะคู่แถวหลังสุดกับป้าแก่ ๆ คนหนึ่ง ปาร์ตี้เลยแทรกตัวขอทางคนที่ยืนเกาะราวรถเมล์เดินไปหาสมายด์ด้วยความลำบาก

แล้วในที่สุดก็ถึงเก้าอี้แถวเดียวกับที่เธอนั่งอยู่ เขาเลือกจะยืนตรงนี้ เพราะไม่อยากห่างจากเธอ แต่พอรถเมล์เบรกที คนตัวสูงก็โยกไปด้านหน้าชนกับแผ่นหลังผู้ชายเข้าอย่างแรง จึงรีบขอโทษเขายกใหญ่ พอรถเมล์เริ่มขับต่อ เขาก็กระตุกเอนไปด้านหลังชนเข้ากับคนด้านหลังอีก ท่าทางเฟอะฟะทำให้สมายด์อดขำไม่ได้

ผ่านไปสักพัก...

ป้าแก่ ๆ ที่นั่งข้างสมายด์ก็ลงไป ปาร์ตี้เลยได้โอกาสนั่งใกล้ ๆ เธอ หัวไหล่คนตัวเล็กมาชนแขนของเขา ใกล้ชิดกันมากจนหัวใจชายหนุ่มเต้นแรง ดีที่รถเมล์เสียงดัง ไม่งั้นเธอคงได้ยินเสียงหัวใจของเขาแล้ว

ทว่า...

คนเล็กผงกศีรษะมาพิงที่ไหล่กว้าง...ปาร์ตี้เหลือบไปมอง สมายด์กำลังหลับ เขายกมือส่ายไปมาที่ใบหน้าสะสวย เพื่อดูว่าเธอหลับจริงเปล่าหรือแค่แกล้ง สรุปหลับจริง เขาเลยขยับศีรษะเธอให้พิงลงมาที่ไหล่ เพื่อที่จะได้ไม่เมื่อย ตัวเองยอมเป็นฝ่ายเมื่อยแทน

สิบนาทีผ่านไป

จู่ ๆ คนตัวเล็กก็เปิดตา นั่งตัวตรง หันซ้ายหันขวาดูเส้นทางข้างหน้า

“อ้าว! ใกล้ถึงแล้วเนี่ย ถอยหน่อย ๆ ฉันต้องลงป้ายนี้”

ท่าทางเธอร้อนรนมาก ปาร์ตี้ก็งง ๆ หลบขาไปด้านข้างให้เธอก้าวออกไป พอรถเมล์จอดคนตัวเล็กก็ก้าวลงไป ปาร์ตี้เลยรีบตามเธอไปเช่นกัน

“อ้าวตี้ลงป้ายนี้เหมือนกันเหรอ”

“อ๋อ! อื้ม” เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตรงนี้คือที่ไหน

“ทางเดียวกันเหรอ”

“อื้มคงจะใช่”

รอไม่นานรถเมล์คันสีน้ำเงินก็วิ่งมา คราวนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่ ทั้งคู่เลยได้นั่งสบาย ๆ แล้วสมายด์ก็หลับต่อ

หลับง่ายจริง ๆ แถมเมื่อครู่ยังตื่นมาทันจังหวะพอดิบพอดีอีก...เหลือเชื่อ

แล้วเธอก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง...รอบนี้เธอตะโกนบอกคนขับรถเมล์

“จอดป้ายหน้าให้ด้วยนะคะ”

คนขับชะลอความเร็วให้ เจ้าตัวก็รีบไปยืนรอหน้าประตู ปาร์ตี้เองก็เช่นกัน ทำเอาคนตัวเล็กต้องหันมาถามด้วยความสงสัย

“ตกลงบ้านตี้อยู่แถวนี้เหรอ”

“หา! เอ่อ...ไม่ใช่ ๆ” เขามองไปนอกหน้าต่าง เห็นตลาดพอดี เลยเอ่ยต่อ

“มาตลาดแถวนี้น่ะ”

“จริงดิ! ฉันขายเสื้อผ้าอยู่ในตลาดนี้ด้วย ว่าง ๆ ไปอุดหนุนสิ อ่ะ! มีแต่เสื้อผ้าผู้หญิงนะ ตี้คงใส่ไม่ได้”

“กูซื้อไปฝากคนอื่นได้นิ”

“หรือว่าฝากแฟน ฮั่นแน่! มีแฟนแล้วใช่ไหม” เธอใช้หลังมือตีเบา ๆ เข้าที่อกแกร่งเชิงเล่น

“กูโสด” จังหวะที่เขาตอบ ประตูรถเมล์เปิดออกพอดี เสียงประตูทำให้สมายด์ไม่ได้ยิน เธอก้าวลงไปก่อน แล้วตามด้วยปาร์ตี้

“ฉันไปก่อนนะตี้” สมายด์เอ่ยจบยกมือขึ้นโบกลาแล้ววิ่งแจ้นเข้าไปในตลาด โดยไม่ได้รอคำพูดต่อจากปาร์ตี้สักคำ

เขาไม่เคยมาย่านนี้...ยกข้อมือดูนาฬิกาตอนนี้ปาเข้าไปเกือบหกโมงเย็น จะให้เรียกแท็กซี่กลับตอนนี้เลยก็เปลืองเงินเพราะเป็นเวลาคนอื่นเลิกงานพอดีรถกำลังติด

“ไหน ๆ ก็มาตลาดแล้ว เดินเล่นหน่อยก็แล้วกัน”

ชายหนุ่มบ่นพึมพำ ก่อนจะตัดสินเดินเข้าไปในตลาด ผู้คนมากมายต่างเบียดเสียดกันเดินเลือกซื้อของ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสดหรืออาหารปรุงสำเร็จก็มีให้เลือกสรรมากมาย ปาร์ตี้จำได้ว่าสมายด์บอกจะมาขายเสื้อผ้า เขาเลยเดินลึกเข้าไปในตลาด ตรงไปยังแผนกขายเสื้อผ้า แล้วทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงสมายด์ดังลั่นก่อนจะเห็นเจ้าตัวเสียอีก

ปาร์ตี้เดินตามเสียงมา พอเห็นสมายด์กำลังขายเสื้อผ้ามือสองอยู่ เขาเลือกที่จะดูเธออยู่ห่าง ๆ ไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายเวลาเธอทำงาน ไม่ว่าเมื่อไหร่เธอก็ดูทะมัดทะแมง แข็งแรง วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน แต่แรงเธอก็ยังดีอยู่

สองชั่วโมงผ่านไป...

ตลาดเริ่มวาย บางร้านเริ่มเก็บของไปแล้ว ลูกค้าก็เริ่มจาง สมายด์กำลังพับเสื้อผ้าเก็บ ปาร์ตี้ได้โอกาสกำลังจะเดินไปหา แต่มีผู้หญิงวัยสี่สิบปลาย ๆ เดินเข้าไปหาเธอก่อน

“เหนื่อยหน่อยนะลูก”

“ไม่เป็นไรค่ะแม่”

ที่แท้ก็เป็นแม่ของเธอ เขาเลือกที่จะไม่เดินเข้าไป หันหลังกลับออกมาจากตลาด เพราะไม่อยากไปขัดจังหวะสองแม่ลูก

จังหวะนั้นสมายด์หันมาเห็นแผ่นหลังกว้างจากไกล ๆ เธอคิดว่าเป็นคนอื่นจึงไม่สนใจอะไร นั่งพับเสื้อผ้าเก็บต่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel