ตอนที่ 2
หญิงสาวผู้มาเยือนก้าวตามร่างอวบของป้าดวงที่เดินนำหน้าผ่านลานหญ้าหน้าบ้านเข้ามาใกล้กับเทอเรซ แลเห็นอยู่ไม่ไกล
บ้านหลังนี้ใหญ่โตเหลือเกิน ถ้าจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็คงไม่ผิด ที่ลานโลงหน้าบ้านโอบล้อมเอาไว้ด้วยประดู่ต้นใหญ่ แผ่กิ่งก้านร่มครึ้มอยู่ที่หน้าบ้าน โรยดอกดวงเล็กๆ สีเหลืองอร่ามลงบนลานหญ้าสีเขียวขจี
ริมรั้วบ้านมีต้นสนขนานไปเป็นแนวยาว ทางเดินเล็กๆ ในบ้านก็มีรั้วเช่นกัน เป็นรั้วไม้ที่ถูกคลุมเอาไว้ด้วยใบสีเขียวเล็กๆ ของต้นตีนตุ๊กแก เกาะกันหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นไม้
“เชิญข้างในจ้ะ... ”
ป้าดวงบอกพลางเดินนำเข้ามาในห้องรับแขก ทว่ากลับไม่พบผู้เป็นนาย
“เอ๊ะ... คุณดำหายไปไหน สงสัยจะเดินขึ้นไปบนห้อง... หนูนั่งรอก่อนนะจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ร่างบอบบางทรุดลงนั่งบนเก้าอี้หนังราคาแพง
“โน่นไงคะ...คุณอดัมส์กำลังเดินลงมาพอดี”
สายตาของป้าดวงเหลือบไปยังบันไดหินอ่อนสีขาวดูหรูหรา วนเป็นเกลียวโค้งลงมาจากชั้นสองของบ้าน
“ไหว้คุณอดัมส์สิจ๊ะ”
ป้าดวงรีบบอก เมื่อเห็นหญิงสาวผู้มาเยือนตะลึงมองผู้เป็นเจ้าของบ้านตาไม่กระพริบ
“สวัสดีค่ะ”
สายตาตะลึงพรึงเพริดของปานจันทร์ยังจับจ้องอยู่ที่เค้าโครงร่างสูงใหญ่ของชายผู้ที่กำลังก้าวลงมาจากบันได
อดัมส์เป็นชาวต่างชาติ เพราะว่ามีสายเลือดผสมละตินอเมริกัน ผิวของเขาจึงดูคมเข้ม โครงร่างสูงใหญ่เกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร ท่วงท่าการเดินดูงามสง่าสมชายชาตรี
“ไม่คิดว่าจะโตเร็วขนาดนี้”
อดัมส์ตกใจเช่นกันที่ได้เห็นหน้าหญิงสาว โอ้พระเจ้า... หล่อนทั้งสวยทั้งเซ็กซี่สะดุดตาเขาเหลือเกิน ความจริงอดัมส์อยากจะกล่าวชมมากกว่านี้ แต่ก็พยายามซ่อนอาการเอาไว้
อดัมส์จดจำได้ว่าเคยเห็นรูปถ่ายของปานจันทร์เมื่อนานมาแล้ว เมื่อครั้งที่เริงรตีเคยให้ดู แต่นั่นก็นานหลายปีมาแล้ว เพราะว่าเป็นรูปถ่ายตอนที่หล่อนยังเรียนมัธยมกระมัง นับมาถึงตอนนี้คิดว่าปานจันทร์ก็น่าจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยและคงใกล้จบแล้ว
“ฉันดีใจนะ... ที่เธอมา”
ร่างสูงสง่าทรุดลงนั่งบนโซฟา ขณะสายตาของหญิงสาวยังจับจ้องสำรวจเรือนร่างของเขาไม่วางตา
อดัมส์เป็นผู้ชายตัวใหญ่มาก แต่รูปร่างก็สมส่วนและสง่างาม ปั้นใหญ่กว้าง แผงอกผึ่งผายอยู่ภายใต้ชุดลำลองเรียบง่ายแต่ก็ดูสมาร์ท
เขาสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลหลวมๆ เสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลสลับขาวลายตารางเรียบหรู กระดุมเม็ดแรกนับจากแนวบนสุดของสาบเสื้อที่ไม่ได้ติดเอาไว้ เผยให้เห็นแพขนสีดำเลื่อมพรายแพลมออกมาอวดความเซ็กซี่
อดัมส์เป็นผู้ชายที่ขนดกมาก เส้นขนบางส่วนเลื้อยไล่ขึ้นมาจากแผงอกกว้าง สูงขึ้นมาเกือบถึงลำคอและใต้คาง มองไวๆ ก็คล้ายพวกแขกขาว ช่วงไหล่กว้างรับกับต้นคอบึนหนาดูแข็งแรง
“ที่มานี่ต้องการให้ฉันช่วยเหลืออะไรหรือเปล่า”
อดัมส์ถามไม่อ้อม ปานจันทร์เคยได้ยินได้ฟังมาจากคำบอกเล่าของมารดาว่าสามีใหม่คนนี้เป็นคนใจดีใจกว้าง
“หนูเพิ่งเรียนจบค่ะ... เลยตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย อยากพักผ่อนสมองก่อนจะกลับไปเริ่มงานที่อเมริกา... ระหว่างนี้หนูอยากพักที่นี่จะได้ไหมคะ”
ปานจันทร์บอกไปตามความจริง
“ได้สิ”
อดัมส์รีบอนุญาต เขาจะปฏิเสธหล่อนได้ยังไง เพราะว่าเริงรตีเคยฝากเอาไว้เหมือนเป็นลางก่อนตายเพราะอุบัติเหตุเครื่องบินตก ว่าอยากให้อดัมส์ช่วยดูแลลูกสาวของหล่อนต่อไป ทว่าปานจันทร์นั่นเองที่เป็นฝ่ายดื้อดึงและตั้งแง่ ไม่ยอมมาอยู่ในความดูแลของเขา
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวยกมือไหว้อีกครั้ง สายตายังไม่ละจากใบหน้าหล่อเหลาของอดัมส์
หล่อนสะดุดตาเขาตั้งแต่ครั้งแรก แม้ประกายในดวงตาสีสนิมเหล็กของพ่อเลี้ยงคนนี้จะดูสุขุมนุ่มลึก หากหล่อนก็รู้สึกได้ว่ามันแฝงเร้นไว้ด้วยแววเร่าร้อนบางอย่างที่ซุกซ่อนเอาไว้... และมันทำให้หญิงสาวมั่นใจว่าพ่อเลี้ยงคนนี้ต้องเป็นคนเซ็กส์จัดแน่ๆ
“เพิ่งมาถึงเหนื่อยๆ... กินข้าวมาหรือยัง”
เจ้าของบ้านจ้องมองเรือนร่างรัดรึงไม่วางตา ปานจันทร์มีทรวดทรงองค์เอวเย้ายวนมาก ทรวงอกของหล่อนอวบใหญ่เตะตา สะโพกกลมกลึงรับกับช่วงขาเรียวยาวน่ามอง
“ยังไม่หิวค่ะ”
ปานจันทร์ส่ายหน้า ตามองสบตาไม่ลดละ หล่อนยอมรับว่าอดัมส์เป็นผู้ชายที่หล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก ไม่สงสัยแล้วว่าเพราะเหตุใดนางเริงรตีมารดาของหล่อนจึง